ประจวบคีรีขันธ์ - ตชด.146 ประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลังจับกุมชาวพม่าที่ลักลอบค้าสัตว์ป่าขายให้นักเปิบสัตว์ป่าคาตลาดการค้าชายแดนด่านสิงขร ได้ กระจง อีเห็น ตัวนิ่ม เม่น และซากเนื้อเก้ง จำนวนมาก ขณะที่การนำกล้วยไม้ป่าจากฝั่งเข้าพม่ามาขายในตลาดการค้าชายแดน ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าจับกุม รวมไปถึงการขนไม้จากฝั่งพม่าเข้าไทยตั้งโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์
วันนี้ (22 พ.ย.) พ.ต.ท.ฉลาม พงษ์เพชร ผบ.ร้อย ตชด.146 ร.ต.ท.เวิน ไชยอาษา ผบ.หมวด ตชด.1462 นายปรีชา วิทยพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ท.ประศาสน์ ทองปัอง หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าเกาะหลัก กองคุ้มครองอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตรส พ.ต.สมโภชน์ เหมือนทิพย์ ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1404 ร่วมกันทำการจับกุมซากสัตว์ป่าจำนวนมากที่บริเวณตลาดจุดผ่อนปรนด่านสิงขร (ตลาดใหม่) หมู่ที่ 6 บ้านไร่เครา ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.ท.ฉลาม พงษ์เพชร ผบ.ร้อย ตชด.146 กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีชาวพม่าเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์นำซากสัตว์ป่าสงวน และคุ้มครองจากตลาดการค้าชายแดนด่านสิงขร มีกระจง อีเห็น ตัวนิ่ม เม่น และซากเนื้อเก้งจำนวนมากจะนำไปขายให้ผู้ประกอบการร้านอาหารป่าเพื่อปรุงเป็นอาหารให้แก่นักเปิบสัตว์ป่า จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดชุดเฉพาะกิจดักซุ่มเพื่อจับกุม
ต่อมา พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีชาย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ลงมาจากตลาดจุดผ่อนปรนด่านสิงขร มีท่ามีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบถุงปุ๋ยสีขาวบรรจุสิ่งของมัดปากตั้งอยู่ 1 ใบ บริเวณหน้าคนขับ จึงได้ทำการเปิดออกดูก็พบว่าเป็นซากสัตว์ป่าหลายชนิดจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปสอบสวนที่กองร้อย ตชด.146 ทราบชื่อ นายมีเนม อายุ 32 ปี ชาวพม่า นายโซ อายุ 35 ชาวพม่า จากการตรวจสอบพบ กระจง 3 ตัว อีเห็น 2 ตัว ตัวนิ่ม 2 ตัว เม่น 1 ตัว และซากเนื้อเก้ง หนัก 6.5 กิโลกรัมเจ้าหน้าที่จึงได้อายัดไว้
นายมีเนม ชาวพม่ายอมรับสารภาพว่า ซากสัตว์ป่าเป็นของตนเองโดยรับซื้อจากชาวพม่าด้วยกันแอบลักลอบนำเข้ามาทางป่าข้างด่านตรวจ เพื่อเป็นการหลบหลีกไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น แล้วนำมาพักไว้ในตลาด จากนั้นก็จะนำไปส่งให้แก่ลูกค้าที่สั่งไว้ตามจุดนัดหมาย
เบื้องต้น พ.ต.ท.ฉลาม พงษ์เพชร ผบ.ร้อย ตชด.146 ได้แจ้งข้อหานายมีเนม และนายโซ ชาวพม่าทั้ง 2คน หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และทำอาชีพค้าขายที่ต้องห้าม และยังมีความผิดในข้อหาค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และสัตว์ป่าสงวนไว้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งกระจง อีเห็น ตัวนิ่ม เม่น และเนื้อเก้ง หลังจากนั้น จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีนักอนุรักษ์ที่เดินทางมาเที่ยวตลาดการค้าชายแดนด่านสิงขร ยังให้ข้อมูลด้วยว่า บริเวณตลอดการค้าชายแดนด่านสิงขร ยังกลายเป็นจุดที่ปล่อยให้มีการนำกล้วยไม้ป่า จากประเทศพม่า ที่มีบัญชีห้ามตามอนุสัญญาไซเตรส เข้ามาขายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์ และอาทิตย์ รวมไปถึงการนำไม้ที่การโค่น และตัดเป็นท่อน รวมทั้งแปรรูปข้ามจากฝั่งพม่าข้ามมายังฝั่งไทย ตั้งโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ขายโดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และจับกุมแต่อย่างใด