ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ประกอบการอสังหาฯ เชื่อกฎอัยการศึกช่วยระงับความรุนแรง - รักษาความสงบ หนทางยุติปัญหาการเมือง ส่วนภาคอสังหาฯชะลอตัดสินใจ รอความชัดเจนก่อนเดินหน้าหรือหยุด ด้านนายกส.ไทยรับสร้างบ้านมองต่าง กฎอัยการศึกไม่ต่างการปฏิวัติ หวั่นปัญหาความรุนแรงทุบท่องเที่ยว-ส่งออก กดเศรษฐกิจทรุดหนัก เผยมองแง่ดีกฎอัยการศึกช่วยลดความร้อนแรงตลาด ธุรกิจยังเดินหน้าต่อไม่ปรับแผน ทั้ง แม็คโคร แมคโดนัลด์ เดอะมอลล์
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึกของกองทัพ ว่า มีความชัดเจนในด้านการป้องกัน และรักษาความสงบ ส่งผลดีกว่าการทำปฏิวัติรัฐประหาร ที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่า ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก คือปัญหาการลอบทำร้าย จากกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีต่อผู้ชุมนุมทั้ง2ฝ่าย ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และร่างกายผู้ร่วมชุมนุม
ดังนั้น การประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้ เป็นการช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุมหากมีการปะทะเกิดขึ้น
**รอประเมินผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ
สำหรับ ผลกระทบที่อาจจะเกิดกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ โดยส่วนตัวแล้วยังไม่สามารถประมาณการได้ เนื่องจากทิศทางการดำเนินการของรัฐบาล และวุฒิสภา ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ในด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุนนั้น เชื่อว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ในส่วนของกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยนั้นอาจจะชะงักหรือชะลอดูสถานการณ์ออกไป
" ในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการนั้น เชื่อว่าทุกรายจะชะลอการตัดสินใจลงทุนและจับตาดูสถานการณ์ทางการเมื่อว่าจะมีทิศทางไปในทางใด ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วจะรอดูว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มผู้บริโภคที่เชื่อว่าจะชะลอดูสถานการณ์ออกไป ซึ่งหากการประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างรายได้ และไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศมากก็เชื่อว่าในระยะเวลาไม่นานวามเชื่อมั่นจะกลับมา"
***นายกส.อาคารชุดเชื่อแนวโน้มจบได้เร็วขึ้น
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเชื่อว่าแนวโน้มปัญหาการเมืองจะสามารถจบได้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมามวลชนทั้งสองฝ่าย คือ กปปส. และ นปช. ต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ละฝ่ายไม่สามารถปรานีปรานอมกันได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง
“เมื่อการเมืองไม่สามารถจบได้เร็วได้ ไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจในการบริหารประเทศ ยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมเป็นวงกว้าง ไม่เฉพาะภาคการท่องเที่ยว แต่ตอนนี้กระทบกับทุกภาคธุรกิจ กระทบภาคอสังหาฯ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ขึ้น-ลงตัวตามจีดีพีของเทศ"
ด้านนายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THBA) กล่าวว่า แม้การประกาศใช้กฏอัยการศึกในครั้งนี้จะช่วยป้องกันปัญหาความรุนแรงได้ แต่ก็ส่งผลกระทบที่รุนแรงในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งมองว่าการประกาศกฎอัยการศึก นั้นไม่ต่างไปจากการปฏิวัติในประเทศไทยหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติเงียบนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ เหตุการณ์รุนแรงหลังจากนี้ หากเกิดความรุนแรงขึ้นจะส่งผลด้านลบอย่างมากต่อประเทศ และการลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว และ การส่งออก
“การใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้เชื่อว่า จะช่วยลดทอนบรรยากาศของความรุนแรง หรือระงับความรุนแรงที่คาดว่าจะจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ต่างชาตินั้นมองผลกระทบการประกาศกฎอัยการศึกเทียบเท่าการปฏิวัติ ดังนั้นแน่นอนว่าผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่างชาตินั้นมีอยู่สูง ส่วนผลกระทบต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศนั้นยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในสถานการณ์ จึงต้องรอดูกาตัดสินใจของลูกค้าในช่วง2-3วันจากนี้ก่อน โดยหากในช่วงนี้มีการชะลอการตัดสินใจเซ็นสัญญาสร้างบ้านก็แน่นอนว่าการประกาศกฎอัยการศึกมีผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อแน่นอน แต่หากลูกค้ายังตัดสินใจสร้างบ้านต่อก็จะสะท้อนว่าผลจากกฎอัยการศึกไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นลูกค้า”
****ลดความร้อนแรงภาคอสังหาฯ
อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ดี ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการชะลอความร้อนแรงของการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง และ อสังหาฯ ได้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงปีก่อนหน้านั้นความร้อนแรงของตลาดอสังหาฯและตลาดก่อสร้างส่งผลให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาฯอย่าหนัก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันของห้างค้าวัสดุก่อสร้างที่มีการเปิดตัวในต่างจังหวัดอย่างมาก จนส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กประสบปัญหาการแข่งขั้นสู่รายใหญ่ที่เข้ามาในตลาดท้องถิ่นไม่ได้
*** แม็คโครลงทุนต่อเนื่อง
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนงานเดิมที่วางไว้ ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนหลังจากมีการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวานนี้ โดยปีนี้ยังคงลงทุนด้วยงบ 5,000 ล้านบาท ขยายอีก 10 สาขา ในทุกโมเดลรวมกัน แล้วแต่ความเหมาะสม ขณะที่ปีที่แล้วใช้งบลงทุน 5,000 ล้านบาท
ปีนี้เปิดแล้ว 3 สาขาคือ บึงกาฬ เกาะพะงันและพัทยาเหนือ ส่วนเดือนมิถุนายนจะเปิดที่อำเภอแม่สาย และสิงหาคมเปิดที่ศาลายา เป็นแบบไซส์ใหญ่
ซึ่งเรามีหลายโมเดลคือ 1.แบบคลาสสิค พื้นที่เฉลี่ย 5,000 – 13,000 ตารางเมตร 2.แบบฟู้ดเซอร์วิส อีโคพลัส 7,000 ตารางเมตร 3. แบบฟู้ดเซอร์วิสสโตร์ 5,000 ตารางเมตร 4.โฟรเซ่นส์ชอป เป็นตึกแถว2คูหา มี 5 สาขาคือที่เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา ศรีราชาและทุ่งสง
ส่วนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีปี2558 ยังศึกษาอยู่ ไม่ได้รีบร้อนอะไร โดยสนใจประเทศใกล้เคียงกลุ่ม ซีแอลเอ็มวี ล่าสุดเริ่มเดือนนี้ได้ส่งสินค้าเฮาส์แบรนด์ตรา เอโร่ เข้าไปจำหน่ายที่เมียนมาร์แล้ว ส่วนผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้เติบโต 12.5%
** แมคโนัลด์ไม่ปรับแผนเน้นเมนูถูก
นางสาวเพชรัตน์อุทัยสางผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ ให้ความเห็นว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบเสียหายอะไรมากนัก เพราะทุกอย่างก็ยังคงดำเนินธุรกิจไปได้ตามปรกติ ซึ่งในอดีตหากมองย้อนกลับไป ประเทศไทยของเราก็ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ส่วนธุรกิจของแมคโดนัลด์ก็คงไม่ต้องปรับอะไรมากนัก สาขาใดที่เปิด 24
ชั่วโมงก็เปิดตามนั้น เราเองก็เตรียมพร้อมเหมือนกัน
ส่วนจากนี้จะปรับแผนการตลาดหรือไม่ ก็คงไม่ปรับ แต่จะเน้นกลยุทธ์ แวลูแคมเปญมากขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายผู้บริโภค เช่น ของหวาน 9 บาท ชุดข้าวกะเพราไก่บวกโค้ก 69 บาท เป็นต้น อีกทั้งเรามีการขายถึง 6 ช่วงเวลา เพื่อเข้าถึงแต่ละมื้อ ขณะนี้การใช้จ่ายอยู่เฉลี่ย 100 กว่าบาทต่อบิลต่อคน ส่งผลให้ 4 เดือนแรกยังเติบโตสองหลัก มีลูกค้าเข้าร้านรวมกันประมาณ 8 ล้านคนต่อเดือน ล่าสุดร่วมมือกับทางเอไอเอสเพื่อเปิดให้บริการเอไอเอสไวไฟฟรีที่ร้านแมคโดนัลด์รวม 179 สาขาที่ร่วมรายการนาน45 นาที เมื่อซื้อสินค้าในร้านไม่จำกัดมูลค่า
นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด กล่าวให้ความเห็นด้วยว่า ธุรกิจหรบนรรพสินค้ของเราก็ยังเปิดบริกรปรกติ ไม่มีอะไรเกิดขัน รวมถึงล่าสุดยังได้เปิดตัวโฉมใหม่ของธุรกิจออนไลน์คือ Mshop ด้วย เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึกของกองทัพ ว่า มีความชัดเจนในด้านการป้องกัน และรักษาความสงบ ส่งผลดีกว่าการทำปฏิวัติรัฐประหาร ที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่า ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก คือปัญหาการลอบทำร้าย จากกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีต่อผู้ชุมนุมทั้ง2ฝ่าย ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และร่างกายผู้ร่วมชุมนุม
ดังนั้น การประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้ เป็นการช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุมหากมีการปะทะเกิดขึ้น
**รอประเมินผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ
สำหรับ ผลกระทบที่อาจจะเกิดกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ โดยส่วนตัวแล้วยังไม่สามารถประมาณการได้ เนื่องจากทิศทางการดำเนินการของรัฐบาล และวุฒิสภา ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ในด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุนนั้น เชื่อว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ในส่วนของกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยนั้นอาจจะชะงักหรือชะลอดูสถานการณ์ออกไป
" ในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการนั้น เชื่อว่าทุกรายจะชะลอการตัดสินใจลงทุนและจับตาดูสถานการณ์ทางการเมื่อว่าจะมีทิศทางไปในทางใด ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วจะรอดูว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มผู้บริโภคที่เชื่อว่าจะชะลอดูสถานการณ์ออกไป ซึ่งหากการประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างรายได้ และไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศมากก็เชื่อว่าในระยะเวลาไม่นานวามเชื่อมั่นจะกลับมา"
***นายกส.อาคารชุดเชื่อแนวโน้มจบได้เร็วขึ้น
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเชื่อว่าแนวโน้มปัญหาการเมืองจะสามารถจบได้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมามวลชนทั้งสองฝ่าย คือ กปปส. และ นปช. ต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ละฝ่ายไม่สามารถปรานีปรานอมกันได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง
“เมื่อการเมืองไม่สามารถจบได้เร็วได้ ไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจในการบริหารประเทศ ยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมเป็นวงกว้าง ไม่เฉพาะภาคการท่องเที่ยว แต่ตอนนี้กระทบกับทุกภาคธุรกิจ กระทบภาคอสังหาฯ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ขึ้น-ลงตัวตามจีดีพีของเทศ"
ด้านนายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THBA) กล่าวว่า แม้การประกาศใช้กฏอัยการศึกในครั้งนี้จะช่วยป้องกันปัญหาความรุนแรงได้ แต่ก็ส่งผลกระทบที่รุนแรงในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งมองว่าการประกาศกฎอัยการศึก นั้นไม่ต่างไปจากการปฏิวัติในประเทศไทยหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติเงียบนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ เหตุการณ์รุนแรงหลังจากนี้ หากเกิดความรุนแรงขึ้นจะส่งผลด้านลบอย่างมากต่อประเทศ และการลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว และ การส่งออก
“การใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้เชื่อว่า จะช่วยลดทอนบรรยากาศของความรุนแรง หรือระงับความรุนแรงที่คาดว่าจะจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ต่างชาตินั้นมองผลกระทบการประกาศกฎอัยการศึกเทียบเท่าการปฏิวัติ ดังนั้นแน่นอนว่าผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่างชาตินั้นมีอยู่สูง ส่วนผลกระทบต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศนั้นยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในสถานการณ์ จึงต้องรอดูกาตัดสินใจของลูกค้าในช่วง2-3วันจากนี้ก่อน โดยหากในช่วงนี้มีการชะลอการตัดสินใจเซ็นสัญญาสร้างบ้านก็แน่นอนว่าการประกาศกฎอัยการศึกมีผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อแน่นอน แต่หากลูกค้ายังตัดสินใจสร้างบ้านต่อก็จะสะท้อนว่าผลจากกฎอัยการศึกไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นลูกค้า”
****ลดความร้อนแรงภาคอสังหาฯ
อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ดี ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการชะลอความร้อนแรงของการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง และ อสังหาฯ ได้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงปีก่อนหน้านั้นความร้อนแรงของตลาดอสังหาฯและตลาดก่อสร้างส่งผลให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาฯอย่าหนัก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันของห้างค้าวัสดุก่อสร้างที่มีการเปิดตัวในต่างจังหวัดอย่างมาก จนส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กประสบปัญหาการแข่งขั้นสู่รายใหญ่ที่เข้ามาในตลาดท้องถิ่นไม่ได้
*** แม็คโครลงทุนต่อเนื่อง
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนงานเดิมที่วางไว้ ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนหลังจากมีการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวานนี้ โดยปีนี้ยังคงลงทุนด้วยงบ 5,000 ล้านบาท ขยายอีก 10 สาขา ในทุกโมเดลรวมกัน แล้วแต่ความเหมาะสม ขณะที่ปีที่แล้วใช้งบลงทุน 5,000 ล้านบาท
ปีนี้เปิดแล้ว 3 สาขาคือ บึงกาฬ เกาะพะงันและพัทยาเหนือ ส่วนเดือนมิถุนายนจะเปิดที่อำเภอแม่สาย และสิงหาคมเปิดที่ศาลายา เป็นแบบไซส์ใหญ่
ซึ่งเรามีหลายโมเดลคือ 1.แบบคลาสสิค พื้นที่เฉลี่ย 5,000 – 13,000 ตารางเมตร 2.แบบฟู้ดเซอร์วิส อีโคพลัส 7,000 ตารางเมตร 3. แบบฟู้ดเซอร์วิสสโตร์ 5,000 ตารางเมตร 4.โฟรเซ่นส์ชอป เป็นตึกแถว2คูหา มี 5 สาขาคือที่เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา ศรีราชาและทุ่งสง
ส่วนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีปี2558 ยังศึกษาอยู่ ไม่ได้รีบร้อนอะไร โดยสนใจประเทศใกล้เคียงกลุ่ม ซีแอลเอ็มวี ล่าสุดเริ่มเดือนนี้ได้ส่งสินค้าเฮาส์แบรนด์ตรา เอโร่ เข้าไปจำหน่ายที่เมียนมาร์แล้ว ส่วนผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้เติบโต 12.5%
** แมคโนัลด์ไม่ปรับแผนเน้นเมนูถูก
นางสาวเพชรัตน์อุทัยสางผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ ให้ความเห็นว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบเสียหายอะไรมากนัก เพราะทุกอย่างก็ยังคงดำเนินธุรกิจไปได้ตามปรกติ ซึ่งในอดีตหากมองย้อนกลับไป ประเทศไทยของเราก็ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ส่วนธุรกิจของแมคโดนัลด์ก็คงไม่ต้องปรับอะไรมากนัก สาขาใดที่เปิด 24
ชั่วโมงก็เปิดตามนั้น เราเองก็เตรียมพร้อมเหมือนกัน
ส่วนจากนี้จะปรับแผนการตลาดหรือไม่ ก็คงไม่ปรับ แต่จะเน้นกลยุทธ์ แวลูแคมเปญมากขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายผู้บริโภค เช่น ของหวาน 9 บาท ชุดข้าวกะเพราไก่บวกโค้ก 69 บาท เป็นต้น อีกทั้งเรามีการขายถึง 6 ช่วงเวลา เพื่อเข้าถึงแต่ละมื้อ ขณะนี้การใช้จ่ายอยู่เฉลี่ย 100 กว่าบาทต่อบิลต่อคน ส่งผลให้ 4 เดือนแรกยังเติบโตสองหลัก มีลูกค้าเข้าร้านรวมกันประมาณ 8 ล้านคนต่อเดือน ล่าสุดร่วมมือกับทางเอไอเอสเพื่อเปิดให้บริการเอไอเอสไวไฟฟรีที่ร้านแมคโดนัลด์รวม 179 สาขาที่ร่วมรายการนาน45 นาที เมื่อซื้อสินค้าในร้านไม่จำกัดมูลค่า
นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด กล่าวให้ความเห็นด้วยว่า ธุรกิจหรบนรรพสินค้ของเราก็ยังเปิดบริกรปรกติ ไม่มีอะไรเกิดขัน รวมถึงล่าสุดยังได้เปิดตัวโฉมใหม่ของธุรกิจออนไลน์คือ Mshop ด้วย เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้
