รองโฆษก พท. เย้ย กปปส.ยุบรวมเวทีเหตุผู้ชุมนุมน้อย มวลชนเบื่อ ท่อน้ำเลี้ยงตัน ต่างชาติกดดันให้เจรจา ขู่แฉประธาน กปปส.ตัวจริงที่สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายได้ทั่วประเทศ แถมสั่งให้ทำ 2 มาตรฐานได้ หนุนการเจรจาแต่ไม่ควรมีเงื่อนไขพูดคุยตัวต่อตัว และต้องออกทีวี โวเครือข่ายแดงปิดป.ป.ช.แค่หนังตัวอย่าง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศยุบรวมเวทีไปอยู่ที่สวนลุมพินี คืนถนนให้คนกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.เป็นต้นไป แต่ยังปิดสถานที่ราชการ มุ่งตัดท่อน้ำเลี้ยงตระกูลชินวัตร ว่า ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะเจ้าของม็อบตัวจริงไม่ได้หวังให้ม็อบนายสุเทพ จัดการอะไรรัฐบาล นอกจากสร้างอุปาทานหมู่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมคล้อยตามองค์กรอิสระ สร้างความเกลียดชังผ่านการใช้วาจาที่ยั่วยุ
ส่วนปัจจัยที่ นายสุเทพ ยอมยุบเวทีนั้นประกอบด้วย 4 เรื่อง คือ 1.มวลชนน้อย ร่อยหรอ แต่ละคืนมีมวลชนไม่ถึงร้อยคน ทำให้ถ่ายทอดสดลำบาก 2.ท่อน้ำเลี้ยงทยอยปิดก๊อก เพราะใช้ความรุนแรง 3.มวลชนเบื่อ อยู่นานเกินไป ไม่ยอมเลิก และไม่ชนะเสียที 4.เสียงคำรามจากต่างประเทศกดดันให้เกิดการเจรจา ทั้งนี้ การย้ายเวทีไปที่สวนลุมพินีนั้นเชื่อว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.คงจะดูแลอย่างดี น้ำท่า ข้าวปลาครบ
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ทหารออกมาระบุว่าจุดดังกล่าวอาจสุมเสี่ยงต่อการก่อเหตุทำร้ายแกนนำ กปปส.หรือลอบใช้อาวุธสงครามวิถีโค้ง เพราะบริเวณสวนลุมพินีรายล้อมไปด้วยตึกสูงนั้น ทหารไม่ต้องห่วง เพราะเจ้าของตึกสูงส่วนใหญ่ล้วนเป็นของพรรคพวกนายสุเทพ สำหรับการอ้างตัดท่อน้ำเลี้ยงตระกูลชินถือเป็นการหาลำไพ่พิเศษ สมคบคิดกันทั้งพระ ทั้งโยม วางแผนตบทรัพย์ข้ามชาติ เป็นความพยายามในการก่ออาชญากรรมทางการเมือง กลายเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
“ขณะนี้ประชาชนหลายคนเกิดความสงสัยว่าใครคือเจ้าของม็อบ กปปส .หรือประธาน กปปส.ตัวจริง จึงได้เขียนจดหมายมาถึงพรรคเพื่อไทย เพราะเราเห็นแต่เลขาธิการ กับโฆษก กปปส. แต่เราไม่เห็นประธาน กปปส.ตัวจริง ซึ่งประชาชนบางคนได้ส่งผังโครงสร้างบริหารงานของ กปปส.มา และระบุชัดเจนว่าใครคือ ประธาน กปปส.ตัวจริง ดังนั้น หากมีการนำเสนอข้อมูลแบบนี้มาเรื่อยๆ ก็คงต้องนำข้อมูลมาเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบว่าประธาน กปปส.คือใคร ทำไมจึงมีเครือข่ายเชื่อมโยงในประเทศมากขนาดนี้ และทำไมประธาน กปปส.ถึงเปิดทางให้มีกระบวนการสองมาตรฐานเพื่อทำลายกลุ่มการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอย่างชัดเจน”
ส่วนการตั้งเงื่อนไขการเจรจาของนายสุเทพ ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศ เพราะทุกความขัดแย้งที่ไหนในโลกก็จบลงที่การเจรจา แต่ไม่ควรเอาการชนะคะคาน โดยการสร้างเงื่อนไขรายวัน เช่น ต้องพูดคุยตัวต่อตัว ต้องถ่ายทอดสด เพราะบ้านเมืองเป็นของทุกคน และหลายคนคงไม่พอใจต่อการกระทำของนายสุเทพ ดังนั้น นายสุเทพ ควรเข้าสู่การพูดคุยโดยเร็ว ตามกรอบกติกาประชาธิปไตย
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(กวป.) และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นนทบุรี ปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น เป็นภาพสะท้อนที่มาก่อนเวลา เป็นหนังตัวอย่างถ้านายสุเทพ ปล้นอำนาจรัฐได้รัฎฐาธิปัตย์สำเร็จ จะมีสุเทพ 2, 3, 4 ตามมาเป็นจำนวนมาก โดยมียุทธวิธีเลียนแบบ ที่มาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ กปปส.เคยทำแล้ว ศาลเห็นว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบ เมื่อ กปปส.ทำได้ กวป.ก็น่าจะทำได้ เพราะถ้า กวป.ทำแล้ว กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หรือไม่สงบย่อมหมายความว่าประเทศนี้มีสองมาตรฐาน จึงอยากถามกลุ่มคนที่สนับสนุน กปปส.คนที่อยู่เบื้องหลังม็อบสุเทพ รับวิธีนี้ได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จะมีโมเดลสุเทพตามมาอีกหลายรูปแบบ
