xs
xsm
sm
md
lg

ศรส.อุทธรณ์ศาลแพ่งไม่เกิน 3 วัน คาดศาลอาญาถอนหมายจับ หวั่นสงครามกลางเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(แฟ้มภาพ)
“ธาริต” เผยผลประชุม ศรส. อัยการรับผิดชอบอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง ยื่นแจงใน 3 วัน กปปส.ชุมนุมไม่สงบ แกนนำเจอข้อหากบฏ กังวลเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ขอกลุ่มหนุน-ไม่หนุน กปปส. อย่ารุนแรง คาดวิกฤตหนักส่อสงครามกลางเมือง พร้อมจัด ตร.ดูแลความสงบ เนรเทศ “สาธิต” เรื่องอยู่ที่ ผอ.ศรส.รอลงนาม ก่อนส่งต่อ ตม.-มท. ตอบไม่ได้กี่วัน เชื่อศาลอาญาถอนหมายจับตามศาลแพ่ง ลั่นต้องอุทธรณ์

วันนี้ (24 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศรส. แถลงผลการประชุม ศรส.ว่า ตามที่ ผอ.ศรส.ได้มีหนังสือถึงพนักงานอัยการเพื่อให้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่งนั้น พนักงานอัยการที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ได้แจ้งว่าจะได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา พร้อมคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาของศาลแพ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อยืนยันถึงอำนาจหน้าที่และดุลยพินิจของฝ่ายบริหารในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจะได้นำเสนอข้อเท็จจริงทั้งหลายที่แกนนำ กปปส.ได้ร่วมกันกระทำความผิดอย่างต่อเนื่องติดต่อกันตลอดมาจนถึงเหตุการณ์และความเสียหายที่เป็นปัจจุบัน พร้อมพยานเอกสารหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าปัจจุบันนี้ กปปส.มิได้ชุมนุมโดยสงบ เปิดเผย และปราศจากอาวุธ รวมถึงที่ศาลอาญาได้ออกหมายจับข้อหากบฏต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกด้วย และเพื่อความรอบคอบและสมบูรณ์ดังกล่าว พนักงานอัยการจะได้ยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายใน 2-3 วันนี้

นายธาริตกล่าวว่า จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่ปรากฏอย่างต่อเนื่องมาหลังจากที่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษานั้น ศรส.มีความกังวลใจเป็นอย่างมาก และใคร่ขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ทั้งที่สนับสนุน กปปส. กลุ่มที่คัดค้าน กปปส. กลุ่ม นปช. และกลุ่มอื่นๆ ได้โปรดอดทน อดกลั้น อย่าได้ออกมาใช้ความรุนแรง เพราะมีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะวิกฤติมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง ซึ่งจะเกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก และยากแก่การแก้ไขเยียวยาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม สำหรับส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ นั้น ศรส.ขอได้โปรดปฏิบัติหน้าที่และภารกิจของตนโดยเคร่งครัด เฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ศรส.เองได้ปรับกำลังตำรวจให้ทำหน้าที่ดูแลและเฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆ ทั่วกทม. โดยเพิ่มอัตรากำลังอีกถึง 2,000 นาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ กปปส.ห้ามไม่ให้ตำรวจเข้าตรวจตราดูแลในบริเวณการชุมนุม ซึ่งตำรวจจะได้พยายามทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด

อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองมีมติสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้มีถิ่นอยู่ในราชอาณาจักรของนายสาธิต เซกัล นายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย และแกนนำนั้น ศรส.ได้รับทราบแล้วมีความเห็นว่า ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบกับคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ พิเศษ 1/2557 เรื่องการจัดตั้งศูนย์รักษาความสงบ ฉบับลงวันที่ 21 มกราคม 57 อำนาจหน้าที่การสั่งเพิกถอนดังกล่าวได้โอนมาเป็นของ ผอ.ศรส.แล้ว ศรส.จึงจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยจะให้ ผอ.ศรส.ลงนามสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้นายสาธิตมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ กระบวนการต้องกลับไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทย ในการแจ้งคำสั่ง ซึ่งการดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด ไม่สามารถตอบได้ว่าใช้เวลากี่วัน

อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า กรณีที่ศาลอาญาไม่อนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส.รวม 13 คนนั้น ศรส.ประเมินว่าศาลอาญาน่าจะเพิกถอน 19 หมายเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลเดียวกับคำพิพากษาศาลแพ่ง เห็นได้ว่าคำพิพากษาศาลแพ่งส่งผลในวงกว้างอย่างมาก ทั้งเรื่องการออกหมาย ฉ. และการจับกุม ทั้งนี้ ศรส.จะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน สิ่งที่ถูกต้องที่สุดคือเราต้องอุทธรณ์ ถ้าไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลแพ่งจะหลายเป็นประวัติศาสตร์ เราต้องทำตามระบบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น