ศรส. หนุน ผบ.ทบ.หนุนแนวทางเจรจา พร้อมขอบคุณ กปปส.ยุบรวมเวทีไปสวนลุมพินี แต่ยังห่วงคงเวทีแจ้งวัฒนะ และทำเนียบฯ รวมทั้งการเคลื่อนไหวปิดสถานที่ราชการ ตัดท่อน้ำเลี้ยงตระกูลชินวัตร ที่เป็นการทำผิด กม.และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เตรียมประสานอัยการสอบถามศาลแพ่ง เพื่อดำเนินการกับแก๊งแดงปิด ป.ป.ช. พร้อมหามาตรการช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกรุงเทพฯ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุม ศรส. ว่า ศรส.ขอสนับสนุน และเห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้แสดงการสนับสนุนให้มีการเจรจากัน และให้การแก้ไขปัญหาดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่ ศรส. ปฏิบัติอยู่ โดยคณะกรรมการ ศรส. ก็มีผู้แทนของผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดร่วมเป็นคณะกรรมการอยู่ด้วยแล้ว อีกทั้งการปฏิบัติการต่างๆ ก็กระทำร่วมกันทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน
ทั้งนี้ ศรส.ขอขอบคุณแกนนำ กปปส.ที่จะได้ยุบเวทีการชุมนุมต่างๆ ไปรวมกันที่เวทีสวนลุมพินี อันเป็นสัญญาณที่ดีว่า กปปส.ได้ลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แต่ ศรส.ก็ยังห่วงใยการคงไว้ซึ่งเวทีชุมนุมถนนแจ้งวัฒนะ และบริเวณถนนรอบทำเนียบรัฐบาล รวมถึงการประกาศของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่จะยังคงส่งมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการต่างๆ รวมถึงบริษัท ห้างร้านภาคเอกชนด้วย ซึ่งล้วนเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมาย และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั้งสิ้น
นายธาริต กล่าวถึงกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่ชุมนุมบริเวณด้านหน้า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่า ศรส.ขอเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมโดยเร็ว เพราะข้าราชการ ป.ป.ช. ไม่สามารถเข้าทำงานได้ตามปกติ ยังเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอีกด้วย การกระทำของแกนนำ กวป. เช่นนี้ เป็นการสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองมากขึ้นไปอีก ศรส.จึงได้มีหนังสือแจ้งพนักงานอัยการ ให้มีหนังสือสอบถามขอคำแนะนำไปยังศาลแพ่งว่า กรณีการชุมนุมของกลุ่ม กวป. ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. นั้น ศรส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการเช่นใดจึงจะไม่เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามของศาลแพ่ง
อย่างไรก็ตาม ศรส.เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ของ กปปส. ขึ้นเพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนที่ประกอบธุรกิจดังกล่าว เช่น มาตรการให้ธนาคารของรัฐสนับสนุนเงินกู้ หรือสินเชื่อบุคคล หรือภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ มาตรการผ่อนปรนเบี้ยปรับการชำระหนี้ มาตรการขอความร่วมมือภาคธุรกิจผ่อนผันค่าปรับ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม กับคู่สัญญาที่ชำระหนี้ล่าช้า เป็นต้น โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงาน และผู้แทนกระทรวงที่สำคัญ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นคณะทำงาน เมื่อคณะทำงานชุดนี้ได้ดำเนินการกำหนดแนวทางแล้วเสร็จ ศรส.จะได้พิจารณาเสนอไปยังธนาคารของรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือต่อไป