xs
xsm
sm
md
lg

กรมศุลฯ รวบขบวนการลักลอบขนตัวนิ่ม 122 ตัวส่งออกนอก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติสัตว์ป่าคุ้มครอง (ตัวนิ่ม 122 ตัว)
สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร จับกุมสองหนุ่มอุดรฯ รับจ้างขนตัวนิ่มจากภาคใต้ไปอีสาน โดยซุกซ่อนมาในรถฟอร์จูนเนอร์ จนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังสืบทราบความเคลื่อนไหวนำกำลังบุกขอเข้าตรวจค้นพบตัวนิ่ม 122 ตัว มูลค่ากว่าล้านบาทอยู่ในรถ สารภาพรับจ้างขนเที่ยวละ 5 พันบาท เผยทำมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นสมาชิกในขบวนการ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (22 พ.ย.) ที่กรมศุลกากร นายไพศาล ชื่อจิตร ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยนายนิมิต แสงอำไพร ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติสัตว์ป่าคุ้มครองได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายสุริยา ศรีพุทธา อายุ 29 ปี และนายกิตติกร ไชยยันโต อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี พร้อมของกลางตัวนิ่มจำนวน 122 ตัว รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียนปลอม 1กฌ 3011 กรุงเทพมหานคร โดสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 361 ถนนเพชรเกษม ใกล้ตลาดอำเภอทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายไพศาลเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทางกรมศุลกากรมีนโยบายในการสกัดควบคุมและปราบปรามการลักลอบนำสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ภายใต้พระราชบัญญัติสัตว์สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Cites) ประกอบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฝ่ายปราบปราม 2 กรมศุลกากรได้สืบทราบว่ามีขบวนการลักลอบขนย้ายสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดตัวนิ่มที่ได้ขนย้ายผ่านทางช่องทางชายแดนระหว่างประเทศภาคใต้จึงมีการลงพื้นที่เพื่อทำการหาข่าววางแผนทำการจับกุมผู้กระทำความผิด

นายไพศาลกล่าวอีกว่า โดยเมื่อเวลา 00.15 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 พ.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ผ่ายสืบสวนปรามปรามได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีรถต้องสงสัยขับมาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 361 ถนนเพชรเกษม ใกล้ตลาดอำเภอทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าจับกุมรถต้องสงสัยคันดังกล่าว จากนั้นทำการตรวจค้นพบผู้ต้องหา 2 รายและมีตัวนิ่มอยู่ในรถบรรจุอยู่ในตะกร้าพลาสติกจำนวน 122 ตัว รวมมูลค่ากว่าล้านบาท ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่กรมศุลกากร

นายไพศาลกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ขนตัวนิ่มมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อนำไปส่งยังจังหวัดทางภาคอีสานเคยขนย้ายมาแล้ว 5 ครั้งได้ค่าจ้างขนย้ายคนละ 8,000 บาทต่อครั้ง แต่ยังไม่ยอมรับสารภาพในส่วนของขบวนการแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อทำการขยายผล นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากแนวทางการสืบสวนทราบว่า การขนย้ายสัตว์สงวนตัวนิ่มทั้งหมดนี้ได้รับซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านทางชายแดนภาคใต้ คือ ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย ในราคาตัวละ 5,000 บาท เพื่อนำไปส่งให้สาธารณรัฐประชาชนลาว ขายในราคาตัวละ 20,000 บาท ซึ่งมีจุดหมายปลายทางที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นช่องทางการขนย้ายมาโดยตลอด


กำลังโหลดความคิดเห็น