ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเตรียมล้างบางบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ระบุต้องมีความเหมาะสมกับภารกิจ ขณะที่ สคร.เตรียมข้อมูลชงที่ประชุมรัฐวิสาหกิจ พร้อมเสนอ คสช.ผลักดันการลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน โครงการพีพีพีและกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านรัฐวิสาหกิจภายใต้การดูแล กระทรวงคมนาคม “ทอท.-รฟม.-การท่าเรือฯ,การทางพิเศษฯ” ล้วนเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเพื่อไทยแบบแนบแน่น คาดรอดยาก จับตาฤดูโยกย้าย “สมชัย” ปลัดคมนาคม เสี่ยงตกเก้าอี้ ฐานเป็นเด็ก เจ๊ ด.
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.ได้เรียกประชุมภายในเพื่อเตรียมข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมฝ่ายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งจะมีการเรียกประชุมรัฐวิสาหกิจทุกแห่งวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยในส่วนของ สคร. เองคงต้องรอฟังนโยบายจาก คสช.ก่อนและพร้อมดำเนินงานให้สอดรับกับนโยบายในการผลักดันการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
สำหรับงานของ สคร.ที่จะเสนอให้ผลักดันเพื่อเดินหน้าต่อไปคือการลงทุนร่วมกับระหว่างรัฐและเอกชนหรือโครงการพีพีพี การลงทุนตามพ.ร.บ.ร่วมทุนในส่วนของวงเงินที่เกินพันล้านบาท และการสนับสนุนจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อระดมทุนของรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งถือมีความจำเป็นในการลงทุนในอนาคต พร้อมทั้งจะเร่งผลักดันการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสากิจในปีงบประมาณ 2557 ให้ได้ตามเป้าหมายหรือใกล้เคียงกับเม็ดเงินที่ตั้งไว้ 4 แสนล้านบาทแม้ว่าที่ผ่านมาจะล่าช้าไปบ้างแต่หลังจากนี้ทุกแห่งน่าจะดำเนินการได้เร็วขึ้น
ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้รับนโยบายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้พิจารณาความเหมาะสมของกรรมการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลังว่า มีความเหมาะสมกับภารกิจหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าในที่สุดก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งตามความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอฟังความชัดเจนจากการประชุมในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ที่จะมีการประชุมร่วมระหว่างคสช.และรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อดูสัญญาณที่ชัดเจนว่าคสช.ต้องการให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่อย่างไรบ้าง.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมนั้น หากไล่เช็คจะพบว่า บอร์ดที่ตั้งขึ้นสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ล้วนเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรทั้งสิ้น และท่าทีของพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ ที่ตอบคำถามถึงกรณีการปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจภายหลังตรวจเยี่ยมและให้นโยบายแนวทางการดำเนินการของกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ว่า จะพิจารณาตัดสินใจหลังการประชุมรัฐวิสาหกิจทั้งหมดในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า น่าจะมีการปรับเปลี่ยนแน่นอน
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมหลายแห่ง มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ ทำให้ที่ผ่านมา ฝ่ายการเมืองส่งคนของตัวเองเข้าไปนั่งเป็นประธานและกรรมการ เพื่อบริหารจัดการผลประโยชน์ ซึ่งรัฐวิสาหกิจที่ต้องจับตาเป็นพิเศษว่าในยามนี้อยู่ยาก เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีน.ต.ศิธา ทิวารี เป็นประธานบอร์ด ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกคสช.เรียกให้มารายงานตัวด้วย
ส่วนบอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่มีนางสาวรัชนี ตรีพิพัฒนกุล เป็นประธานเป็นอีกรัฐวิสาหกิจหนึ่งที่คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยน แม้ชื่อนางสาวรัชนีอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไรนัก แต่ในแวดวงผู้รับเหมารับรู้เป็นอย่างดีว่า สายสัมพันธ์ที่มานั้นแนบแน่นกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีน้องสาวชื่อ นางจรรยา สว่างจิตร เจ้าแม่ค้าเหล็กชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฮือฮาฝากเงินธนาคารออมสิน 200 ล้านบาทเพื่อให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำไปจ่ายหนี้โครงการรับจำนำข้าว และยังเคยตกเป็นข่าว มีชื่อเป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคเพื่อไทยถึง 10 ล้านบาทอีกด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมา รฟม.มีงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าหลายสัญญา ส่งผลให้ธุรกิจค้าขายเหล็กเฟื่องฟูไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ที่มี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นประธาน,บอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่เพิ่งมีการแต่งตั้งพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลางโหม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อแทนพล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณีที่พ้นวาระเนื่องจากอายุครบ 65 ปี และบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธาน ยังเข้าข่ายที่อาจจะถูกปรับเปลี่ยนเช่นกัน
ส่วนบอร์ดบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นั้น เนื่องจากพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นประธานอยู่ แต่มีปัญหาที่สหภาพการบินไทย เคยเรียกร้องให้ปลดนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ออกจากบอร์ดการบินไทย จึงต้องรอดูท่าทีต่อจากนี้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่อย่างไร ซึ่งนายอำพนเป็นข้าราชการ1 ใน 2 คน ที่ถูก คสช.เรียกไปรายงานตัว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของข้าราชการประจำ และหัวหน้าหน่วยงานราชการกระทรวงคมนาคมนั้น พล.อ.อ.ประจินระบุว่า จะมีการปรับเปลี่ยนตามปกติคือในเดือนตุลาคมนั้น มีประเด็นที่ต้องจับตาเช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมว่าจะมีการปรับเปลี่ยนจากนายสมชัย ศิริวัฒนโชคหรือไม่ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่านายสมชัยได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นรมว.คมนาคม ท่ามกลางข้อครหาว่า เพราะมี เจ๊ ด. ขาใหญ่ของเพื่อไทยเป็นผู้สนับสนุน จึงกระโดดข้ามหัวนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ที่มีอาวุโสสูงกว่าขึ้นมาได้
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.ได้เรียกประชุมภายในเพื่อเตรียมข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมฝ่ายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งจะมีการเรียกประชุมรัฐวิสาหกิจทุกแห่งวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยในส่วนของ สคร. เองคงต้องรอฟังนโยบายจาก คสช.ก่อนและพร้อมดำเนินงานให้สอดรับกับนโยบายในการผลักดันการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
สำหรับงานของ สคร.ที่จะเสนอให้ผลักดันเพื่อเดินหน้าต่อไปคือการลงทุนร่วมกับระหว่างรัฐและเอกชนหรือโครงการพีพีพี การลงทุนตามพ.ร.บ.ร่วมทุนในส่วนของวงเงินที่เกินพันล้านบาท และการสนับสนุนจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อระดมทุนของรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งถือมีความจำเป็นในการลงทุนในอนาคต พร้อมทั้งจะเร่งผลักดันการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสากิจในปีงบประมาณ 2557 ให้ได้ตามเป้าหมายหรือใกล้เคียงกับเม็ดเงินที่ตั้งไว้ 4 แสนล้านบาทแม้ว่าที่ผ่านมาจะล่าช้าไปบ้างแต่หลังจากนี้ทุกแห่งน่าจะดำเนินการได้เร็วขึ้น
ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้รับนโยบายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้พิจารณาความเหมาะสมของกรรมการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลังว่า มีความเหมาะสมกับภารกิจหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าในที่สุดก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งตามความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอฟังความชัดเจนจากการประชุมในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ที่จะมีการประชุมร่วมระหว่างคสช.และรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อดูสัญญาณที่ชัดเจนว่าคสช.ต้องการให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่อย่างไรบ้าง.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมนั้น หากไล่เช็คจะพบว่า บอร์ดที่ตั้งขึ้นสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ล้วนเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรทั้งสิ้น และท่าทีของพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ ที่ตอบคำถามถึงกรณีการปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจภายหลังตรวจเยี่ยมและให้นโยบายแนวทางการดำเนินการของกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ว่า จะพิจารณาตัดสินใจหลังการประชุมรัฐวิสาหกิจทั้งหมดในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า น่าจะมีการปรับเปลี่ยนแน่นอน
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมหลายแห่ง มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ ทำให้ที่ผ่านมา ฝ่ายการเมืองส่งคนของตัวเองเข้าไปนั่งเป็นประธานและกรรมการ เพื่อบริหารจัดการผลประโยชน์ ซึ่งรัฐวิสาหกิจที่ต้องจับตาเป็นพิเศษว่าในยามนี้อยู่ยาก เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีน.ต.ศิธา ทิวารี เป็นประธานบอร์ด ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกคสช.เรียกให้มารายงานตัวด้วย
ส่วนบอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่มีนางสาวรัชนี ตรีพิพัฒนกุล เป็นประธานเป็นอีกรัฐวิสาหกิจหนึ่งที่คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยน แม้ชื่อนางสาวรัชนีอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไรนัก แต่ในแวดวงผู้รับเหมารับรู้เป็นอย่างดีว่า สายสัมพันธ์ที่มานั้นแนบแน่นกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีน้องสาวชื่อ นางจรรยา สว่างจิตร เจ้าแม่ค้าเหล็กชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฮือฮาฝากเงินธนาคารออมสิน 200 ล้านบาทเพื่อให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำไปจ่ายหนี้โครงการรับจำนำข้าว และยังเคยตกเป็นข่าว มีชื่อเป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคเพื่อไทยถึง 10 ล้านบาทอีกด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมา รฟม.มีงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าหลายสัญญา ส่งผลให้ธุรกิจค้าขายเหล็กเฟื่องฟูไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ที่มี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นประธาน,บอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่เพิ่งมีการแต่งตั้งพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลางโหม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อแทนพล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณีที่พ้นวาระเนื่องจากอายุครบ 65 ปี และบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธาน ยังเข้าข่ายที่อาจจะถูกปรับเปลี่ยนเช่นกัน
ส่วนบอร์ดบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นั้น เนื่องจากพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นประธานอยู่ แต่มีปัญหาที่สหภาพการบินไทย เคยเรียกร้องให้ปลดนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ออกจากบอร์ดการบินไทย จึงต้องรอดูท่าทีต่อจากนี้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่อย่างไร ซึ่งนายอำพนเป็นข้าราชการ1 ใน 2 คน ที่ถูก คสช.เรียกไปรายงานตัว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของข้าราชการประจำ และหัวหน้าหน่วยงานราชการกระทรวงคมนาคมนั้น พล.อ.อ.ประจินระบุว่า จะมีการปรับเปลี่ยนตามปกติคือในเดือนตุลาคมนั้น มีประเด็นที่ต้องจับตาเช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมว่าจะมีการปรับเปลี่ยนจากนายสมชัย ศิริวัฒนโชคหรือไม่ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่านายสมชัยได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นรมว.คมนาคม ท่ามกลางข้อครหาว่า เพราะมี เจ๊ ด. ขาใหญ่ของเพื่อไทยเป็นผู้สนับสนุน จึงกระโดดข้ามหัวนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ที่มีอาวุโสสูงกว่าขึ้นมาได้