ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - 1 สัปดาห์หลังการ “รัฐประหาร” ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ประเทศไทยยังคงสงบและไร้วี่แววของการต่อต้านอย่างมีนัยสำคัญ จะมีบ้างก็แต่บรรดาคนเสื้อแดงที่แปลงร่างมาในคราบของกลุ่มต่อต้านการรัฐประหารให้เห็นบ้างประปราย หรือไม่ก็จำพวกนักวิชาการและประชาชน “กลุ่มโลกแคบ” ที่ท่องคัมภีร์ประชาธิปไตยเป็นสรณะ โดยไม่สนใจใยดีกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ประเภทว่า ขอให้มีรัฐประหาร ไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะชั่วช้าสารเลว หรือทุจริตมโหฬารเพียงใด (กู) ก็ไม่สนใจ ประหนึ่งว่า ไม่มีประชาธิปไตยชั่วครู่ชั่วยามแล้วประเทศไทยจะพินาศฉิบหายอะไรอย่างนั้น
จริงอยู่รัฐประหารเป็นสิ่งไม่ดี และ“ลุงอ้วน” ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้วยวิธีแบบนี้ แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว ต้องยอมรับว่า ไม่มีวิธีอื่นใดที่ดีกว่านี้สำหรับประเทศไทย
เพียงแต่ขอให้การรัฐประหารครั้งนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของประเทศไทย เพราะต้องยอมรับว่า การรัฐประหารครั้งนี้คือ การเสี่ยงใช้ “ต้นทุนสุดท้าย” ที่ประเทศไทยมีอยู่ออกมาแลกกับการแก้ไขปัญหาของประเทศ
ถ้าทำแล้วเสียของ ถ้าทำแล้วแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเองและพวกพ้อง ผู้ทำก็จะปิดฉากอนาคตของตัวเองไปโดยปริยาย แต่ถ้าทำดี เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นบุคคลที่จะถูกจารึกเอาไว้ในทำเนียบรัฐบุรุษของประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะต้องตระหนักถึงภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ให้จงหนัก
ไปที่เรื่องอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจาก มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด นำโดย รศ. ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล อธิการบดี (ที่ 4 จากซ้าย) มร. จิลลส์ คลอเด เบอร์นาด มาเฮ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Laureate International Universities ประเทศไทย (ที่ 3 จากขวา) ดร.อภิเทพ แซ่โค้ว คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย (ที่ 2 จากขวา) และ สตีเฟน เอ็ม ไรอัน (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ หลักสูตรปริญญาตรี จัดงานแถลงข่าวในหัวข้อ “สุดยอดนวัตกรรมด้านการศึกษา นำพาบัณฑิตสู่ความสำเร็จระดับสากล” นำเสนอสองนวัตกรรมใหม่ทางการศึกษาที่โดดเด่น ได้แก่ หลักสูตรปริญญาตรีสองภาษา (Bilingual) และหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) และพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมสิ่งอำนวยการเรียนการสอนที่ทันสมัย ณ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตกรุงเทพฯ
ตามต่อด้วยนายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหารสำนักงานสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (ที่ 6 จากซ้าย) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานประชุมนานาชาติ ปี 2557 เรื่อง “ความหลากหลายทางชีวภาพกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชีวภาพ ภายใต้หัวข้อ “ความหลากหลายทางชีวภาพสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานชีวภาพ: โอกาสและความท้าทายของชาวโลก” โดยมีผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และวิทยากรจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งในและต่างประเทศ กว่า 10 ประเทศ เข้าร่วมงาน
ด้านนายอิศรา สุนทรวิภาต (ซ้าย) ที่ปรึกษากิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มอบเงินจำนวน 50,000 บาท แก่นางทัศนีย์ เทพไชย (ขวา) หัวหน้าหอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ เพื่อสนับสนุนโครงการย่ามปัญญา ในการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กนักเรียนในการพัฒนาความรู้และทักษะสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เมื่อเร็วๆนี้ ที่หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรีฯ
และปิดท้ายกับ วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (TPO) ได้รับเกียรติจากนักแต่งเพลงชาวอเมริกันผู้มากความสามารถอย่าง James Ogburn ให้แสดงผลงานของเขาหลายต่อหลายชิ้นเพื่อให้ผู้ชมได้รับฟังกันเป็นครั้งแรก โดยผู้ชมจะได้รับฟังเพลงใหม่ของเขา Concerto for Accordion and Orchestra ที่นี่ บรรเลงแอคคอร์เดียนโดย Heidi Luosujärvi อำนวยเพลงโดย Claude Villaret ในวันที่ 6 มิถุนายน 2557 เวลา 19.00 น. และที่ 7 มิถุนายน 2557 เวลา 16.00 น. ณ หอเเสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล บัตรราคา 500, 300 และ 100 บาท (สำหรับนักเรียนและนักศึกษาไม่เกินระดับปริญญาตรี)
สำรองที่นั่งได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร 0 2262 3456 หรือwww.thaiticketmajor.com ข้อมูลเพิ่มเติม โทร 0 2800 2525-34 ต่อ 153, 154 หรือ www.thailandphil.com
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com
คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน
นาค บัลลังก์พระนารายณ์ ผู้พิทักษ์พระศาสนา
เป็นที่น่าสนใจว่า ในคติความเชื่อของวิถีแห่งสังคมไทยได้มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ “นาค” อันเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในมิติของประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศาสนาพุทธมาช้านาน...
กล่าวได้ว่า ความเป็นมาของนาคเป็นเรื่องราวที่ควรค่าแก่การศึกษา ดังเรื่องเล่าที่สืบทอดจากอดีตกาลที่ปรากฏออกมาเป็นหลักฐานถึงความเชื่อของคนไทย อาทิ พุทธศิลป์ปางนาคปรก เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช รวมถึงวรรณคดีเรื่อง “ไตรภูมิ เอกสารจากหอสมุดแห่งชาติกรุงปารีส” ฯลฯ
คอลัมน์หนังสือน่าอ่านฉบับนี้จึงมีหนังสือเรื่อง นาค บัลลังก์พระนารายณ์ ผู้พิทักษ์พระศาสนา เรียบเรียงโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศานติ ภักดีคำ มาแนะนำกัน โดยหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของนาคได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งผู้เขียนยังคัดรวมเฉพาะเนื้อหาสำคัญ ไม่ยืดเยื้อ อ่านง่าย โดยได้แบ่งเนื้อหาออกเป็น
นาคตามคติที่ได้รับจาก “เทพปกรณัมฮินดู” ที่ผู้เขียนได้อธิบายไว้ว่า นาคเป็นบัลลังก์ของพระวิษณุ มีการนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยโบราณ รวมถึงนาคที่ไทยรับความเชื่อผ่าน “คัมภีร์พระพุทธศาสนา” เช่นพระไตรปิฎก คัมภีร์ชาดกอรรถกถา และคัมภีร์โลกศาสตร์ และนาคที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อดั้งเดิมของดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันเป็นสัญลักษณ์หมายถึงกลุ่มชนดั้งเดิมในดินแดนนี้ ดังที่ปรากฏในพระทองนางนาค ตำนานเมืองหงสาวดี ฯลฯ
ความหลากหลายของนาคที่อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน หลายคนจึงอาจจะยังไม่ทราบดีนักว่า นาคมีความเป็นมาอย่างไร และเกี่ยวข้องกับสังคมไทยในมิติไหนบ้าง
ฉะนั้น หากใครอยากรู้ตำนานกำเนิดของนาค หนังสือเล่มนี้คงจะช่วยไขข้อสงสัยไม่มากก็น้อย
...ว่าแล้วก็หาซื้อมาอ่านกันดีกว่า
แสงเพ็ง