00 แม้ว่านาทีนี้จะยังไม่อาจคาดเดาสถานการณ์ในวันข้างหน้าได้เต็มร้อย หลังเหตุการณ์รัฐประหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากยังมีการต่อต้านจากเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร กันอย่างไม่ลดละ ขณะเดียวกัน หากไม่เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจเที่ยวนี้ เราก็คงไม่เห็นความชั่วร้าย ได้เห็นเครือข่าย ขุมกำลัง ทั้งที่เป็นเครือข่ายอำนาจรัฐ อำนาจเงิน เครือข่ายมวลชนที่แผ่ขยายฝังรากลึกในบ้านเมืองมานาน ตัวบุคคลที่ถูกเรียกมารายงานตัว ทำให้คนในสังคมได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมา คนที่เคยติดตาม คนที่รู้ทันทักษิณ มานานจะรู้ไส้กันดีนานแล้ว แต่ก็เชื่อว่ายังมีอีกไม่น้อย ที่ไม่รู้เท่าทัน แต่เมื่อได้เห็นรายชื่อที่เรียงกันเป็นหางว่าว ก็ต้องบอกว่ามันน่าหนักใจ และเชื่อว่า การใช้อำนาจแบบธรรมดา ตามระบอบที่อ้างอิงสากล ไม่มีทางโยกคลอนพวกแก๊งโจร กลุ่มนี้ลงได้
00 ต้องยอมรับว่า กลุ่มผู้ก่อการยึดอำนาจคราวนี้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ "ลับ ลวง พราง" จนตายใจ และตามประกบเครือข่ายทักษิณแบบซุ่มซ่อน เงียบกริบ จนเมื่อเผยออกมาก็หงายหลังตึง มีการกวาดล้างอาวุธสงคราม ล็อกหัวโจก ฮาร์ดคอร์ เรียบวุธ เครือข่ายปฏิบัติการทั้งที่อยู่ในรัฐตำรวจ และในแบบ "แตงโม-มะเขือเทศ" กองกำลังเสื้อแดงที่แฝงอยู่ในชุดดำ ก็ถูกบล็อก ขยับไม่ออก คาดไม่ถึง
00 อย่างไรก็ดี แม้ว่าสถานการณ์ยามนี้เหมือนกับว่า คสช.ควบคุมได้เบ็ดเสร็จ อาจจะใช่ ถ้ามองแบบนั้น แต่อย่างที่บอกว่า ระบอบทักษิณ นี่มัน "เลวครบเครื่อง" ที่น่ากลัวตอนนี้ก็คือ การสร้างสถานการณ์ด้วยมวลชนเสื้อแดง ที่มีพวกนักวิชาการแดงนักเคลื่อนไหว กำลังก่อหวอดนัดชุมนุมยั่วยุกันแบบรายวัน แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยมวลชนแค่หยิบมือ แต่เมื่อมีโอกาสเคลื่อนไหว สร้างสัญลักษณ์กันรายวัน อีกด้านหนึ่งก็ทำให้เรียกพวกโลกสวย พวกบ้าประชาธิปไตยฉาบฉวยด้วยการเลือกตั้ง ใช้เงื่อนไขรัฐประหารปลุกระดมให้ออกมาร่วมมากขึ้น หากปล่อยให้สถานการณ์พัฒนาการไปถึงตอนนั้น มันก็น่าห่วงเหมือนกัน เพราะเมื่อเชื่อมโยงกับพวกมหาอำนาจ อย่าง สหรัฐฯ และยุโรป ที่เสียประโยชน์ป่นปี้ เมื่อระบอบทักษิณพังไป พวกนี้ก็ออกแรงบีบขนาบเข้ามา
00 แต่คราวนี้เชื่อว่า สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับปี 49 เพราะชาวบ้านได้ตาสว่าง ได้ซึมซับความเลวจาก ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวมาจนแทบอ๊วก ได้เห็นความห่วยแตกของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มานานกว่าสองปี ที่สำคัญคราวนี้มีการใช้โซเชียลมีเดีย ออกมาโต้ตอบพวกระบอบทักษิณ อย่างได้ผล กลายเป็นชาวบ้านเป็นสื่อรายงานสถานการณ์กันเอง มีการส่งต่อข้อมูลหลักฐานกันแบบละเอียดยิบ แม้ว่า บางครั้งอาจมีการสอดไส้ บิดเบือนบ้าง แต่ในยุคนี้คนที่เสพสื่อมันก็มีการพัฒนาไปไกล กลั่นกรองได้หลายชั้นแล้ว พวกสื่อหลัก สื่อรอง สื่อขายตัว ที่คอยแอบป่วน หงายเงิบไปเลย
00 นาทีนี้พิจารณาตามรูปการณ์ก็ต้องบอกว่า อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นอยู่กับว่า เขาจะนำไปทางไหน แต่ได้เห็นความเคลื่อนไหว ตรวจสอบจากคำสั่งและประกาศของ คสช. รวมทั้งคำแถลงจากเขาเอง โดยเฉพาะการย้ำว่าจะมีการ "ปฏิรูปทุกด้านก่อนเลือกตั้ง" รวมทั้งได้เห็นการ "จัดการ" กับเครือข่าย-ท่อน้ำเลี้ยง" ของระบอบทักษิณ ก็มีความหวังได้มากขึ้นว่า เขาเข้าใจเรื่องราวได้ดี ขณะเดียวกันมันก็แน่นอนอยู่แล้ว ที่ได้เห็นบางประเทศอย่าง สหรัฐฯ และตะวันตก ที่ทำดัจริตต่อต้านตัดความช่วยเหลือ ก็ไม่ต้องไปแคร์หรือสนใจ ตราบใดที่เรามุ่งมั่น"กวาดบ้านให้สะอาด" ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ อาจเสียเวลาไปบ้าง แต่ขอให้อย่าวอกแวก ที่สำคัญที่สุดอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันหนักแน่นว่า "ทำเพื่อประโยชน์ทุกคน ไม่ใช่เพื่อใครคนใดกลุ่มใด" แค่นี้ก็เป็นกำแพงเหล็กเพชรป้องกันให้ได้อย่างดี โดยเฉพาะมวลชนส่วนใหญ่ที่ "ตื่นรู้" จะคอยสนับสนุนแนวทางนี้ให้เดินหน้าต่อไปจนถึงเป้าหมาย ขอเพียงอย่าเปลี่ยนใจ หรือเปลี่ยนแปลงกลางทางเท่านั่นเอง !!
00 การโยกย้ายหลายตำแหน่ง เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เรียกว่ามีนัยสำคัญ คนที่ติดตามสถานการณ์มานานย่อมเข้าใจกันดี และคงไม่ต้องวิจารณ์ หรือวิเคราะห์ออกมา โดยเฉพาะตำแหน่งหลักอย่าง ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก พ้นจากปลัดกระทรวงกลาโหม ธาริต เพ็งดิษฐ์ พ้นจาก ดีเอสไอ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ้นจาก ผอ.ศอ.บต. รวมไปถึงระดับมือไม้ที่เป็นระดับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการภาค 8 ตำแหน่ง ในนั้นก็มี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เห็นชื่อแต่ละคนก็มองออก ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว !!
00 ในที่สุดก็ยุบวุฒิสภา มองในเชิงลึกก็คงเพื่อตัดปัญหา ไม่ให้กระทบเบื้องสูง ให้ทรงอยู่เหนือการเมือง เพราะถ้ามีการทูลเกล้าฯ โดยประธานวุฒิสภา ก็อาจจะเป็นการกระทบกระเทือน อาจไม่เหมาะสม จึงกลายเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แอ่นอกเข้ามารับผิดชอบเสียเองทุกอย่าง อีกทั้งก็ต้องใช้ความเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สำหรับการปฏิรูปทุกด้าน ต้องรีบทำโดยเร็ว ชักช้าไม่ได้ ส่วนจะเป็นแบบนี้หรือไม่ อีกไม่นานก็คงได้เห็น ตอนนี้ก็นั่งลุ้นเอาใจช่วย ให้ปฏิรูปตามเป้าหมายให้สำเร็จก็แล้วกัน !!
00 ต้องยอมรับว่า กลุ่มผู้ก่อการยึดอำนาจคราวนี้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ "ลับ ลวง พราง" จนตายใจ และตามประกบเครือข่ายทักษิณแบบซุ่มซ่อน เงียบกริบ จนเมื่อเผยออกมาก็หงายหลังตึง มีการกวาดล้างอาวุธสงคราม ล็อกหัวโจก ฮาร์ดคอร์ เรียบวุธ เครือข่ายปฏิบัติการทั้งที่อยู่ในรัฐตำรวจ และในแบบ "แตงโม-มะเขือเทศ" กองกำลังเสื้อแดงที่แฝงอยู่ในชุดดำ ก็ถูกบล็อก ขยับไม่ออก คาดไม่ถึง
00 อย่างไรก็ดี แม้ว่าสถานการณ์ยามนี้เหมือนกับว่า คสช.ควบคุมได้เบ็ดเสร็จ อาจจะใช่ ถ้ามองแบบนั้น แต่อย่างที่บอกว่า ระบอบทักษิณ นี่มัน "เลวครบเครื่อง" ที่น่ากลัวตอนนี้ก็คือ การสร้างสถานการณ์ด้วยมวลชนเสื้อแดง ที่มีพวกนักวิชาการแดงนักเคลื่อนไหว กำลังก่อหวอดนัดชุมนุมยั่วยุกันแบบรายวัน แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยมวลชนแค่หยิบมือ แต่เมื่อมีโอกาสเคลื่อนไหว สร้างสัญลักษณ์กันรายวัน อีกด้านหนึ่งก็ทำให้เรียกพวกโลกสวย พวกบ้าประชาธิปไตยฉาบฉวยด้วยการเลือกตั้ง ใช้เงื่อนไขรัฐประหารปลุกระดมให้ออกมาร่วมมากขึ้น หากปล่อยให้สถานการณ์พัฒนาการไปถึงตอนนั้น มันก็น่าห่วงเหมือนกัน เพราะเมื่อเชื่อมโยงกับพวกมหาอำนาจ อย่าง สหรัฐฯ และยุโรป ที่เสียประโยชน์ป่นปี้ เมื่อระบอบทักษิณพังไป พวกนี้ก็ออกแรงบีบขนาบเข้ามา
00 แต่คราวนี้เชื่อว่า สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับปี 49 เพราะชาวบ้านได้ตาสว่าง ได้ซึมซับความเลวจาก ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวมาจนแทบอ๊วก ได้เห็นความห่วยแตกของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มานานกว่าสองปี ที่สำคัญคราวนี้มีการใช้โซเชียลมีเดีย ออกมาโต้ตอบพวกระบอบทักษิณ อย่างได้ผล กลายเป็นชาวบ้านเป็นสื่อรายงานสถานการณ์กันเอง มีการส่งต่อข้อมูลหลักฐานกันแบบละเอียดยิบ แม้ว่า บางครั้งอาจมีการสอดไส้ บิดเบือนบ้าง แต่ในยุคนี้คนที่เสพสื่อมันก็มีการพัฒนาไปไกล กลั่นกรองได้หลายชั้นแล้ว พวกสื่อหลัก สื่อรอง สื่อขายตัว ที่คอยแอบป่วน หงายเงิบไปเลย
00 นาทีนี้พิจารณาตามรูปการณ์ก็ต้องบอกว่า อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นอยู่กับว่า เขาจะนำไปทางไหน แต่ได้เห็นความเคลื่อนไหว ตรวจสอบจากคำสั่งและประกาศของ คสช. รวมทั้งคำแถลงจากเขาเอง โดยเฉพาะการย้ำว่าจะมีการ "ปฏิรูปทุกด้านก่อนเลือกตั้ง" รวมทั้งได้เห็นการ "จัดการ" กับเครือข่าย-ท่อน้ำเลี้ยง" ของระบอบทักษิณ ก็มีความหวังได้มากขึ้นว่า เขาเข้าใจเรื่องราวได้ดี ขณะเดียวกันมันก็แน่นอนอยู่แล้ว ที่ได้เห็นบางประเทศอย่าง สหรัฐฯ และตะวันตก ที่ทำดัจริตต่อต้านตัดความช่วยเหลือ ก็ไม่ต้องไปแคร์หรือสนใจ ตราบใดที่เรามุ่งมั่น"กวาดบ้านให้สะอาด" ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ อาจเสียเวลาไปบ้าง แต่ขอให้อย่าวอกแวก ที่สำคัญที่สุดอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันหนักแน่นว่า "ทำเพื่อประโยชน์ทุกคน ไม่ใช่เพื่อใครคนใดกลุ่มใด" แค่นี้ก็เป็นกำแพงเหล็กเพชรป้องกันให้ได้อย่างดี โดยเฉพาะมวลชนส่วนใหญ่ที่ "ตื่นรู้" จะคอยสนับสนุนแนวทางนี้ให้เดินหน้าต่อไปจนถึงเป้าหมาย ขอเพียงอย่าเปลี่ยนใจ หรือเปลี่ยนแปลงกลางทางเท่านั่นเอง !!
00 การโยกย้ายหลายตำแหน่ง เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เรียกว่ามีนัยสำคัญ คนที่ติดตามสถานการณ์มานานย่อมเข้าใจกันดี และคงไม่ต้องวิจารณ์ หรือวิเคราะห์ออกมา โดยเฉพาะตำแหน่งหลักอย่าง ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก พ้นจากปลัดกระทรวงกลาโหม ธาริต เพ็งดิษฐ์ พ้นจาก ดีเอสไอ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ้นจาก ผอ.ศอ.บต. รวมไปถึงระดับมือไม้ที่เป็นระดับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการภาค 8 ตำแหน่ง ในนั้นก็มี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เห็นชื่อแต่ละคนก็มองออก ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว !!
00 ในที่สุดก็ยุบวุฒิสภา มองในเชิงลึกก็คงเพื่อตัดปัญหา ไม่ให้กระทบเบื้องสูง ให้ทรงอยู่เหนือการเมือง เพราะถ้ามีการทูลเกล้าฯ โดยประธานวุฒิสภา ก็อาจจะเป็นการกระทบกระเทือน อาจไม่เหมาะสม จึงกลายเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แอ่นอกเข้ามารับผิดชอบเสียเองทุกอย่าง อีกทั้งก็ต้องใช้ความเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สำหรับการปฏิรูปทุกด้าน ต้องรีบทำโดยเร็ว ชักช้าไม่ได้ ส่วนจะเป็นแบบนี้หรือไม่ อีกไม่นานก็คงได้เห็น ตอนนี้ก็นั่งลุ้นเอาใจช่วย ให้ปฏิรูปตามเป้าหมายให้สำเร็จก็แล้วกัน !!