เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (24ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุมศรส.ว่า ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ได้มีหนังสือถึงพนักงานอัยการ เพื่อให้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่งนั้น พนักงานอัยการที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ได้แจ้งว่า จะได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา พร้อมคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง ตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อยืนยันถึงอำนาจหน้าที่ และดุลยพินิจของฝ่ายบริหารในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจะได้นำเสนอข้อเท็จจริงทั้งหลายที่แกนนำกปปส.ได้ร่วมกันกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ติดต่อกันตลอดมาจนถึงเหตุการณ์และความเสียหายที่เป็นปัจจุบัน พร้อมพยานเอกสารหลักฐาน ที่เป็นภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า ปัจจุบันนี้ กปปส. มิได้ชุมนุมโดยสงบ เปิดเผย และปราศจากอาวุธ รวมถึงที่ศาลอาญา ได้ออกหมายจับข้อหากบฏต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกด้วย และเพื่อความรอบคอบ และสมบูรณ์ดังกล่าว พนักงานอัยการจะได้ยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายใน 2 –3วันนี้
นายธาริต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่ปรากฏอย่างต่อเนื่องมา หลังจากที่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษานั้น ศรส. มีความกังวลใจเป็นอย่างมาก และใคร่ขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ทั้งที่สนับสนุน กปปส. กลุ่มที่คัดค้าน กปปส. กลุ่ม นปช. และกลุ่มอื่นๆ ได้โปรด อดทน อดกลั้น อย่าได้ออกมาใช้ความรุนแรง เพราะมีแนวโน้มว่า สถานการณ์จะวิกฤติมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง ซึ่งจะเกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก และยากแก่การ แก้ไขเยียวยาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
สำหรับส่วนราชการ และหน่วยงานต่างๆ นั้น ศรส.ขอได้โปรดปฏิบัติหน้าที่ และภารกิจของตนโดยเคร่งครัด เฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ศรส.เองได้ปรับกำลังตำรวจให้ทำหน้าที่ดูแลและเฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆ ทั่วกทม. โดยเพิ่มอัตรากำลังอีกถึง 2,000 นาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ กปปส. ห้ามไม่ให้ตำรวจเข้าตรวจตรา ดูแล ในบริเวณการชุมนุม ซึ่งตำรวจจะได้พยายามทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง มีมติสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้มีถิ่นอยู่ในราชอาณาจักรของ นายสาธิต เซกัล นายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย และแกนนำ กปปส.นั้น ทาง ศรส. ได้รับทราบแล้ว มีความเห็นว่า ตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบกับคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ พิเศษ 1/2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์รักษาความสงบ ฉบับลงวันที่ 21 มกราคม 2557 อำนาจหน้าที่การสั่งเพิกถอน ดังกล่าว ได้โอนมาเป็นของ ผอ.ศรส.แล้ว ศรส.จึงจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยจะให้ ผอ.ศรส. ลงนามสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้ นายสาธิต มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการต้องกลับไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทย ในการแจ้งคำสั่ง ซึ่งการดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด ไม่สามารถตอบได้ว่า ใช้เวลากี่วัน
อธิบดีดีเอสไอ ยังกล่าวถึง กรณีที่ศาลอาญาไม่อนุมัติหมายจับแกนนำกปปส. รวม 13 คนนั้น ศรส.ประเมินว่า ศาลอาญาน่าจะเพิกถอน 19 หมายเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลเดียวกับคำพิพากษาศาลแพ่ง เห็นได้ว่า คำพิพากษาศาลแพ่ง ส่งผลในวงกว้างอย่างมาก ทั้งเรื่องการออกหมาย ฉ. และการจับกุม ทั้งนี้ ศรส. จะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน สิ่งที่ถูกต้องที่สุดคือ เราต้องอุทธรณ์ ถ้าไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลแพ่ง จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ เราต้องทำตามระบบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
นายธาริต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่ปรากฏอย่างต่อเนื่องมา หลังจากที่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษานั้น ศรส. มีความกังวลใจเป็นอย่างมาก และใคร่ขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ทั้งที่สนับสนุน กปปส. กลุ่มที่คัดค้าน กปปส. กลุ่ม นปช. และกลุ่มอื่นๆ ได้โปรด อดทน อดกลั้น อย่าได้ออกมาใช้ความรุนแรง เพราะมีแนวโน้มว่า สถานการณ์จะวิกฤติมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง ซึ่งจะเกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก และยากแก่การ แก้ไขเยียวยาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
สำหรับส่วนราชการ และหน่วยงานต่างๆ นั้น ศรส.ขอได้โปรดปฏิบัติหน้าที่ และภารกิจของตนโดยเคร่งครัด เฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ศรส.เองได้ปรับกำลังตำรวจให้ทำหน้าที่ดูแลและเฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆ ทั่วกทม. โดยเพิ่มอัตรากำลังอีกถึง 2,000 นาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ กปปส. ห้ามไม่ให้ตำรวจเข้าตรวจตรา ดูแล ในบริเวณการชุมนุม ซึ่งตำรวจจะได้พยายามทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง มีมติสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้มีถิ่นอยู่ในราชอาณาจักรของ นายสาธิต เซกัล นายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย และแกนนำ กปปส.นั้น ทาง ศรส. ได้รับทราบแล้ว มีความเห็นว่า ตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบกับคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ พิเศษ 1/2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์รักษาความสงบ ฉบับลงวันที่ 21 มกราคม 2557 อำนาจหน้าที่การสั่งเพิกถอน ดังกล่าว ได้โอนมาเป็นของ ผอ.ศรส.แล้ว ศรส.จึงจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยจะให้ ผอ.ศรส. ลงนามสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้ นายสาธิต มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการต้องกลับไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทย ในการแจ้งคำสั่ง ซึ่งการดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด ไม่สามารถตอบได้ว่า ใช้เวลากี่วัน
อธิบดีดีเอสไอ ยังกล่าวถึง กรณีที่ศาลอาญาไม่อนุมัติหมายจับแกนนำกปปส. รวม 13 คนนั้น ศรส.ประเมินว่า ศาลอาญาน่าจะเพิกถอน 19 หมายเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลเดียวกับคำพิพากษาศาลแพ่ง เห็นได้ว่า คำพิพากษาศาลแพ่ง ส่งผลในวงกว้างอย่างมาก ทั้งเรื่องการออกหมาย ฉ. และการจับกุม ทั้งนี้ ศรส. จะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน สิ่งที่ถูกต้องที่สุดคือ เราต้องอุทธรณ์ ถ้าไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลแพ่ง จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ เราต้องทำตามระบบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต