ASTVผู้จัดการรายวัน-"วัชรพล" ลงนามย้ายบิ๊กตำรวจอีก 16 นายเข้ากรุ ระดับผบช.ภ. 3 ผู้การ 9และผกก. ที่คุมฐานที่มั่นของกลุ่มเสื้อแดง ทั้งเชียงใหม่ อุดรฯ ขอนแก่น รวมถึง “โอ๋ สืบ 6” นนทบุรี "บิ๊กเก้ง"แจงย้ายเพราะไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ต้องให้คนเหมาะสมไปดูแทน ย้ำต้องกวาดล้างบ่อนพนัน อบายมุข หวย ละเลยเชือดทันที พร้อมสั่งล่า "ตั้ง อาชีวะ" ไล่จับพวกเว็บหมิ่นสถาบัน ตั้ง "อำนวย"กลับรอง ผบช.น. คุมจราจร-สืบสวน "วัชระ"ยื่นถอดยศ "ทักษิณ" และขอให้รื้อคดีฆ่า "เอกยุทธ"
วานนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่ชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำนวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 262/2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ โดยคำสั่งย้ายระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ถึงผู้กำกับการ (ผกก.) 16 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และมีคำสั่ง 263/2557 ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน 10 ราย โดยระบุเหตุผลเพื่อให้การปฏิบัติราชการของ ตร. และการสนับสนุนภารกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยมีรายชื่อต่อไปนี้
พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ภ.3 ช่วยราชการ ศปก.ตร.ให้ พล.ต.ท.พิสันฑ์ จุลดิลก ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.รักษาราชการแทน (รรท.) ผบช.ภ.3
พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ช่วยราชการ ศปก.ตร.ให้ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่
พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ชลบุรี
พล.ต.ต.ชอบ คิสาลัง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 รรท.ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำงรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี
พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ช่วยราชการ ศปก.ตร. และให้ พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ภ.จว.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.บุญลือ กอบบางยาง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.วีระพงษ์ ชื่นภักดี รอง ผบช.ภ.4 รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สืบสวนสอบสวน บช.น.ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.สนง.ยุทธศาสตร์ตำรวจ รรท.ผบก.สส.บช.น.
พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.6
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1.ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.1
พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น, พ.ต.อ.กิตติสินธุ์ คงทวีพันธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่, พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ช่วยราชการ ศปก.ตร.
ทั้งนี้ ให้ ผบช.ถึง ผกก.ทั้ง 16 นายมารายงานตัวที่ ศปก.ตร.ภายในวันที่ 28 พ.ค. เวลา 16.00 น. และให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 10 รายตามคำสั้งที่ 263/2557 รักษาราชการแทนนับแต่วันที่ 28 พ.ค. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
มีรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ รรท.ผบช.ภ.5 มีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ช่วยราชการ บช.ภ.5 ตามคำแนะนำของแม่ทัพภาคที่ 3 ก่อนมีคำสั่งถอนคำสั่งย้ายในเวลาต่อมา ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ได้แจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ และร่วมพิจารณาก่อนมีคำสั่ง กระทั่ง พล.ต.อ.วัชรพลลงนามคำสั่งย้ายเองในครั้งนี้
สำหรับนายตำรวจที่ถูกโยกย้ายครั้งนี้ ล้วนมีสายสัมพันธ์อันดีกับคนสำคัญรัฐบาลก่อนหน้า ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง
**** แจงโยกบิ๊กตร. คุมพื้นที่แดงไม่ได้
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึงสาเหตุการโยกย้ายว่า เป็นการปรับคนทำงาน เนื่องจากคำสั่งก่อนหน้านี้ เป็นการปรับระดับ ผบช.ไปแล้ว คราวนี้มี ผบก.ภ.จว.บางส่วน และ ผกก.โรงพักที่จำเป็นต้องปรับคนเพื่อไปทำงาน เพื่อให้กระบวนการแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยและการสร้างความสามัคคีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในระดับ ผกก.ที่ย้าย เพราะหากเห็นว่าการควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่มีปัญหา ก็ต้องให้ถอยออกมา แล้วหาคนที่เข้มแข็งกว่าในช่วงนี้ไปทำหน้าที่แทน คนที่ถูกย้ายอาจไม่ได้ทำผิดอะไร แต่อาจมีปัจจัยที่ทำให้ประสิทธิภาพการดูแลความสงบเรียบร้อยดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คงไม่โยกย้ายไปถึงระดับสารวัตร ได้กำชับไปแล้ว มีการแต่งตั้งผู้นำทั้ง ผบช. ผบก.และผกก.ลงไปแล้ว ก็ต้องไปดูในระดับที่เล็กลงไป ดูแล้วหากทำไม่ได้ ก็ต้องให้ถอยออกมาตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. บอกไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายระส่ำระสาย ในตร. หากจะมีการปรับย้ายใคร ต้องหารือกับตน และ ผบช. ให้ร่วมพิจารณาด้วย อยากให้ตำรวจทั่วประเทศเชื่อมั่นและทำหน้าที่ตำรวจให้เต็มที่
“ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว ดูดีขึ้นหมดแล้ว ส่วนระดับ ผบก. จะมีโยกย้ายอีกหรือไม่ ถ้าทำหน้าที่ก็ไม่มี ถ้าไม่ทำหน้าที่ก็เป็นธรรมดา การไม่ทำหน้าที่ คือ ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ไม่ทำหน้าที่ตำรวจที่แท้จริง ตอนนี้คิดว่าไม่มีพื้นที่ไหนที่ควบคุมไม่ได้แล้ว ผมว่าตอนนี้ตำรวจทำงานได้เต็มที่แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องเอากำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อยส่วนอื่นแล้ว ดูแลพื้นที่ได้เต็มที่ผมเชื่อว่า ตร.ควบคุมได้แน่นอน ทั้งนี้ ทุกคนที่ย้ายมาช่วยราชการไม่ผิด ไม่บกพร่องอะไร ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ย้ายเพื่อความเหมาะสม ปรับเปลี่ยนกำลังมาพักผ่อน มาช่วยงานใน ศปก.ตร. ให้คนที่เหมาะสมกับภาวะตรงนี้เข้าไปทำหน้าที่ สับเปลี่ยนกันธรรมดา” รรท.ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าหลายคนที่ถูกย้ายอยู่ฝ่ายรัฐบาลเดิม หรือตรงข้าม คสช. บางคนคุมพื้นที่เคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ทุกคนคือตำรวจ ระหว่างการทำงานเป็นธรรมดารู้จักคนนั้นคนนี้ ทุกคนคือข้าราชการตำรวจ ตนยังถูกตั้งข้อสังเกต การย้าย ตนดูจากปัจจัยหลายด้าน สื่อมวลชนเองยังตั้งข้อสังเกตถึงการอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ตร.ก็ตั้งข้อสังเกตเช่นกันก่อนพิจารณาย้าย นี่คือข้อมูลที่ใช้พิจารณาย้าย
เมื่อถามว่า การโยกย้ายแต่ละครั้งต้องหารือ คสช. หรือที่ปรึกษา คสช.หรือไม่ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ย้ายแต่ละครั้งตนไม่ต้องหารือ คสช. เนื่องจาก คสช. ตั้งตนมาทำหน้าที่ ตนก็ต้องทำให้ได้ ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงก็ต้องพิจารณาตนเช่นกัน
*** สั่งล่า"ตั้ง อาชีวะ"และจับเว็บหมิ่นเบื้องสูง
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึงกรณี คสช.มีคำสั่งเข้มงวดเรื่องบ่อนการพนัน อบายมุข สลากกินรวบ หรือหวยใต้ดิน ทั่วประเทศว่า อะไรที่เป็นอบายมุข ผิดกฎหมายทั้งหมดก็ต้องเคร่งครัด ซึ่งเป็นนโยบายของ ตร. อยู่แล้ว โดยมีหนังสือกำชับ มีมาตรการปฏิบัติกับผู้ที่ละเลยอยู่แล้ว กรณีล่าสุดจับบ่อนที่ จ.ชลบุรี ก็ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง หากบกพร่องผู้รับผิดชอบต้องรับการพิจารณาโทษทัณฑ์ ทั้งนี้ ไม่มีแนวคิดตั้งชุดเฉพาะกิจของ ตร.ลงไปปราบปรามจับกุม แต่หากท้องที่ละเลย ตร.ก็มีหน่วยตรวจสอบอยู่แล้ว ระบบของ ตร.มีการตรวจสอบ ถ่วงดุลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม งานพวกนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ล่วงละเมิด ให้เวลาหามาตรการดำเนินการอย่างรอบคอบ แต่หากละเลยไม่เอาใจใส่ มีหน่วยส่วนกลางหรือหน่วยอื่นไปจับกุมได้ จะพิจารณาข้อบกพร่องหัวหน้าสถานีและผู้รับผิดชอบอย่างเด็ดขาด
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ในส่วนของการปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน มีการตั้งคณะทำงานซึ่งตำรวจเองเป็นหนึ่งในชุดทำงาน มีหน่วยงานตรวจสอบการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอยู่ มีคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องนี้ เป็นความเร่งด่วนระดับสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องตรวจสอบผู้ที่ละเมิด หากพบว่ามีความผิดต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบตามขั้นตอนก่อนดำเนินการปิดอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน ส่วนคนที่หนีคดีก็พยายามสืบสวนหาตัว กรณีนายตั้ง อาชีวะ มีข้อมูลว่าหลบหนีออกนอกประเทศ การติดตามจับกุมระหว่างประเทศมีการประสานอย่างต่อเนื่อง และเป็นขั้นตอน
***"อำนวย"นั่งรองผบช.น.ดูสืบสวน-จราจร
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. กล่าวถึงกรณีขอตัว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบ.กองบัญชาการศึกษา อดีตรอง ผบช.น. กลับมาช่วยราชการที่ บช.น.ว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร.ได้อนุมัติการขอตัว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน กลับมาช่วยราชการที่ บชน.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รอง ผบช.น.เช่นเดิม ซึ่งจะดูแลงานด้านการจราจร และงานด้านการสืบสวนสอบสวน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับย้ายนายตำรวจใน บช.น.อีก แต่หากได้รับข้อมูลใหม่ นโยบายใหม่ ก็อาจจะมีการนำมาปรับใช้ในแผนการปฏิบัติงานเพียงเล็กน้อย ส่วนนโยบายเดิมที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.คนก่อนหน้าได้ดำเนินการไว้ ก็ยังคงไว้เช่นเดิม
**** "วัชระ"จี้ถอดยศแม้ว-รื้อคดีฆ่าเอกยุทธ
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล เพื่อขอให้ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี
นายวัชระกล่าวว่า เรื่องนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับข้อหารือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับอำนาจการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันถึง 2 ครั้งว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอำนาจที่จะดำเนินการเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของระบอบทักษิณ จึงมีการเพิกเฉยละเว้นไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย บัดนี้ พล.ต.อ.วัชรพลเป็นผู้มีอำนาจที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว และท่านเองก็เป็นตำรวจที่ดี จึงขอให้ท่านดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้สร้างปัญหาและความแตกแยกให้แก่ประเทศชาติของเราโดยด่วนที่สุด
“ในทุกปีมีตำรวจตั้งแต่นายพลยันนายดาบที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก และต้องถูกดำเนินการถอดยศตามกฎหมาย แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นใคร จึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกถอดยศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้มีอำนาจตามกฎหมาย หากละเว้นไม่ดำเนินการต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะไปมองหน้าผู้ที่ถูกถอดยศก่อนหน้านี้ได้อย่างไร” นายวัชระกล่าว
นอกจากนี้ ยังขอให้มีการรื้อคดีสังหารนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินชื่อดังขึ้นมาสอบสวนใหม่ รวมทั้งขอให้รื้อคดีที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของกลุ่ม นปช. หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งตนได้ไปแจ้งความไว้ที่กองปราบปรามตั้งแต่ปี 2552 แต่ถูก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจอยู่ในขณะนั้น ได้ทำการเป่าคดี และขอให้มีการเร่งรัดคดียิงนายทวีศักดิ์ โพธิแก้ว นักศึกษา ม.รามคำแหง เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ ม.รามคำแหง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 โดย พล.ต.อ.วัชรพลรับปากว่าจะเร่งดำเนินการทั้ง 4 เรื่องนี้โดยด่วนต่อไป
***ถอดยศต้องดำเนินการตามขั้นตอน
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวอีกครั้งว่า การดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ สำนักงานเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการและนำเสนอขึ้นมา เพื่อจะได้สั่งการในขั้นตอนต่อไป โดยวันนี้ที่นายวัชระมายื่นหนังสือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตรวจสอบความเป็นมาเป็นไปและข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร โดยต้องรอให้ดำเนินการตามขั้นตอนก่อน
ส่วนคดีนายเอกยุทธ จะถูกรื้อคดีมาทำใหม่หรือไม่นั้น ต้องถามฝ่ายป้องกันปราบปราม เพราะการรื้อฟื้นคดีอะไร ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเป็นของใหม่หรือไม่ เพราะทุกเรื่องจะเข้าเงื่อนไขของกฎหมาย
วานนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่ชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำนวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 262/2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ โดยคำสั่งย้ายระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ถึงผู้กำกับการ (ผกก.) 16 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และมีคำสั่ง 263/2557 ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน 10 ราย โดยระบุเหตุผลเพื่อให้การปฏิบัติราชการของ ตร. และการสนับสนุนภารกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยมีรายชื่อต่อไปนี้
พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ภ.3 ช่วยราชการ ศปก.ตร.ให้ พล.ต.ท.พิสันฑ์ จุลดิลก ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.รักษาราชการแทน (รรท.) ผบช.ภ.3
พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ช่วยราชการ ศปก.ตร.ให้ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่
พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ชลบุรี
พล.ต.ต.ชอบ คิสาลัง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 รรท.ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำงรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี
พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ช่วยราชการ ศปก.ตร. และให้ พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ภ.จว.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.บุญลือ กอบบางยาง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.วีระพงษ์ ชื่นภักดี รอง ผบช.ภ.4 รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สืบสวนสอบสวน บช.น.ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.สนง.ยุทธศาสตร์ตำรวจ รรท.ผบก.สส.บช.น.
พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.6
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1.ช่วยราชการ ศปก.ตร. ให้ พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.1
พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น, พ.ต.อ.กิตติสินธุ์ คงทวีพันธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่, พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ช่วยราชการ ศปก.ตร.
ทั้งนี้ ให้ ผบช.ถึง ผกก.ทั้ง 16 นายมารายงานตัวที่ ศปก.ตร.ภายในวันที่ 28 พ.ค. เวลา 16.00 น. และให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 10 รายตามคำสั้งที่ 263/2557 รักษาราชการแทนนับแต่วันที่ 28 พ.ค. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
มีรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ รรท.ผบช.ภ.5 มีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ช่วยราชการ บช.ภ.5 ตามคำแนะนำของแม่ทัพภาคที่ 3 ก่อนมีคำสั่งถอนคำสั่งย้ายในเวลาต่อมา ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ได้แจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ และร่วมพิจารณาก่อนมีคำสั่ง กระทั่ง พล.ต.อ.วัชรพลลงนามคำสั่งย้ายเองในครั้งนี้
สำหรับนายตำรวจที่ถูกโยกย้ายครั้งนี้ ล้วนมีสายสัมพันธ์อันดีกับคนสำคัญรัฐบาลก่อนหน้า ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง
**** แจงโยกบิ๊กตร. คุมพื้นที่แดงไม่ได้
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึงสาเหตุการโยกย้ายว่า เป็นการปรับคนทำงาน เนื่องจากคำสั่งก่อนหน้านี้ เป็นการปรับระดับ ผบช.ไปแล้ว คราวนี้มี ผบก.ภ.จว.บางส่วน และ ผกก.โรงพักที่จำเป็นต้องปรับคนเพื่อไปทำงาน เพื่อให้กระบวนการแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยและการสร้างความสามัคคีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในระดับ ผกก.ที่ย้าย เพราะหากเห็นว่าการควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่มีปัญหา ก็ต้องให้ถอยออกมา แล้วหาคนที่เข้มแข็งกว่าในช่วงนี้ไปทำหน้าที่แทน คนที่ถูกย้ายอาจไม่ได้ทำผิดอะไร แต่อาจมีปัจจัยที่ทำให้ประสิทธิภาพการดูแลความสงบเรียบร้อยดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คงไม่โยกย้ายไปถึงระดับสารวัตร ได้กำชับไปแล้ว มีการแต่งตั้งผู้นำทั้ง ผบช. ผบก.และผกก.ลงไปแล้ว ก็ต้องไปดูในระดับที่เล็กลงไป ดูแล้วหากทำไม่ได้ ก็ต้องให้ถอยออกมาตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. บอกไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายระส่ำระสาย ในตร. หากจะมีการปรับย้ายใคร ต้องหารือกับตน และ ผบช. ให้ร่วมพิจารณาด้วย อยากให้ตำรวจทั่วประเทศเชื่อมั่นและทำหน้าที่ตำรวจให้เต็มที่
“ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว ดูดีขึ้นหมดแล้ว ส่วนระดับ ผบก. จะมีโยกย้ายอีกหรือไม่ ถ้าทำหน้าที่ก็ไม่มี ถ้าไม่ทำหน้าที่ก็เป็นธรรมดา การไม่ทำหน้าที่ คือ ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ไม่ทำหน้าที่ตำรวจที่แท้จริง ตอนนี้คิดว่าไม่มีพื้นที่ไหนที่ควบคุมไม่ได้แล้ว ผมว่าตอนนี้ตำรวจทำงานได้เต็มที่แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องเอากำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อยส่วนอื่นแล้ว ดูแลพื้นที่ได้เต็มที่ผมเชื่อว่า ตร.ควบคุมได้แน่นอน ทั้งนี้ ทุกคนที่ย้ายมาช่วยราชการไม่ผิด ไม่บกพร่องอะไร ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ย้ายเพื่อความเหมาะสม ปรับเปลี่ยนกำลังมาพักผ่อน มาช่วยงานใน ศปก.ตร. ให้คนที่เหมาะสมกับภาวะตรงนี้เข้าไปทำหน้าที่ สับเปลี่ยนกันธรรมดา” รรท.ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าหลายคนที่ถูกย้ายอยู่ฝ่ายรัฐบาลเดิม หรือตรงข้าม คสช. บางคนคุมพื้นที่เคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ทุกคนคือตำรวจ ระหว่างการทำงานเป็นธรรมดารู้จักคนนั้นคนนี้ ทุกคนคือข้าราชการตำรวจ ตนยังถูกตั้งข้อสังเกต การย้าย ตนดูจากปัจจัยหลายด้าน สื่อมวลชนเองยังตั้งข้อสังเกตถึงการอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ตร.ก็ตั้งข้อสังเกตเช่นกันก่อนพิจารณาย้าย นี่คือข้อมูลที่ใช้พิจารณาย้าย
เมื่อถามว่า การโยกย้ายแต่ละครั้งต้องหารือ คสช. หรือที่ปรึกษา คสช.หรือไม่ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ย้ายแต่ละครั้งตนไม่ต้องหารือ คสช. เนื่องจาก คสช. ตั้งตนมาทำหน้าที่ ตนก็ต้องทำให้ได้ ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงก็ต้องพิจารณาตนเช่นกัน
*** สั่งล่า"ตั้ง อาชีวะ"และจับเว็บหมิ่นเบื้องสูง
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึงกรณี คสช.มีคำสั่งเข้มงวดเรื่องบ่อนการพนัน อบายมุข สลากกินรวบ หรือหวยใต้ดิน ทั่วประเทศว่า อะไรที่เป็นอบายมุข ผิดกฎหมายทั้งหมดก็ต้องเคร่งครัด ซึ่งเป็นนโยบายของ ตร. อยู่แล้ว โดยมีหนังสือกำชับ มีมาตรการปฏิบัติกับผู้ที่ละเลยอยู่แล้ว กรณีล่าสุดจับบ่อนที่ จ.ชลบุรี ก็ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง หากบกพร่องผู้รับผิดชอบต้องรับการพิจารณาโทษทัณฑ์ ทั้งนี้ ไม่มีแนวคิดตั้งชุดเฉพาะกิจของ ตร.ลงไปปราบปรามจับกุม แต่หากท้องที่ละเลย ตร.ก็มีหน่วยตรวจสอบอยู่แล้ว ระบบของ ตร.มีการตรวจสอบ ถ่วงดุลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม งานพวกนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ล่วงละเมิด ให้เวลาหามาตรการดำเนินการอย่างรอบคอบ แต่หากละเลยไม่เอาใจใส่ มีหน่วยส่วนกลางหรือหน่วยอื่นไปจับกุมได้ จะพิจารณาข้อบกพร่องหัวหน้าสถานีและผู้รับผิดชอบอย่างเด็ดขาด
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ในส่วนของการปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน มีการตั้งคณะทำงานซึ่งตำรวจเองเป็นหนึ่งในชุดทำงาน มีหน่วยงานตรวจสอบการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอยู่ มีคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องนี้ เป็นความเร่งด่วนระดับสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องตรวจสอบผู้ที่ละเมิด หากพบว่ามีความผิดต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบตามขั้นตอนก่อนดำเนินการปิดอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน ส่วนคนที่หนีคดีก็พยายามสืบสวนหาตัว กรณีนายตั้ง อาชีวะ มีข้อมูลว่าหลบหนีออกนอกประเทศ การติดตามจับกุมระหว่างประเทศมีการประสานอย่างต่อเนื่อง และเป็นขั้นตอน
***"อำนวย"นั่งรองผบช.น.ดูสืบสวน-จราจร
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. กล่าวถึงกรณีขอตัว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบ.กองบัญชาการศึกษา อดีตรอง ผบช.น. กลับมาช่วยราชการที่ บช.น.ว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร.ได้อนุมัติการขอตัว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน กลับมาช่วยราชการที่ บชน.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รอง ผบช.น.เช่นเดิม ซึ่งจะดูแลงานด้านการจราจร และงานด้านการสืบสวนสอบสวน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับย้ายนายตำรวจใน บช.น.อีก แต่หากได้รับข้อมูลใหม่ นโยบายใหม่ ก็อาจจะมีการนำมาปรับใช้ในแผนการปฏิบัติงานเพียงเล็กน้อย ส่วนนโยบายเดิมที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.คนก่อนหน้าได้ดำเนินการไว้ ก็ยังคงไว้เช่นเดิม
**** "วัชระ"จี้ถอดยศแม้ว-รื้อคดีฆ่าเอกยุทธ
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล เพื่อขอให้ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี
นายวัชระกล่าวว่า เรื่องนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับข้อหารือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับอำนาจการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันถึง 2 ครั้งว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอำนาจที่จะดำเนินการเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของระบอบทักษิณ จึงมีการเพิกเฉยละเว้นไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย บัดนี้ พล.ต.อ.วัชรพลเป็นผู้มีอำนาจที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว และท่านเองก็เป็นตำรวจที่ดี จึงขอให้ท่านดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้สร้างปัญหาและความแตกแยกให้แก่ประเทศชาติของเราโดยด่วนที่สุด
“ในทุกปีมีตำรวจตั้งแต่นายพลยันนายดาบที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก และต้องถูกดำเนินการถอดยศตามกฎหมาย แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นใคร จึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกถอดยศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้มีอำนาจตามกฎหมาย หากละเว้นไม่ดำเนินการต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะไปมองหน้าผู้ที่ถูกถอดยศก่อนหน้านี้ได้อย่างไร” นายวัชระกล่าว
นอกจากนี้ ยังขอให้มีการรื้อคดีสังหารนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินชื่อดังขึ้นมาสอบสวนใหม่ รวมทั้งขอให้รื้อคดีที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของกลุ่ม นปช. หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งตนได้ไปแจ้งความไว้ที่กองปราบปรามตั้งแต่ปี 2552 แต่ถูก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจอยู่ในขณะนั้น ได้ทำการเป่าคดี และขอให้มีการเร่งรัดคดียิงนายทวีศักดิ์ โพธิแก้ว นักศึกษา ม.รามคำแหง เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ ม.รามคำแหง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 โดย พล.ต.อ.วัชรพลรับปากว่าจะเร่งดำเนินการทั้ง 4 เรื่องนี้โดยด่วนต่อไป
***ถอดยศต้องดำเนินการตามขั้นตอน
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวอีกครั้งว่า การดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ สำนักงานเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการและนำเสนอขึ้นมา เพื่อจะได้สั่งการในขั้นตอนต่อไป โดยวันนี้ที่นายวัชระมายื่นหนังสือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตรวจสอบความเป็นมาเป็นไปและข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร โดยต้องรอให้ดำเนินการตามขั้นตอนก่อน
ส่วนคดีนายเอกยุทธ จะถูกรื้อคดีมาทำใหม่หรือไม่นั้น ต้องถามฝ่ายป้องกันปราบปราม เพราะการรื้อฟื้นคดีอะไร ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเป็นของใหม่หรือไม่ เพราะทุกเรื่องจะเข้าเงื่อนไขของกฎหมาย