ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-คงต้องบอกว่า ประเทศไทยเวลานี้กำลังมีปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ 3 อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหารและอำนาจตุลาการ
ระบบการเลือกตั้งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ชัดเจนแล้วว่า ไม่สามารถทำให้ได้นักการเมืองที่ดีเข้ามาออกกฎหมายเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่สามารถทำให้ได้คนดีเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนก็คือ กรณีของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตราบใดที่สามารถคุมเสียงข้างมากในสภา ก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะกระทำเรื่องใดๆ ได้ตามใจชอบ แม้ว่าเรื่องนั้นจะมีเสียงคัดค้านดังกระหึ่มทั่วทั้งแผ่นดินสักเพียงใดก็ตาม
ต่อไปนี้ ใครใคร่โกงก็ทำกันไป
ต่อไปนี้ ใครใคร่เผาบ้านเผาเมืองก็ทำกันไปย่างสบายใจเฉิบ
ขอเพียงแค่มีอำนาจ มีเงิน มี ส.ส.อยู่ในมือ ก็สามารถกลับดำให้กลายเป็นขาว สามารถออกกฎหมายมาลบล้างความชั่วและความผิดที่ก่อเอาไว้ได้
ขณะที่กระบวนการยุติธรรมก็หนักหนาสาหัสไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน โดยเฉพาะ “ตำรวจ ดีเอสไอ อัยการ” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในชั้นต้นและชั้นกลางของกระบวนการยุติธรรม
บิ๊กตำรวจก็ชัดเจนว่ามีวันนี้เพราะพี่ให้
บิ๊กดีเอสไอก็ใช้กฎหมายเล่นงานฝ่ายตรงข้ามสุดลิ่มประตู
บิ๊กอัยการบางคนพอเกษียณอายุราชการแล้ว ก็ได้รับการปูนบำเหน็จให้เป็นรัฐมนตรี
ส่วนทหารไม่ต้องพูดถึง เพราะวันนี้สะกดเป็นแค่คำว่า “รสโอชา” เพียงคำเดียวเท่านั้น
ถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วต่อไป อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
คำตอบง่ายๆ ก็เป็นไปอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี่ล่ะครับ
ยิ่งในสถานการณ์ที่ประชาชนไม่ตื่นตัว ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ไปที่เรื่องอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจากธนาคารซิตี้แบงก์ ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ 2013 ร่วมกับ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน จัดคลินิกฟุตบอลให้กับกลุ่มบุตรหลานของลูกค้าธนาคารฯ ซึ่งมีผู้ปกครองให้ความสนใจส่งบุตรหลานอายุตั้งแต่อายุ 4 – 15 ปี เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน
ตามต่อด้วยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ร่วมมือกับสถาบัน Tokyo Institute of Technology จัดการประชุมสุดยอดสถาบัน การศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียโอเชียเนียหรืองาน AOTULE 2013 ขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม ศกนี้ โดยได้รับเกียรติจากคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์จาก 11 สถาบันทั่วภูมิภาคและเหล่านักวิชาการ ตลอดจน ผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงการศึกษาวิศวกรรมเข้าร่วมงานกว่า 200 คน “เพื่อเป็นการ ฉลองครบรอบ 100 ปี ของคณะ วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
และปิดท้ายกับนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย มอบทุนการศึกษาในโครงการกรุงไทยสานฝันสู่บัณฑิต ปีที่ 5 จำนวน 77 ทุน เป็นเงิน 3.85 ล้านบาท ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีผลการเรียนสะสมดี มีความประพฤติดี และสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐได้ ด้วยคะแนนสูงสุดของโรงเรียน เพื่อเป็นทุนการศึกษาจนจบปริญญาตรี
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน
ญาณสังวรธรรม พระนิพนธ์ลายพระหัตถ์ สมเด็จพระสังฆราช
การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ถือเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญในบวรพุทธศาสนา เนื่องเพราะสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์นี้ทรงเป็นพระมหาเถระผู้เพียบพร้อมด้วยศีลและธรรม ที่ทำสำคัญคือได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญศาสนกิจน้อยใหญ่เกื้อกูลแก่พุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศมาช้านาน
ด้วยเหตุดังกล่าว จึงไม่แปลกใจอะไรที่พุทธศาสนิกชนจะพากันหลั่งใหลไปแสดงความอาลัยต่อการจากไปของพระองค์ที่วัดบวรนิเวศวิหารอันเป็นสถานที่ตั้งพระศพอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่วัตถุมงคลซึ่งจัดสร้างขึ้นในวาระสำคัญๆ ก็เป็นที่ปรารถนาของลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่เคารพรักไม่แพ้กัน ไม่เว้นแม้แต่รุ่นที่เพิ่งสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชันษาครบ 100 พรรษาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากวัตถุมงคลแล้ว หนังสือพระประวัติ ตลอดรวมถึงพระนิพนธ์หลายต่อหลายเล่มก็เป็นที่ต้องการของพุทธศาสนิกชนที่ต้องการศึกษาเส้นทางชีวิตของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์นี้ และหนึ่งในหนังสือที่อยากแนะนำให้ไปหามาไว้ในครอบครองกันก็คือ หนังสือที่มีชื่อว่า ญาณสังวรธรรม ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมต้นฉบับพระนิพนธ์ที่ทรงไว้ด้วยลายพระหัตถ์นับแต่ครั้งทรงบรรพชาเป็นสามเณรพรรษาแรกจนถึงทรงเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ ต้นฉบับบางเรื่องก็มีระบุวันเดือนปีไว้ แต่บางเรื่องก็ไม่มี ซึ่งทำให้ให้เราได้ทราบว่า ทรงมีพระอัธยาศัยในทางการประพันธ์มาแต่ทรงเป็นสามเณรพรรษาแรกและดำเนินต่อมาอย่างไม่ขายสาย
นี่จึงนับเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ทรงคุณค่าและน่าเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง...
ที่สำคัญคือ เชื่อว่าน่าจะยังคงหาได้ไม่ยากนักเนื่องจากเพิ่งตีพิมพ์เรื่องในวาระงานฉลองพระชันษา 100 พรรษาที่ผ่านมานี้นี่เอง
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com