xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ศึกษารูปแบบขายหุ้นบางจากลดการผูกขาดโรงกลั่นเหลือ30%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.เร่งศึกษารูปแบบเหมาะสมในการขายหุ้นโรงกลั่นบางจากทั้งขายให้พันธมิตรหรือตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐด้วย เผยหากลดการถือหุ้นในโรงกลั่นSPRC-บางจาก ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นโรงกลั่นลดลงเหลือ 30% “

นายสรัญ รังคศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มปิโตเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.มีนโยบายที่จะลดบทบาทการถือครองหุ้นในโรงกลั่นน้ำมันอยู่แล้วทั้งโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก โดยเคยมีการพูดคุยภาพรวมไว้แล้วกับกระทรวงพลังงานและขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจากที่เหมาะสมว่าจะเป็นการขายหุ้นหมดที่ปตท.ถืออยู่ให้กับพันธมิตร (Strategic Partner) หรือทยอยขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะเร่งศึกษาให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ส่วนโรงกลั่นSPRCจะขายหุ้นทั้งหมด 36%ในช่วงเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ การขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันเป็นเรื่องเชิงนโยบายที่รัฐต้องมีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะให้ปตท.ดำเนินการอย่างไร โดยยอมรับว่า การถือหุ้นในโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 5 แห่งคิดเป็นสัดส่วน 38%ของกำลังการกลั่นทั้งประเทศ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันของปตท.ในปัจจุบัน

หากปตท.ลดบทบาทการถือหุ้นในโรงกลั่นน้ำมันบางจากและโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ฯจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นโรงกลั่นลดลงเหลือ 30% ทำให้ไม่บาลานซ์กับส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในประเทศ แต่ทั้งนี้ก็คงเจรจาซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากตลาดเชิงพาณิชย์แทน ซึ่งปัจจุบันก็มีการทำอยู่บ้าง

“ การเข้าไปถือหุ้นโรงกลั่นน้ำมันของปตท.ทั้ง 5 โรงนั้น ต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่งการเข้าไปถือหุ้นนั้นเพื่อเป็นไปตามนโยบายรัฐ ไม่ใช่ปตท.ต้องการเข้าไปผูกขาดตลาดธุรกิจการกลั่นน้ำมัน หากจะขายหุ้นออกไปก็คงต้องดูสภาพเศรษฐกิจและตลาดหุ้นว่ามีความพร้อมขนาดไหน ”

ก่อนหน้านี้ ปตท.ชี้แจงว่าการเข้าไปถือหุ้นโรงกลั่นน้ำมันระยอง (ควบรวมเป็นPTTGC) ในปี 2540 จากเชลล์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนั้นกำลังประสบปัญหาขาดทุนสะสมและขาดสภาพคล่อง ที่ตัดสินใจเลิกประกอบธุรกิจโรงกลั่นในไทย รัฐบาลจึงให้ปตท.เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดจากเชลล์

ส่วนโรงกลั่นไออาร์พีซีนั้นรัฐให้ปตท.เข้าไปถือหุ้นเพื่อไม่ให้ต้องล้มละลายหรือตกเป็นของต่างชาติ เช่นเดียวกับโรงกลั่นบางจากที่กำลังประสบปัญหาหนี้เช่นกัน และโรงกลั่นSPRC รัฐให้ปตท.ถือหุ้นด้วยเพื่อดูแลการกลั่นน้ำมันสนองความต้องการของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐระยะยาว เป็นต้น

นายสรัญ กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมตลาดน้ำมันในช่วง 4-5 เดือนนี้พบว่ายอดขายน้ำมันปตท.ลดลงต่ำกว่าแผนที่วางไว้ 1-2 %จากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว โดยยอดขายน้ำมันในกรุงเทพฯลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ต่างจังหวัดมีการใช้น้ำมันเติบโตขึ้น โดยยอมรับการประกาศห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืน (เคอร์ฟิว) เวลา 20.00-05.00 น.ทำให้ปั๊มน้ำมันต้องปิดให้บริการเร็วขึ้น ส่งผลให้ยอดขายน้ำมันปรับลดลงบ้างเล็กน้อย แต่ประชาชนยังต้องใช้น้ำมันในการเดินทางและขนส่งสินค้าเชื่อว่ากระทบคงกระทบไม่มาก และคาดครึ่งปีหลังยอดใช้น้ำมันจะกลับสู่ปกติ
เมื่อเร็วๆนี้ ปตท. เปิดตัว สถานีบริการน้ำมันครบวงจร PTT Greenergy Station และ Jiffy Plus Supermarket ซูเปอร์มาร์เก็ตเต็มรูปแบบแห่งแรก พร้อมศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น PTT FIT Auto แบบครบวงจรที่ทันสมัยและมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ตามมาตรฐานของ ปตท. ในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์The Crystal PTT ถนนชัยพฤกษ์ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท และมีแผนจะขยายการลงทุนในรุปแบบนี้อีกหลายแห่ง
โครงการคอมมูนิตี้มอลล์The Crystal PTTถนนชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ปตท. โดย บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด (PTTRM) กับบริษัท เค.อี.แลนด์ นับเป็นโครงการ Community Mall ที่สมบูรณ์แบบ เป็น One Stop Service สำหรับลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี ด้วยร้านค้าที่หลากหลายในโครงการ ประกอบกับการเปิดตัวสถานีบริการน้ำมันภายใต้แนวคิด “The Greenergy Station”
ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อลดมลภาวะและเป็นโครงการนำร่องในการใช้พลังงานทดแทนที่สะอาดและยั่งยืน โดยได้มีการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ บริเวณบนหลังคาเกาะจ่ายน้ำมันรวมถึงหน้าร้านจิฟฟี่ สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใช้เอง ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึงปีละ 2.85 แสนบาท และยังมีสถานีประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Station - EV) เตรียมพร้อมให้บริการชาร์จพลังงานให้กับรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานขับเคลื่อนอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น