xs
xsm
sm
md
lg

ศรส.ชี้แดงทำแบบ กปปส. ชงศาลแพ่งหาวิธีจัดการ จ่อเรียกคนเป่านกหวีดไล่ “เมียแม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ธาริต” เผยผลประชุม ศรส. เย้ยม็อบ กปปส.คนน้อยทุกเวทีไม่ถึง 4 พันคน ตีกินขอบคุณ ปชช.ไม่ร่วมทุกม็อบ จี้ กวป.เลิกชุมนุมหน้า ป.ป.ช.ตัดหางรับผิดชอบการกระทำ ได้ทีร่อนหนังสือถามศาลแพ่ง อ้างชุมนุมเหมือ กปปส.ทุกอย่าง ขอบคุณศาลอาญาไม่ถอนหมายจับแกนนำ กปปส. เผย “เหลิม” แจ้งปลัด ก.ถูกปิด ให้ร้องทุกข์เอาผิด กปปส. ของขึ้น “เมียนายใหญ่” เจอไล่ เรียกแกนนำเป่านกหวีดคุกคามที่สาธารณะมาดำเนินคดี

วันนี้ (28 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุม ศรส.ว่า การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ทุกเวทีมีจำนวน 3,900 คน ถือว่าลดลง ศรส.ขอขอบคุณประชาชนที่ไม่เข้าร่วมชุมนุม ไม่สนับสนุนกลุ่ม กปปส. ไม่สนับสนุนกลุ่ม นปช. และกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเป็นผลดีต่อการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุร้ายต่างๆ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มกวป. บริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอเรียกร้องให้แกนนำได้เลิกการชุมนุม เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้เส้นทางการจราจรบนถนนนนทบุรี 1 เป็นอย่างมาก รวมถึงการชุมนุมปิดกั้นประตูสำนักงาน ป.ป.ช.ทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. และข้าราชการไม่สามารถเข้าออกเพื่อทำงานตามปกติได้ แกนนำ กวป.จะต้องรับผิดชอบกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งเป็นการสร้างเงื่อนไขความยุ่งยากให้แก่บ้านเมืองมากขึ้นไปอีก

“ทั้งนี้ ผอ.ศรส.จะทำหนังสือไปถึงพนักงานอัยการ เพื่อให้สอบถามศาลแพ่งขอคำแนะนำว่ากรณีกวป.จะให้ศรส.ปฏิบัติอย่างไรจึงจะไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง 9 ข้อของศาลแพ่ง เพราะ กวป.กระทำการเหมือน กปปส.ทุกอย่าง ถ้าศาลสั่งอย่างไร ศรส.จะดำเนินการตามนั้น อย่างไรก็ตาม ศรส.ขอขอบคุณศาลอาญาที่กรุณาสั่งไม่เพิกถอนหมายจับแกนนำ กปปส. 18 คน ประเภทหมาย ฉ. ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่ง ศรส.จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ต่อไป แม้การเข้าจับกุมจะทำได้ลำบากตามคำสั่งของศาลแพ่งก็ตาม” นายธาริตกล่าว

อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. มีหนังสือแจ้งปลัดกระทรวงทุกกระทรวงที่ถูก กปปส.ปิดล้อม บุกรุกสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐในการกำกับดูแล ให้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษหรือฟ้องคดีทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งกับแกนนำ กปปส. โดยต้องแยกดำเนินการเป็นต่างกรรมต่างวาระทุกครั้งที่มีการเข้าปิดล้อม และบุกรุกภายใน 7 วันหลังเกิดเหตุ ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาในฐานความผิดร่วมกันเป็นกบฏที่เป็นแกนนำ กปปส.บางคนในจำนวน 58 คนได้ไปก่อความเดือดร้อนและคุกคามบุคคลต่างๆ เช่น ไปห้อมล้อม คุกคาม เป่านกหวีด และพูดจาข่มขู่บุคคลต่างๆ ตามที่สาธารณะ เช่น ศูนย์การค้า เป็นการกระทำที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ศรส.จึงเห็นควรให้ดีเอสไอ ออกหมายเรียกผู้ต้องหาเหล่านี้มาดำเนินคดีในข้อหาหลัก คือ ข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการขอออกหมายจับเพื่อการจับกุมต่อไป

“ผู้ต้องหามีความผิดฐานเป็นกบฎอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไประรานบุคคลอื่นซึ่งถือว่ามีความผิด ผอ.ศรส.จึงสั่งการในที่ประชุมให้เร่งดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาเหล่านี้มาดำเนินคดี ส่วนผู้ที่ถูกคุกคามจะไปดำเนินคดีเองหรือไม่ก็เป็นสิทธิ โดยยอมรับว่ารวมถึงนายณัฏฐพล และนางทยา ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส.ที่เป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ที่ห้างสรรพสินค้าด้วย” นายธาริตกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น