“ธาริต” เผย ศรส.มีมติเรียกผู้บริหารโรงแรมดุสิตธานี และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล สอบให้ที่พักพิง “สุเทพ” และแกนนำ กปปส. พร้อมดำเนินการตามกฎหมายหากชี้แจงไม่ได้ ขู่กลุ่มทุนที่ส่งท่อน้ำเลี้ยงต้องถูกเล่นงานด้วย ขณะเดียวกันเตรียมชุดผสมเคลื่อนที่เร็วเคลียร์หน่วยงานราชการที่ถูก กปปส.ปิดล้อม ย้ำเนรเทศ “สาธิต” แน่หลังดำเนินการตามกระบวนการ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ศรส.ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยาบำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส.เป็นประธาน ว่า ศรส.มีหนังสือเรียกผู้บริหารโรงแรมดุสิตธานี และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ มาพบในวันที่ 11 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น. โดยเปิดห้องภายในสโมสรตำรวจแห่งชาติ และเปิดให้สื่อมวลชนสามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์ได้ ทั้งนี้เพื่อซักถามเกี่ยวกับการให้ที่พักพิงแกนนำ กปปส.ที่กระทำความผิดจนศาลได้ออกหมายจับ หากชี้แจงไม่ได้จะพิจารณาดำเนินคดีฐานเป็นผู้ให้การสนับสนุนการกระทำผิดของแกนนำ โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.
ทั้งนี้ ศรส.ขอย้ำว่าให้กลุ่มทุนที่สนับสนุนในลักษณะท่อน้ำเลี้ยงหยุดการช่วยเหลือแกนนำกปปส.ทันที ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด หรือผู้ร่วมกระทำผิดทุกราย
ส่วนการเปิดสถานที่ราชการขณะนี้ ศรส.สามารถเปิดได้ถึง 36 แห่งแล้ว และกำลังทยอยเปิดเพิ่ม แต่แกนนำ กปปส.ยังพยายามส่งมวลชนมาปิดฃ้อมซ้ำอีก ศรส.จึงได้มอบแนวทางแก่ส่วนราชการว่าให้หลีกเลี่ยงการปะทะ หากกลุ่ม กปปส.มาปิดล้อมเพียงเชิงสัญลักษณ์ก็ให้หยุดการทำงานชั่วคราวแล้วค่อยกลับมาทำงานตามปกติ แต่หากปิดล้อมเกินกว่า 1 ชม. ศรส.จะจัดหน่วยผสมเคลื่อนที่เร็วเข้าไปผลักดันการปิดล้อมทันที แต่ไม่ใช่เป็นการกระทำในรูปแบบการสลายการชุมนุม
นอกจากนี้ ศรส.ยังคงเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อแกนนำ และแนวร่วมที่ร่วมกันกระทำผิดขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 ม.ค.และ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ขยายผลการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดทันที ซึ่งการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนร่วมในการขัดขวางการเลือกตั้ง ขณะนี้รับคดีไว้แล้ว 20 คดี เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
นายธาริตกล่าวว่า ส่วนกรณีเนรเทศนายสาธิต เซกัล แกนนำ กปปส. ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาของดีเอสไอ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแล้ว โดยเห็นควรให้นายสาธิต ออกนอกราชอาณาจักร จากนี้ไปจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน หากเห็นชอบตามข้อเสนอของทั้งสองหน่วยงาน จะนำเสนอให้ ผอ.ศรส.ลงนามคำสั่งให้ออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
ทั้งนี้ ตามปกติกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เปิดโอกาสให้อุทธรณ์ได้ แต่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่มีบทบัญญัติเช่นนั้น จึงต้องถือว่ายุติ ซึ่งคาดว่า ผอ.ศรส.จะออกคำสั่งให้นายสาธิตออกนอกราชอณาจักรได้ในเร็ววันนี้ ส่วนการผลักดันออกนอกประเทศเป็นวิธีปฎิบัติของตำรวจคนเข้าเมือง อย่างไรก็ตามการสั่งคนต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักรเคยดำเนินการมาแล้ว เมื่อครั้งการชุมนุมทางการเมืองปี 53 สมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี นายเดวิด โดเนอร์ ชาวออสเตรเลียขึ้นเวทีเสื้อแดง ก็ถูกให้ออกนอกราชอาณาจักรตามพ.ร.ก.ฉบับนี้เช่นกัน นอกจากนั้นยังถูกควบคุมตัวก่อนให้ออกนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา 89 วันด้วย
อย่างไรก็ตาม การจับกุมแกนนำ กปปส.ตามที่ศาลออกหมายจับให้แล้วจำนวนหนึ่งนั้น ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมอย่างแน่นอน แต่จะกระทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย