ASTVผู้จัดการรายวัน - คสช.ถกผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลังเร่งจ่ายคืนเงินจำนำข้าว 9.2 หมื่นล้านบาท ดันจีดีพีโตเพิ่มขึ้น 0.2% ไฟเขียวแผนกู้เงิน 5 หมื่นล้านมั่นใจได้รับการตอบรับ เหตุไร้ปัญหาข้อ ก.ม. นำเงินจ่ายหนี้ชาวนาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผงะผลตรวจสอบบัญชีพบตัวเลขขาดทุน 2 ปีการผลิตพุ่งสูง 5 แสนล้านบาท ด้านชาวนาทั่วประเทศยิ้มร่า แห่ติดต่อเข้ารับเงินโครงการจำนำข้าวกับ ธ.ก.ส.กันคึกคัก หลังต้องรอคอยมานานกว่า 5-6 เดือน เผยสุดดีใจที่ "คสช.ไม่ทิ้งชาวนา"
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังสถาบันการเงินเฉพาะกิจว่า คสช.ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป โดยเน้นด้านการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนผ่านทางการจ่ายเงินให้ชาวนาโดยเร็วที่สุดจากจำนวนที่ค้างทั้งสิ้น 9.2 หมื่นล้านบาท โดยจะใช้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ส่วนหนึ่งและใช้เงินกู้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งน่าจะช่วยดันให้จีดีพีขยายตัวได้อีก 0.2 % หรืออย่างน้อยอยู่ที่ 2.2% รวมทั้งให้เข้าไปสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้ชาวนาสำหรับการปลูกข้าวฤดูการผลิตใหม่ที่จะถึงนี้ด้วยทั้งปุ๋ย พันธ์ข้าวและอื่นๆ
นอกจากนั้นอีกเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนคือการผลักดันการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 2557 ที่ค้างอยู่ออกไปโดยเร็ว และเริ่มให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อเริ่มกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2558 ทันทีเพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 ต.ค. 25557 นี้ โดยเบื้องต้นจะมีวงเงินไม่มากนักเพื่อไม่ให้ผูกพันธุ์ในระยะยาว โดยให้เน้นที่โครงการจำเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานและรักษาวินัยการเงินการคลังเป็นหลัก
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่รอเงินรับจำนำข้าวกว่า 800,000 ราย วงเงินกว่า 90,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยจะทยอยจ่ายเงินดังกล่าว ตามคิวใบประทวนที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วตามลำดับก่อนหลังอย่างเคร่งครัดโปร่งใสตั้งแต่วันนี้ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือนนับจากนี้ ซึ่งเงินที่จะนำมาใช้หมุนเวียนจะมาจาก เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา และเงินกู้ยืมที่กระทรวงการคลังจัดหามาให้ในวงเงินไม่เกิน 92,431 ล้านบาท ทั้งนี้ ในระหว่างที่รอการกู้เงิน ธ.ก.ส. จะสำรองจ่ายไปก่อนในวงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท เพื่อให้เงินถึงมือเกษตรกรอย่างรวดเร็ว ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ค้ำประกันและรับผิดชอบชำระคืนต้นเงิน ดอกเบี้ยตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานทั้งหมด
สำหรับผลการดำเนินงาน โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ณ วันที่ 23 พ.ค. 57 มียอดใบประทวนรวมทั้งสิ้น 1,671,720 ราย ข้าวเปลือก 11.64 ล้านตัน จำนวนเงิน 192,950 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส. ได้ทยอยจ่ายเงินไปแล้ว ณ ปัจจุบันจำนวน 833,182 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 6.29 ล้านตัน จำนวนเงิน 103,019 ล้านบาท จากยอดจัดสรรทั้งหมด 105,500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินงบประมาณและเงินจากการระบายข้าว ของกระทรวงพาณิชย์ 75,000 ล้านบาท เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา 10,500 ล้านบาท และงบกลางที่รัฐบาลยืมจาก กกต.อีก 20,000 ล้านบาท
***'ประยุทธ์' ไฟเขียวกู้เงินจำนำข้าว 5 หมื่นล.
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน กล่าวว่า ได้ลงนามสถาบันการเงินภาครัฐ-เอกชน 32 แห่ง เพื่อให้ยื่นข้อเสนอเงินให้กู้ยืมภายใต้โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท ภายหลังกระทรวงการคลังได้นำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่ออนุมัติแผนบริหารหนี้สาธารณะ และอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินและค้ำประกันให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน สำหรับโครงการรับจำนำข้าว ในวงเงินไม่เกิน 92,431 ล้านบาท ซึ่งหัวหน้า คสช. ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว โดยการกู้เงินครั้งนี้จะทำในลักษณะ Term Loan ในช่วงแรกมีวงเงิน 50,000 ล้านบาทก่อน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40,000 ล้านบาท จะดำเนินการภายหลัง
สำหรับรูปแบบและเงื่อนไขการกู้เงินมีดังนี้ วงเงิน 50,000 ล้านบาท วงเงินขั้นต่ำที่เข้าร่วมประมูล 2,000 ล้านบาท อายุเงินกู้ 3 ปี นับจากวันเบิกเงินกู้งวดแรก กำหนดวันยื่นประมูลงวดแรกไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ในวันที่ 6 มิ.ย. 2557 งวดที่ 2 ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ในวันที่ 13 มิ.ย. 2557 โดยจะเบิกเงินกู้จากธนาคารที่เสนอดอกเบี้ยต่ำกว่าก่อน
ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะอ้างอิงระยะสั้นตลาดกรุงเทพ (BIBOR) ระยะ 6 เดือน ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นฐานการในการคำนวณดอกเบี้ย (ทศนิยม 4 ตำแหน่ง) และปรับอัตราดอกเบี้ย ทุกงวด 6 เดือน หากมีการเปลี่ยนแปลง กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกงวด 6 เดือน นับแต่วันเบิกเงินกู้งวดแรก กำหนดชำระคืนเงินต้นทั้งจำนวนเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้ ขณะที่การชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด สามารถชำระคืนเงินต้นได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม โดยจะชำระคืนหนี้แก่ธนาคาร/หรือเงื่อนไขที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก่อน โดยจะแจ้งใหทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันทำการ
ทั้งนี้ การค้ำประกันทางกระทรวงการคลัง จะค้ำเงินประกัน เงินต้น ดอกเบี้ย โดยใช้สัญญามาตรฐานกระทรวงการคลังผู้รับภาระชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย คือ รัฐบาล ซึ่งมั่นใจว่า การกู้เงินครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากสถาบันการเงินเป็นอย่างดี เนื่องจากปัญหาความไม่ชัดเจนทางกฎหมายได้ถูกขจัดหมดสิ้นแล้ว ภายหลังจัดหาเงินรับจำนำข้าว ภายใต้รัฐบาลรักษาการชุดที่แล้วที่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะความไม่ชัดเจนด้านกฎหมาย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ได้ห้ามรัฐบาลรักษาการกระทำการบางอย่างในช่วงการยุบสภา สถาบันการเงินจึงไม่มีความมั่นใจที่จะให้กู้ยืมในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้จากการกู้ยืมครั้งนี้ ธ.ก.ส. จะนำไปจ่ายหนี้ให้เกษตรกรโดยเร็วและเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป
***ผงะ! ขาดทุนบักโกรก 5 แสนล.
มีรายงานว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ตรวจสอบผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปี (2554/2555, 2555/2556 ,2556/2557) พบว่ามีผลขาดทุนสูงขึ้นกว่าเท่าตัว หรือขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาขายต่ำกว่าราคาต้นทุนกว่า 1.5 หมื่นบาทต่อตัน โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้คำนวณต้นทุนข้าวเปลือกที่แปรสภาพเป็นข้าวสารไว้เฉลี่ยที่ราคา 2.3 หมื่นบาทต่อตัน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวไปที่ราคา 1.2-1.4 หมื่นบาทต่อตัน และเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการได้ขายข้าวไปด้วยราคาเพียงตันละ 8 พันบาทเท่านั่น ทำให้มีส่วนต่างราคาขายกับราคาต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งทำให้โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าข้าวสารหายไปจากสต๊อกอีกราว 2.8 ล้านตันนั่น ปรากฏว่าในสต๊อกไม่ได้มีข้าวอยู่จริง เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น และยังพบว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพอีกจำนวนมากที่ยังรอให้เซอร์เวเยอร์ตีราคา ซึ่งหากมีการตีราคาแล้ว คาดว่าจะทำให้ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวจะเพิ่มมากกว่า 5 แสนล้านบาท.
***ชาวนาคึกคักแห่รับเงินหลังคอยมานาน
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ควช.) ประกาศเริ่มจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้แก่ชาวนาวานนี้ (26 พ.ค.) เป็นวันแรก ทำให้บรรยากาศที่ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศคึกคักไปด้วยชาวนาทั้งที่มารับเงินค่าจำนำข้าวและมาติดต่อทำสัญญาเพื่อเตรียมรับเงินในวันที่ 27 พ.ค.นี้
โดยที่ จ.นครสวรรค์ คึกคักไปด้วยชาวนาที่มาติดต่อรับเงิน ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ได้ชี้แจงว่ามีเงินเข้ามาในระบบแล้ว 2,800 ล้านบาท โดยจะทยอยจ่ายได้หมดภายในอาทิตย์นี้
เช่นเดียวกับ ธ.ก.ส.สาขา อ.เมืองพิจิตร มีชาวนาจำนวนมากเดินทางมาติดต่อรับเงินจากธนาคารพร้อมใบประทวนสินค้า โดยธนาคารจะโอนเข้าบัญชีแทนการจ่ายเงินสดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมต่างๆ เบื้องต้นสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้กว่า 10,000 ราย แต่ยังมีอีกกว่า 20,000 รายที่ต้องรอรับเงินในรอบต่อไป
***ชาวนาเชียงรายเฮรับเงินวดแรกกว่าพันล้าน
ที่ จ.เชียงราย ได้มีชาวนานำใบประทวนเดินทางไปรับเงินที่ ธ.ก.ส.เชียงราย กันตั้งแต่เช้าด้วยสีหน้าแจ่มใส และเกือบทั้งหมดนำบัญชีธนาคารติดตัวมาเพื่อถอนเงินไปใช้หนี้สินที่คงค้างตั้งแต่ มิ.ย.2556 ที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้ สำหรับชาวนาใน จ.เชียงราย ที่ยังไม่ได้รับเงินโครงการรับจำนำข้าวนาปีฤดูกาล 2556/57 มี 42,100 รายใบประทวน 49,003 ฉบับ ปริมาณข้าว 152,155 ตันมูลค่าทั้งหมด 2,871,347,614 บาท
นายพิเชียน จอมพงษ์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.เชียงราย เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.เชียงราย ได้รับการจัดสรรเม็ดเงินงวดแรก 1,116 ล้านบาท ซึ่งจะเร่งให้ธนาคารสาขาในจังหวัดทั้ง 29 สาขา จัดสรรให้กับชาวนาที่รอคอยมานานให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์ที่ 30 พ.ค.นี้
นางปราณี สุริยะเสาร์ ชาวนาใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนทำนา 11 ไร่ มีเงินคงค้างตามโครงการที่ไม่ได้รับมาเกือบ 6 เดือน เป็นเงินประมาณ 117,800 บาท ช่วงที่ไม่ได้รับเงินเดือดร้อนมาก เพราะหนี้สินเก่าก็คงค้างแล้วยังต้องทำนาปรังอีก แต่ก็ฝืนทำนาปรังเรื่อยมา โดยขายข้าวได้กิโลกรัมละ 5 บาทพอคุ้มทุนอยู่ได้ กระทั่งทาง คสช.ได้เข้าปฏิรูป จัดสรรเงินมาให้ ก็รู้สึกดีใจมาก
**ชาวนาพิษณุโลกได้ล็อตแรก 1.7 พันล้าน
ส่วน ธ.ก.ส.พิษณุโลก ได้รับเงินงวดแรกเพื่อนำไปจ่ายให้แก่ชาวนาจำนวน 1,793 ล้านบาท โดยมีชาวนาเดินทางไปติดต่อรับเงินกันอย่างคึกคัก ทั้งนี้ นายธานินทร์ พิทักษ์อรรณพ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.พิษณุโลก จะเร่งจ่ายเงินให้แก่ชาวนาตามลำดับคิวที่ลงบัญชีไว้วันละ 2,000 ราย จากยอดคงค้างทั้งหมด 4,000 ล้านบาท ชาวนา 26,000 รายคาดว่าภายใน 1 เดือนจะสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้หมด
ขณะที่ชาวนากลุ่มหนึ่งใน อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 3 มอบดอกไม้ขอบคุณทหารที่เร่งดำเนินการจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวนอกจากนี้ ยังมีผู้นำอาหารไปมอบให้กับทหาร เพื่อให้กำลังใจกองทัพภาคที่ 3 อย่างต่อเนื่องด้วย
**ชาวนาสันกำแพงเฮ! รับเงินจำนำข้าว
ด้าน ธ.ก.ส.เชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรเงิน 299 ล้านบาทมาจ่ายให้แก่ชาวนา โดยกระจายไปตามสาขาต่างๆ ตามลำดับเลขที่ใบประทวน โดยบรรยากาศที่ ธ.ก.ส.สาขาสันกำแพง มีชาวนาจำนวนมากที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ซึ่งยังไม่ได้รับเงิน ได้ทยอยเดินทางมาทำสัญญาและรับเงินจำนำข้าวอย่างเนื่อง
นายวีระชัย ทนันไชย หนึ่งในชาวนา อ.สันกำแพง บอกว่า ดีใจมากหลังจากที่ได้รับแจ้งว่าให้มารับเงินจำนำข้าวที่ค้างไว้นาน 6 เดือนจึงเดินทางมาที่ธนาคารตั้งแต่เช้าเพื่อเดินเรื่องและทำเอกสารรับเงินค่าจำนำข้าว 300,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ได้รับเงินแล้วจะต้องเบิกจำนวนหนึ่งไปชำระหนี้สินจากการกู้นอกระบบ และใช้จ่ายเป็นค่าปัจจัยการผลิต ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง รวมทั้งค่ารถไถที่ผ่อนชำระอยู่ ส่วนเงินที่เหลือจะฝากเก็บไว้ในบัญชีของธนาคารไปก่อนเพื่อจ่ายค่างวดที่จะต้องผ่อนชำระหนี้สิน และดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้ยืมเงิน ธ.ก.ส.
นายสนอง ชัยชนะ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาสันกำแพง กล่าวว่า สาขาสันกำแพงมีชาวนาเข้าร่วมโครงการ 1,587 ราย เป็นเงิน 117,431,505.75 บาท ซึ่งในรอบนี้ที่ ธ.ก.ส.เชียงใหม่จัดสรรเงินมาในส่วนของสาขาสันกำแพง 20 ล้านบาท จ่ายให้ชาวนาได้ 300 ราย โดยวันนี้จะจ่ายให้ 122 รายเป็นเงิน 9,481,504 บาท ที่เหลือจะทยอยจ่ายให้อย่างต่อเนื่องเมื่อได้รับการจัดสรรเงินเข้ามาเพิ่ม
**ระดมกำลังดูชาวนากาฬสินธุ์ แห่รับเงิน
ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อม พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายเกรียงศักดิ์ เทียนชัย ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ ต้องระดมกำลังทหารเข้ามาดูแลการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาที่ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีชาวนาจำนวนมากได้พากันมารับเงินเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นกับชาวนา
ส่วนชาวนา จ.บุรีรัมย์ ได้แห่มารอรับเงินจำนำข้าวที่ ธ.ก.ส.ตั้งแต่ยังไม่เปิดทำการ โดยต่างมีความหวังว่าจะได้เงินไปเป็นทุนทำนาในฤดูกาลผลิตนี้ หลังรอมานาน 5-6 เดือน ซึ่งทั้งจังหวัดมีชาวนายังไม่ได้รับเงินมากกว่า 34,000 ราย ขณะที่ ธ.ก.ส.บุรีรัมย์กำชับให้ทุกสาขาเร่งออกทำสัญญานอกสถานที่ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้จ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว
**ธ.ก.ส.อุดรฯมั่นใจจ่ายเงินหมดไม่เกินสิ้น มิ.ย.
นายเรืองชัย เจริญกิจสุพัฒน์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้ชาวนาที่ถือใบประทวนมารับเงินจำนำแล้วตั้งแต่วันนี้ ซึ่ง จ.อุดรธานี มีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงิน 6,291 ราย จำนวน 217.47 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินได้หมดภายในกลางเดือน มิ.ย.ช้าสุดไม่เกินสิ้นเดือน มิ.ย.ส่วนที่ล่าช้าเนื่องจากเกษตรกรจำนวนหนึ่งเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดทำให้การติดต่อมาทำสัญญาไม่ได้
**ชาวนาโคราชยิ้มแฉ่งได้งวดแรก 1,686 ล้าน
ขณะที่ชาวนาใน จ.นครราชสีมาต่างดีใจหลังได้รับเงินค่าจำนำข้าวตามคำสั่ง คสช.งวด 1,686 ล้านบาท หลังจากทาง ธ.ก.ส.นครราชสีมา ได้กระจายเงินจำนวนดังกล่าวไปตามสาขาต่างๆ ทั้ง 34 แห่งในจังหวัดเพื่อเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนา แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือเงินที่จะต้องจ่ายให้แก่ชาวนาใน จ.นครราชสีมาอีกจำนวน 3,108.20 ล้านบาท รวมชาวนา 39,424 ราย
นายคำพูล ผลดงนอก อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 31 บ้านเพ็คน้อย ต.หันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า หลังได้ทราบข่าวทางสื่อมวลชนตั้งแต่เมื่อคืนว่า ทาง คสช. สั่งให้เร่งจ่ายเงินค้างจ่ายให้ชาวนา รู้สึกดีใจมาก เพราะรอมานานแล้ว ดีใจอย่างมากที่คณะ คสช. ได้ให้ความสำคัญกับชาวนา และเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาอย่างจริงจัง
**ชาวนาราชบุรี-กรุงเก่าพร้อมจ่ายเงินวันนี้
ด้าน นายจิระพงศ์ เต้พันธ์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.ราชบุรี กล่าวว่า ได้มีการโอนเข้ามาแล้วจำนวน 592 ล้านบาทจากจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายให้แก่ชาวนาอีกกว่า 1,200 ล้านบาท โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้แจ้งให้ชาวนาที่มีลำดับใบประทวนให้มาทำสัญญาเพื่อเตรียมรับเงินในวันนี้แล้ว คาดว่าการจ่ายเงินงวด 592 ล้านบาทจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเท่าที่ตรวจสอบในใบประทวนข้าวคาดว่ามีกว่า 8,000 รายที่ยังเหลืออยู่ และคาดว่าภายในวันที่ 20 มิ.ย.น่าจะเรียบร้อยทั้งหมด
ขณะที่นายกิตติชัย องค์สุรชัย ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.พระนครศรีอยุธยา ได้เรียกผู้จัดการ ธ.ก.ส.ทั้ง 16 อำเภอมาประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการจ่ายเงินให้แก่กรชาวนาในวันนี้ โดย จ.พระนครศรีอยุธยา มีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค้างอยู่อีก 7,973 ราย เป็นเงิน 1,634 ล้านบาท
เช่นเดียวกับนายขจร เศรษฐยานนท์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวทั้งหมด 1,0314 ราย เป็นเงินค้างจ่ายทั้งหมด 1,149.43 ล้านบาท ขณะนี้ ธ.ก.ส.กาญจนบุรี ได้รับเงินแล้ว 544 ล้านบาทเพื่อนำไปจ่ายให้แก่ชาวนางวดแรกในวันนี้ สำหรับยอดเงินค้างจ่ายให้แก่ชาวนาอีกจำนวน 605.43 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถนำไปจ่ายให้แก่ชาวนาทันเวลาที่ หัวหน้า คสช.มีคำสั่ง
**ชาวนาเผยสุดดีใจที่ "คสช.ไม่ทิ้งชาวนา"
นายละออ คำก้อน อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 13/14 หมู่ 3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตนและครอบครัวต้องขอขอบคุณ คสช.ที่เร่งอนุมัติเงินให้แก่เกษตรกรชาวนาผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวที่ตกค้างมานานกว่า 8 เดือน ทำให้เดือดร้อนเรื่องความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตประจำวันที่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายเงินนอกระบบ และใช้ในการลงทุนทำนาเพื่อดำรงชีวิต
"ผมทำนากว่า 50 ไร่มีใบประทวนรอรับเงินกว่า 300,000 บาทและในวันนี้จะเดินทางไปรับเงินค่าจำนำข้าวรู้สึกดีใจมาก และฝากขอบคุณ คสช.ที่ไม่ทิ้งชาวนา" นายละออ กล่าว
นายสมเจตน์ นาเวช อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 อยู่บ้านเลขที่ 154/2 หมู่ 4 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ชาวนาทุกครอบครัวที่ยังไม่ได้รับเงินรู้สึกดีใจมากที่ หัวหน้า คสช.ได้มีคำสั่งประกาศให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาเงินมาจ่ายให้แก่ชาวนา ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านต้องกล่าวขอบคุณท่านแทนพ่อแม่พี่น้องที่เป็นชาวนาทุกคนด้วย
นายธเนศ ทับแก้ว อายุ 72 ปี ชาวนา ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้แจ้งให้ตนมาทำสัญญาเตรียมรับเงินในวันนี้แล้วจำนวน 112,036 บาท ซึ่งเป็นเงินก้อนที่ตนตั้งตารอมานานตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.56 โดยต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาใช้จ่าย รู้สึกดีใจมาก หากได้รับเงินก้อนนี้แล้วผมจะนำไปเป็นทุนทำนารอบใหม่ และนำไปใช้หนี้ ขอขอบคุณทหาร ที่ทำให้ชาวนาทั่วประเทศได้รับเงินจำนำข้าวอย่างรวดเร็ว
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังสถาบันการเงินเฉพาะกิจว่า คสช.ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป โดยเน้นด้านการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนผ่านทางการจ่ายเงินให้ชาวนาโดยเร็วที่สุดจากจำนวนที่ค้างทั้งสิ้น 9.2 หมื่นล้านบาท โดยจะใช้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ส่วนหนึ่งและใช้เงินกู้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งน่าจะช่วยดันให้จีดีพีขยายตัวได้อีก 0.2 % หรืออย่างน้อยอยู่ที่ 2.2% รวมทั้งให้เข้าไปสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้ชาวนาสำหรับการปลูกข้าวฤดูการผลิตใหม่ที่จะถึงนี้ด้วยทั้งปุ๋ย พันธ์ข้าวและอื่นๆ
นอกจากนั้นอีกเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนคือการผลักดันการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 2557 ที่ค้างอยู่ออกไปโดยเร็ว และเริ่มให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อเริ่มกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2558 ทันทีเพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 ต.ค. 25557 นี้ โดยเบื้องต้นจะมีวงเงินไม่มากนักเพื่อไม่ให้ผูกพันธุ์ในระยะยาว โดยให้เน้นที่โครงการจำเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานและรักษาวินัยการเงินการคลังเป็นหลัก
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่รอเงินรับจำนำข้าวกว่า 800,000 ราย วงเงินกว่า 90,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยจะทยอยจ่ายเงินดังกล่าว ตามคิวใบประทวนที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วตามลำดับก่อนหลังอย่างเคร่งครัดโปร่งใสตั้งแต่วันนี้ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือนนับจากนี้ ซึ่งเงินที่จะนำมาใช้หมุนเวียนจะมาจาก เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา และเงินกู้ยืมที่กระทรวงการคลังจัดหามาให้ในวงเงินไม่เกิน 92,431 ล้านบาท ทั้งนี้ ในระหว่างที่รอการกู้เงิน ธ.ก.ส. จะสำรองจ่ายไปก่อนในวงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท เพื่อให้เงินถึงมือเกษตรกรอย่างรวดเร็ว ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ค้ำประกันและรับผิดชอบชำระคืนต้นเงิน ดอกเบี้ยตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานทั้งหมด
สำหรับผลการดำเนินงาน โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ณ วันที่ 23 พ.ค. 57 มียอดใบประทวนรวมทั้งสิ้น 1,671,720 ราย ข้าวเปลือก 11.64 ล้านตัน จำนวนเงิน 192,950 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส. ได้ทยอยจ่ายเงินไปแล้ว ณ ปัจจุบันจำนวน 833,182 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 6.29 ล้านตัน จำนวนเงิน 103,019 ล้านบาท จากยอดจัดสรรทั้งหมด 105,500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินงบประมาณและเงินจากการระบายข้าว ของกระทรวงพาณิชย์ 75,000 ล้านบาท เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา 10,500 ล้านบาท และงบกลางที่รัฐบาลยืมจาก กกต.อีก 20,000 ล้านบาท
***'ประยุทธ์' ไฟเขียวกู้เงินจำนำข้าว 5 หมื่นล.
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน กล่าวว่า ได้ลงนามสถาบันการเงินภาครัฐ-เอกชน 32 แห่ง เพื่อให้ยื่นข้อเสนอเงินให้กู้ยืมภายใต้โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท ภายหลังกระทรวงการคลังได้นำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่ออนุมัติแผนบริหารหนี้สาธารณะ และอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินและค้ำประกันให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน สำหรับโครงการรับจำนำข้าว ในวงเงินไม่เกิน 92,431 ล้านบาท ซึ่งหัวหน้า คสช. ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว โดยการกู้เงินครั้งนี้จะทำในลักษณะ Term Loan ในช่วงแรกมีวงเงิน 50,000 ล้านบาทก่อน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40,000 ล้านบาท จะดำเนินการภายหลัง
สำหรับรูปแบบและเงื่อนไขการกู้เงินมีดังนี้ วงเงิน 50,000 ล้านบาท วงเงินขั้นต่ำที่เข้าร่วมประมูล 2,000 ล้านบาท อายุเงินกู้ 3 ปี นับจากวันเบิกเงินกู้งวดแรก กำหนดวันยื่นประมูลงวดแรกไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ในวันที่ 6 มิ.ย. 2557 งวดที่ 2 ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ในวันที่ 13 มิ.ย. 2557 โดยจะเบิกเงินกู้จากธนาคารที่เสนอดอกเบี้ยต่ำกว่าก่อน
ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะอ้างอิงระยะสั้นตลาดกรุงเทพ (BIBOR) ระยะ 6 เดือน ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นฐานการในการคำนวณดอกเบี้ย (ทศนิยม 4 ตำแหน่ง) และปรับอัตราดอกเบี้ย ทุกงวด 6 เดือน หากมีการเปลี่ยนแปลง กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกงวด 6 เดือน นับแต่วันเบิกเงินกู้งวดแรก กำหนดชำระคืนเงินต้นทั้งจำนวนเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้ ขณะที่การชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด สามารถชำระคืนเงินต้นได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม โดยจะชำระคืนหนี้แก่ธนาคาร/หรือเงื่อนไขที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก่อน โดยจะแจ้งใหทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันทำการ
ทั้งนี้ การค้ำประกันทางกระทรวงการคลัง จะค้ำเงินประกัน เงินต้น ดอกเบี้ย โดยใช้สัญญามาตรฐานกระทรวงการคลังผู้รับภาระชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย คือ รัฐบาล ซึ่งมั่นใจว่า การกู้เงินครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากสถาบันการเงินเป็นอย่างดี เนื่องจากปัญหาความไม่ชัดเจนทางกฎหมายได้ถูกขจัดหมดสิ้นแล้ว ภายหลังจัดหาเงินรับจำนำข้าว ภายใต้รัฐบาลรักษาการชุดที่แล้วที่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะความไม่ชัดเจนด้านกฎหมาย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ได้ห้ามรัฐบาลรักษาการกระทำการบางอย่างในช่วงการยุบสภา สถาบันการเงินจึงไม่มีความมั่นใจที่จะให้กู้ยืมในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้จากการกู้ยืมครั้งนี้ ธ.ก.ส. จะนำไปจ่ายหนี้ให้เกษตรกรโดยเร็วและเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป
***ผงะ! ขาดทุนบักโกรก 5 แสนล.
มีรายงานว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ตรวจสอบผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปี (2554/2555, 2555/2556 ,2556/2557) พบว่ามีผลขาดทุนสูงขึ้นกว่าเท่าตัว หรือขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาขายต่ำกว่าราคาต้นทุนกว่า 1.5 หมื่นบาทต่อตัน โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้คำนวณต้นทุนข้าวเปลือกที่แปรสภาพเป็นข้าวสารไว้เฉลี่ยที่ราคา 2.3 หมื่นบาทต่อตัน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวไปที่ราคา 1.2-1.4 หมื่นบาทต่อตัน และเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการได้ขายข้าวไปด้วยราคาเพียงตันละ 8 พันบาทเท่านั่น ทำให้มีส่วนต่างราคาขายกับราคาต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งทำให้โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าข้าวสารหายไปจากสต๊อกอีกราว 2.8 ล้านตันนั่น ปรากฏว่าในสต๊อกไม่ได้มีข้าวอยู่จริง เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น และยังพบว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพอีกจำนวนมากที่ยังรอให้เซอร์เวเยอร์ตีราคา ซึ่งหากมีการตีราคาแล้ว คาดว่าจะทำให้ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวจะเพิ่มมากกว่า 5 แสนล้านบาท.
***ชาวนาคึกคักแห่รับเงินหลังคอยมานาน
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ควช.) ประกาศเริ่มจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้แก่ชาวนาวานนี้ (26 พ.ค.) เป็นวันแรก ทำให้บรรยากาศที่ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศคึกคักไปด้วยชาวนาทั้งที่มารับเงินค่าจำนำข้าวและมาติดต่อทำสัญญาเพื่อเตรียมรับเงินในวันที่ 27 พ.ค.นี้
โดยที่ จ.นครสวรรค์ คึกคักไปด้วยชาวนาที่มาติดต่อรับเงิน ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ได้ชี้แจงว่ามีเงินเข้ามาในระบบแล้ว 2,800 ล้านบาท โดยจะทยอยจ่ายได้หมดภายในอาทิตย์นี้
เช่นเดียวกับ ธ.ก.ส.สาขา อ.เมืองพิจิตร มีชาวนาจำนวนมากเดินทางมาติดต่อรับเงินจากธนาคารพร้อมใบประทวนสินค้า โดยธนาคารจะโอนเข้าบัญชีแทนการจ่ายเงินสดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมต่างๆ เบื้องต้นสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้กว่า 10,000 ราย แต่ยังมีอีกกว่า 20,000 รายที่ต้องรอรับเงินในรอบต่อไป
***ชาวนาเชียงรายเฮรับเงินวดแรกกว่าพันล้าน
ที่ จ.เชียงราย ได้มีชาวนานำใบประทวนเดินทางไปรับเงินที่ ธ.ก.ส.เชียงราย กันตั้งแต่เช้าด้วยสีหน้าแจ่มใส และเกือบทั้งหมดนำบัญชีธนาคารติดตัวมาเพื่อถอนเงินไปใช้หนี้สินที่คงค้างตั้งแต่ มิ.ย.2556 ที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้ สำหรับชาวนาใน จ.เชียงราย ที่ยังไม่ได้รับเงินโครงการรับจำนำข้าวนาปีฤดูกาล 2556/57 มี 42,100 รายใบประทวน 49,003 ฉบับ ปริมาณข้าว 152,155 ตันมูลค่าทั้งหมด 2,871,347,614 บาท
นายพิเชียน จอมพงษ์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.เชียงราย เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.เชียงราย ได้รับการจัดสรรเม็ดเงินงวดแรก 1,116 ล้านบาท ซึ่งจะเร่งให้ธนาคารสาขาในจังหวัดทั้ง 29 สาขา จัดสรรให้กับชาวนาที่รอคอยมานานให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์ที่ 30 พ.ค.นี้
นางปราณี สุริยะเสาร์ ชาวนาใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนทำนา 11 ไร่ มีเงินคงค้างตามโครงการที่ไม่ได้รับมาเกือบ 6 เดือน เป็นเงินประมาณ 117,800 บาท ช่วงที่ไม่ได้รับเงินเดือดร้อนมาก เพราะหนี้สินเก่าก็คงค้างแล้วยังต้องทำนาปรังอีก แต่ก็ฝืนทำนาปรังเรื่อยมา โดยขายข้าวได้กิโลกรัมละ 5 บาทพอคุ้มทุนอยู่ได้ กระทั่งทาง คสช.ได้เข้าปฏิรูป จัดสรรเงินมาให้ ก็รู้สึกดีใจมาก
**ชาวนาพิษณุโลกได้ล็อตแรก 1.7 พันล้าน
ส่วน ธ.ก.ส.พิษณุโลก ได้รับเงินงวดแรกเพื่อนำไปจ่ายให้แก่ชาวนาจำนวน 1,793 ล้านบาท โดยมีชาวนาเดินทางไปติดต่อรับเงินกันอย่างคึกคัก ทั้งนี้ นายธานินทร์ พิทักษ์อรรณพ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.พิษณุโลก จะเร่งจ่ายเงินให้แก่ชาวนาตามลำดับคิวที่ลงบัญชีไว้วันละ 2,000 ราย จากยอดคงค้างทั้งหมด 4,000 ล้านบาท ชาวนา 26,000 รายคาดว่าภายใน 1 เดือนจะสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้หมด
ขณะที่ชาวนากลุ่มหนึ่งใน อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 3 มอบดอกไม้ขอบคุณทหารที่เร่งดำเนินการจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวนอกจากนี้ ยังมีผู้นำอาหารไปมอบให้กับทหาร เพื่อให้กำลังใจกองทัพภาคที่ 3 อย่างต่อเนื่องด้วย
**ชาวนาสันกำแพงเฮ! รับเงินจำนำข้าว
ด้าน ธ.ก.ส.เชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรเงิน 299 ล้านบาทมาจ่ายให้แก่ชาวนา โดยกระจายไปตามสาขาต่างๆ ตามลำดับเลขที่ใบประทวน โดยบรรยากาศที่ ธ.ก.ส.สาขาสันกำแพง มีชาวนาจำนวนมากที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ซึ่งยังไม่ได้รับเงิน ได้ทยอยเดินทางมาทำสัญญาและรับเงินจำนำข้าวอย่างเนื่อง
นายวีระชัย ทนันไชย หนึ่งในชาวนา อ.สันกำแพง บอกว่า ดีใจมากหลังจากที่ได้รับแจ้งว่าให้มารับเงินจำนำข้าวที่ค้างไว้นาน 6 เดือนจึงเดินทางมาที่ธนาคารตั้งแต่เช้าเพื่อเดินเรื่องและทำเอกสารรับเงินค่าจำนำข้าว 300,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ได้รับเงินแล้วจะต้องเบิกจำนวนหนึ่งไปชำระหนี้สินจากการกู้นอกระบบ และใช้จ่ายเป็นค่าปัจจัยการผลิต ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง รวมทั้งค่ารถไถที่ผ่อนชำระอยู่ ส่วนเงินที่เหลือจะฝากเก็บไว้ในบัญชีของธนาคารไปก่อนเพื่อจ่ายค่างวดที่จะต้องผ่อนชำระหนี้สิน และดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้ยืมเงิน ธ.ก.ส.
นายสนอง ชัยชนะ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาสันกำแพง กล่าวว่า สาขาสันกำแพงมีชาวนาเข้าร่วมโครงการ 1,587 ราย เป็นเงิน 117,431,505.75 บาท ซึ่งในรอบนี้ที่ ธ.ก.ส.เชียงใหม่จัดสรรเงินมาในส่วนของสาขาสันกำแพง 20 ล้านบาท จ่ายให้ชาวนาได้ 300 ราย โดยวันนี้จะจ่ายให้ 122 รายเป็นเงิน 9,481,504 บาท ที่เหลือจะทยอยจ่ายให้อย่างต่อเนื่องเมื่อได้รับการจัดสรรเงินเข้ามาเพิ่ม
**ระดมกำลังดูชาวนากาฬสินธุ์ แห่รับเงิน
ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อม พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายเกรียงศักดิ์ เทียนชัย ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ ต้องระดมกำลังทหารเข้ามาดูแลการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาที่ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีชาวนาจำนวนมากได้พากันมารับเงินเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นกับชาวนา
ส่วนชาวนา จ.บุรีรัมย์ ได้แห่มารอรับเงินจำนำข้าวที่ ธ.ก.ส.ตั้งแต่ยังไม่เปิดทำการ โดยต่างมีความหวังว่าจะได้เงินไปเป็นทุนทำนาในฤดูกาลผลิตนี้ หลังรอมานาน 5-6 เดือน ซึ่งทั้งจังหวัดมีชาวนายังไม่ได้รับเงินมากกว่า 34,000 ราย ขณะที่ ธ.ก.ส.บุรีรัมย์กำชับให้ทุกสาขาเร่งออกทำสัญญานอกสถานที่ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้จ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว
**ธ.ก.ส.อุดรฯมั่นใจจ่ายเงินหมดไม่เกินสิ้น มิ.ย.
นายเรืองชัย เจริญกิจสุพัฒน์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้ชาวนาที่ถือใบประทวนมารับเงินจำนำแล้วตั้งแต่วันนี้ ซึ่ง จ.อุดรธานี มีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงิน 6,291 ราย จำนวน 217.47 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินได้หมดภายในกลางเดือน มิ.ย.ช้าสุดไม่เกินสิ้นเดือน มิ.ย.ส่วนที่ล่าช้าเนื่องจากเกษตรกรจำนวนหนึ่งเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดทำให้การติดต่อมาทำสัญญาไม่ได้
**ชาวนาโคราชยิ้มแฉ่งได้งวดแรก 1,686 ล้าน
ขณะที่ชาวนาใน จ.นครราชสีมาต่างดีใจหลังได้รับเงินค่าจำนำข้าวตามคำสั่ง คสช.งวด 1,686 ล้านบาท หลังจากทาง ธ.ก.ส.นครราชสีมา ได้กระจายเงินจำนวนดังกล่าวไปตามสาขาต่างๆ ทั้ง 34 แห่งในจังหวัดเพื่อเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนา แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือเงินที่จะต้องจ่ายให้แก่ชาวนาใน จ.นครราชสีมาอีกจำนวน 3,108.20 ล้านบาท รวมชาวนา 39,424 ราย
นายคำพูล ผลดงนอก อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 31 บ้านเพ็คน้อย ต.หันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า หลังได้ทราบข่าวทางสื่อมวลชนตั้งแต่เมื่อคืนว่า ทาง คสช. สั่งให้เร่งจ่ายเงินค้างจ่ายให้ชาวนา รู้สึกดีใจมาก เพราะรอมานานแล้ว ดีใจอย่างมากที่คณะ คสช. ได้ให้ความสำคัญกับชาวนา และเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาอย่างจริงจัง
**ชาวนาราชบุรี-กรุงเก่าพร้อมจ่ายเงินวันนี้
ด้าน นายจิระพงศ์ เต้พันธ์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.ราชบุรี กล่าวว่า ได้มีการโอนเข้ามาแล้วจำนวน 592 ล้านบาทจากจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายให้แก่ชาวนาอีกกว่า 1,200 ล้านบาท โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้แจ้งให้ชาวนาที่มีลำดับใบประทวนให้มาทำสัญญาเพื่อเตรียมรับเงินในวันนี้แล้ว คาดว่าการจ่ายเงินงวด 592 ล้านบาทจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเท่าที่ตรวจสอบในใบประทวนข้าวคาดว่ามีกว่า 8,000 รายที่ยังเหลืออยู่ และคาดว่าภายในวันที่ 20 มิ.ย.น่าจะเรียบร้อยทั้งหมด
ขณะที่นายกิตติชัย องค์สุรชัย ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.พระนครศรีอยุธยา ได้เรียกผู้จัดการ ธ.ก.ส.ทั้ง 16 อำเภอมาประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการจ่ายเงินให้แก่กรชาวนาในวันนี้ โดย จ.พระนครศรีอยุธยา มีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค้างอยู่อีก 7,973 ราย เป็นเงิน 1,634 ล้านบาท
เช่นเดียวกับนายขจร เศรษฐยานนท์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวทั้งหมด 1,0314 ราย เป็นเงินค้างจ่ายทั้งหมด 1,149.43 ล้านบาท ขณะนี้ ธ.ก.ส.กาญจนบุรี ได้รับเงินแล้ว 544 ล้านบาทเพื่อนำไปจ่ายให้แก่ชาวนางวดแรกในวันนี้ สำหรับยอดเงินค้างจ่ายให้แก่ชาวนาอีกจำนวน 605.43 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถนำไปจ่ายให้แก่ชาวนาทันเวลาที่ หัวหน้า คสช.มีคำสั่ง
**ชาวนาเผยสุดดีใจที่ "คสช.ไม่ทิ้งชาวนา"
นายละออ คำก้อน อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 13/14 หมู่ 3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตนและครอบครัวต้องขอขอบคุณ คสช.ที่เร่งอนุมัติเงินให้แก่เกษตรกรชาวนาผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวที่ตกค้างมานานกว่า 8 เดือน ทำให้เดือดร้อนเรื่องความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตประจำวันที่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายเงินนอกระบบ และใช้ในการลงทุนทำนาเพื่อดำรงชีวิต
"ผมทำนากว่า 50 ไร่มีใบประทวนรอรับเงินกว่า 300,000 บาทและในวันนี้จะเดินทางไปรับเงินค่าจำนำข้าวรู้สึกดีใจมาก และฝากขอบคุณ คสช.ที่ไม่ทิ้งชาวนา" นายละออ กล่าว
นายสมเจตน์ นาเวช อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 อยู่บ้านเลขที่ 154/2 หมู่ 4 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ชาวนาทุกครอบครัวที่ยังไม่ได้รับเงินรู้สึกดีใจมากที่ หัวหน้า คสช.ได้มีคำสั่งประกาศให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาเงินมาจ่ายให้แก่ชาวนา ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านต้องกล่าวขอบคุณท่านแทนพ่อแม่พี่น้องที่เป็นชาวนาทุกคนด้วย
นายธเนศ ทับแก้ว อายุ 72 ปี ชาวนา ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้แจ้งให้ตนมาทำสัญญาเตรียมรับเงินในวันนี้แล้วจำนวน 112,036 บาท ซึ่งเป็นเงินก้อนที่ตนตั้งตารอมานานตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.56 โดยต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาใช้จ่าย รู้สึกดีใจมาก หากได้รับเงินก้อนนี้แล้วผมจะนำไปเป็นทุนทำนารอบใหม่ และนำไปใช้หนี้ ขอขอบคุณทหาร ที่ทำให้ชาวนาทั่วประเทศได้รับเงินจำนำข้าวอย่างรวดเร็ว
