ASTVผู้จัดการรายวัน - แฉพระเล่นเครื่องเล่นสวนสนุกที่อเมริกา ล้วนเป็นพระผู้ใหญ่ชื่อดัง โยมอุปัฎฐากวัดไทยที่มีปัญหาการเงิน นิมนต์พระเทพวรสิทธาจารย์ไปช่วยอุ้ม แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดสาขา แต่ข้องใจค่าใช้จ่าย อยากให้ทางวัดเปิดเผยบัญชี ด้านประชาสัมพันธ์วัดพระธาตุดอยสุเทพ แจงของจริง ถ่ายไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ระหว่างได้รับนิมนต์ไปวางศิลาฤกษ์อุโบสถเมื่อ 2 ปีก่อน ขอให้คิดว่าเหมือนนั่งรถไฟ-รถราง-ขึ้นบันไดเลื่อน-ลิฟท์ เชื่อเพราะกระแสการเมืองเลยถูกเล่นงานอ่วม
จากที่มีการส่งต่อภาพทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นภาพถ่ายพระสงฆ์คณะหนึ่ง เล่นเครื่องเล่น Revenge of the Mummy ผจญภัยในอุโมงค์แบบภาพยนตร์ดังของค่ายยูนิเวอร์แซล ระบุวันที่ถ่ายวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2012 หรือ พ.ศ. 2555 สาขาฮอลลีวูด มลรัฐแคลิฟอเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ที่ได้เห็นภาพยืนยันว่า พระรูปที่นั่งแถวหน้าสุดคนกลางละม้ายกับพระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จ.เชียงใหม่ ซึ่งเพิ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดพิธีสืบชะตาให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เช่น เป็นที่อโคจร หรือนั่งข้างโยมสีกาด้วย
เมื่อตรวจสอบจากเฟซบุ๊กวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ข้อความประวัติของวัดพระธาตุดอยสุเทพ USA เมืองชิโนฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขียนว่า วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2555 มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอุโบสถ โดยพระเทพวรสิทธาจารย์ เป็นประธานอำนวยการอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า ช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2555 พระเทพวรสิทธาจารย์ เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาจริง
วานนี้ (19 พ.ค.) แหล่งข่าวในวงการสงฆ์ได้ติดต่อแจ้งข่าวสารว่าพระสงฆ์ที่ปรากฏในภาพ ล้วนแต่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ชื่อดัง โดยซ้ายมือแถวหน้า คือ พระมหานรินทร์ นรินฺโท เจ้าของเว็บไซต์ศาสนาพุทธชื่อดัง “a little Buddha” ปัจจุบันอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนแถวหลังซ้ายสุด คือ พระมหาดวงจันทร์ คุตฺตสีโล เจ้าอาวาสวัดพันแหวน และผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยวิทยาเขตเชียงใหม่
ด้านขวาแถวหลัง คือ พระครูอดุลสีลกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดธาตุคำ และเจ้าคณะตำบลหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ส่วนพระหนุ่มแถวหน้าอีกรูปเป็นเลขานุการผู้ติดตามรองเจ้าคณะภาค 7 ซึ่งล้วนแต่บวชเรียนมานาน มีตำแหน่งและคุณวุฒิ ซึ่งถ้าเป็นพระใหม่หรือพระหนุ่มไม่รู้กาลเทศะ ก็อาจจะพอเข้าใจได้ แต่นี่เป็นระดับปกครอง น่าจะรู้ว่าที่ใดเป็นอโคจร
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า คณะสงฆ์จากเชียงใหม่ที่ติดตามเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ไปสหรัฐอเมริกา จะได้รับจดหมายรับรองเพื่อเป็นหลักฐานเพื่อไปประกอบพิธีที่วัดพุทธิชิโนฮิลส์ เมืองชิโนฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีคนไทยนับถือมาก แต่ประสบปัญหาการเงิน เพราะต้องผ่อนชำระค่าซื้อที่ดินจำนวนมาก จึงมีการประสานกันระหว่างสงฆ์ เพื่อขอให้ทางวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ช่วยชำระหนี้สินและก่อสร้างอุโบสถใหม่ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดพระธาตุดอยสุเทพ USA อาจเรียกได้ว่าเป็นการขยายสาขาของวัดโดยเทกโอเวอร์ เพราะต่อมามีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสให้เป็นพระวินัยธรประจำตำแหน่งรองเจ้าคณะภาคด้วย
"รายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อุดหนุนสาขาสหรัฐอเมริกา ยังเป็นความลับ จึงอยากจะเปิดเผยบัญชีส่วนนี้ให้สาธุชนทราบด้วย"แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเว็บไซต์ของวัดพระธาตุดอยสุเทพ USA ที่ www.watchinohills.org พบข้อความว่า วัดพุทธิชิโนฮิลส์ เกิดจากความคิดของพระอาจารย์สมบัติ ญาณวโร จึงได้ปรึกษาคณะกรรมการทุกฝ่าย มีมติเป็นเอกฉันท์ซื้อที่ดินสร้างวัดแห่งใหม่ และได้พบสถานที่แห่งหนึ่งเป็นโบสถ์ฝรั่ง เนื้อที่ 7.5 เอเคอร์ หรือประมาณ 18ไร่ ราคา 1,600,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48 ล้านบาท)
โดยได้ตกลงซื้อเมื่อวันที่ 18 เดือนเมษายน 2539 ผ่อนชำระเป็นเวลา 5 ปี ปีแรกผ่อนชำระเดือนละ 24,000 ดอลลาร์สหรัฐ ปีต่อมาเดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่อมาไม่สามารถผ่อนชำระได้ กระทั่งเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เชียงใหม่ เข้าร่วมแบกภาระ และเปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดสาขาเมื่อเดือนมิถุนายน 2555
นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และเลขาธิการมูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ ชี้แจงว่า ได้พูดคุยกับพระเทพวรสิทธาจารย์ ซึ่งยอมรับว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพจริง ถูกถ่ายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ช่วงไปวางศิลาฤกษ์อุโบสถ และพระธาตุดอยสุเทพจำลอง ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ USA วันที่ 23-24 มิถุนายน 2555 และญาติโยมนิมนต์ไปเที่ยวชมโรงถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ซึ่งเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ ที่ผู้คนที่ได้เดินทางไปที่เมืองดังกล่าวควรต้องแวะไปเที่ยวชม
เมื่อถามถึงความเหมาะสม นายวัลลภ ตอบว่า ไม่ได้ผิดวินัยสงฆ์ เพราะเป็นสถานที่สาธารณะ ไม่ใช่การเข้าไปเที่ยวสวนสนุกที่ถือเป็นสถานที่อโคจร และเป็นการไปเที่ยวชมเพื่อการเรียนรู้ และแม้ว่าจะเป็นสวนสนุกจริง ก็ยังไม่สามารถตัดสินได้ทันทีว่าผิดวินัยสงฆ์ เพราะต้องขึ้นอยู่กับเจตนา สำหรับภาพที่เผยแพร่ออกไป ทราบว่าต้นตอมาจากพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ร่วมคณะ นำไปให้คนใกล้ชิดดูผ่านโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งมีการเผยแพร่ต่อ
"การที่พระสงฆ์นั่งเครื่องเล่นหลายคนอาจจะมองไม่ดี แต่อยากให้คิดว่าก็เหมือนกับการที่พระสงฆ์นั่งรถไฟ รถราง ขึ้นบันไดเลื่อน ขึ้นลิฟท์ ซึ่งไม่ต่างกัน ที่สำคัญไม่ได้ข้องแวะกับสีกาหรือปฏิบัติตนไม่ดี"
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพระเทพวรสิทธาจารย์ถูกโจมตีเรื่องสร้างจุดชมวิวที่สูงเทียบเท่าองค์พระธาตุดอยสุเทพ และการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายวัลลภ ตอบว่า ทางวัดได้รับการประสานจากนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ว่าต้องการทำพิธีสืบชะตาและสะเดาะเคราะห์ และได้เชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์มาร่วมด้วย ซึ่งทางวัดก็ได้ทำตามที่ขอมา แต่อาจจะเป็นเพราะยังมีกระแสต่อต้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงมีการขุดคุ้ยเรื่องต่างๆมาโจมตี
ส่วนการสร้างจุดชมวิวได้ปรับโครงสร้างให้ต่ำกว่าองค์พระธาตุแล้ว โดยปรับแก้ในส่วนของหลังคา จากเดิมที่ทำเป็น 3 ชั้น สูงประมาณ 10 เมตร จะรื้อถอนชั้นตรงกลางออกประมาณ 4 เมตร จะไม่บดบังองค์พระธาตุอย่างที่เป็นห่วงกัน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนสีหลังคาจากสีทองเป็นสีเทาเพื่อให้ดูกลมกลืน และไม่ดูโดดเด่นกว่าองค์พระธาตุ ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร
ด้านนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไร เพราะไม่ได้เป็นการทำความผิด และไม่ได้ผิดวินัยสงฆ์ เพียงแต่อาจจะเข้าข่ายโลกติเตียนเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อย นอกจากนี้การเข้าไปเล่นเครื่องเล่น ก็เป็นไปตามที่ญาติโยมนิมนต์และซื้อตั๋วให้ ไม่ได้เป็นการเข้าไปด้วยตัวเอง
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากพศจ.เชียงใหม่ ว่าภาพดังกล่าวลูกศิษย์พระเทพวรสิทธาจารย์ ขอร้องให้ขึ้นไปนั่งบนเครื่องเล่นเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ก็ไม่ได้เล่นเครื่องเล่น ซึ่งพศจ.แจ้งให้พระเทพวรสิทธาจารย์ทราบแล้ว ว่าไม่เหมาะสม เข้าข่ายโลกวัชชะ อาจถูกโลกติเตียนได้ และอยากฝากเตือนพระสงฆ์ สามเณรระมัดระวังพฤติกรรมและการกระทำ เพราะบางเรื่องแม้ไม่ได้เจตนา แต่อาจจะถูกมองว่าไม่เหมาะสมได้
ข่าวแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อพระเทพวรสิทธาจารย์ เพื่อขอให้ชี้แจงด้วยตัวเอง แต่คนใกล้ชิดอ้างว่าติดกิจนิมนต์
ขณะที่การตรวจสอบทางเว็บไซต์ http://www.universalstudioshollywood.com ซึ่งเป็นที่มาของภาพดังกล่าว พบว่าเป็นสวนสนุกที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมากของนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหาร ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการก่อสร้างอาคารหอชมวิว รูปร่างคล้ายองค์เจดีย์ว่า ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะเมื่อมองจากตัวเมืองเชียงใหม่ จะเห็นเหมือนมีพระธาตุ 2 องค์ จากที่เคยเห็นแต่องค์พระธาตุดอยสุเทพ ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าองค์เดียว ชาวเชียงใหม่จำนวนมากจึงเรียกร้องให้ทบทวน.
จากที่มีการส่งต่อภาพทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นภาพถ่ายพระสงฆ์คณะหนึ่ง เล่นเครื่องเล่น Revenge of the Mummy ผจญภัยในอุโมงค์แบบภาพยนตร์ดังของค่ายยูนิเวอร์แซล ระบุวันที่ถ่ายวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2012 หรือ พ.ศ. 2555 สาขาฮอลลีวูด มลรัฐแคลิฟอเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ที่ได้เห็นภาพยืนยันว่า พระรูปที่นั่งแถวหน้าสุดคนกลางละม้ายกับพระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จ.เชียงใหม่ ซึ่งเพิ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดพิธีสืบชะตาให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เช่น เป็นที่อโคจร หรือนั่งข้างโยมสีกาด้วย
เมื่อตรวจสอบจากเฟซบุ๊กวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ข้อความประวัติของวัดพระธาตุดอยสุเทพ USA เมืองชิโนฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขียนว่า วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2555 มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอุโบสถ โดยพระเทพวรสิทธาจารย์ เป็นประธานอำนวยการอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า ช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2555 พระเทพวรสิทธาจารย์ เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาจริง
วานนี้ (19 พ.ค.) แหล่งข่าวในวงการสงฆ์ได้ติดต่อแจ้งข่าวสารว่าพระสงฆ์ที่ปรากฏในภาพ ล้วนแต่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ชื่อดัง โดยซ้ายมือแถวหน้า คือ พระมหานรินทร์ นรินฺโท เจ้าของเว็บไซต์ศาสนาพุทธชื่อดัง “a little Buddha” ปัจจุบันอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนแถวหลังซ้ายสุด คือ พระมหาดวงจันทร์ คุตฺตสีโล เจ้าอาวาสวัดพันแหวน และผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยวิทยาเขตเชียงใหม่
ด้านขวาแถวหลัง คือ พระครูอดุลสีลกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดธาตุคำ และเจ้าคณะตำบลหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ส่วนพระหนุ่มแถวหน้าอีกรูปเป็นเลขานุการผู้ติดตามรองเจ้าคณะภาค 7 ซึ่งล้วนแต่บวชเรียนมานาน มีตำแหน่งและคุณวุฒิ ซึ่งถ้าเป็นพระใหม่หรือพระหนุ่มไม่รู้กาลเทศะ ก็อาจจะพอเข้าใจได้ แต่นี่เป็นระดับปกครอง น่าจะรู้ว่าที่ใดเป็นอโคจร
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า คณะสงฆ์จากเชียงใหม่ที่ติดตามเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ไปสหรัฐอเมริกา จะได้รับจดหมายรับรองเพื่อเป็นหลักฐานเพื่อไปประกอบพิธีที่วัดพุทธิชิโนฮิลส์ เมืองชิโนฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีคนไทยนับถือมาก แต่ประสบปัญหาการเงิน เพราะต้องผ่อนชำระค่าซื้อที่ดินจำนวนมาก จึงมีการประสานกันระหว่างสงฆ์ เพื่อขอให้ทางวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ช่วยชำระหนี้สินและก่อสร้างอุโบสถใหม่ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดพระธาตุดอยสุเทพ USA อาจเรียกได้ว่าเป็นการขยายสาขาของวัดโดยเทกโอเวอร์ เพราะต่อมามีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสให้เป็นพระวินัยธรประจำตำแหน่งรองเจ้าคณะภาคด้วย
"รายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อุดหนุนสาขาสหรัฐอเมริกา ยังเป็นความลับ จึงอยากจะเปิดเผยบัญชีส่วนนี้ให้สาธุชนทราบด้วย"แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเว็บไซต์ของวัดพระธาตุดอยสุเทพ USA ที่ www.watchinohills.org พบข้อความว่า วัดพุทธิชิโนฮิลส์ เกิดจากความคิดของพระอาจารย์สมบัติ ญาณวโร จึงได้ปรึกษาคณะกรรมการทุกฝ่าย มีมติเป็นเอกฉันท์ซื้อที่ดินสร้างวัดแห่งใหม่ และได้พบสถานที่แห่งหนึ่งเป็นโบสถ์ฝรั่ง เนื้อที่ 7.5 เอเคอร์ หรือประมาณ 18ไร่ ราคา 1,600,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48 ล้านบาท)
โดยได้ตกลงซื้อเมื่อวันที่ 18 เดือนเมษายน 2539 ผ่อนชำระเป็นเวลา 5 ปี ปีแรกผ่อนชำระเดือนละ 24,000 ดอลลาร์สหรัฐ ปีต่อมาเดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่อมาไม่สามารถผ่อนชำระได้ กระทั่งเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เชียงใหม่ เข้าร่วมแบกภาระ และเปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดสาขาเมื่อเดือนมิถุนายน 2555
นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และเลขาธิการมูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ ชี้แจงว่า ได้พูดคุยกับพระเทพวรสิทธาจารย์ ซึ่งยอมรับว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพจริง ถูกถ่ายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ช่วงไปวางศิลาฤกษ์อุโบสถ และพระธาตุดอยสุเทพจำลอง ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ USA วันที่ 23-24 มิถุนายน 2555 และญาติโยมนิมนต์ไปเที่ยวชมโรงถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ซึ่งเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ ที่ผู้คนที่ได้เดินทางไปที่เมืองดังกล่าวควรต้องแวะไปเที่ยวชม
เมื่อถามถึงความเหมาะสม นายวัลลภ ตอบว่า ไม่ได้ผิดวินัยสงฆ์ เพราะเป็นสถานที่สาธารณะ ไม่ใช่การเข้าไปเที่ยวสวนสนุกที่ถือเป็นสถานที่อโคจร และเป็นการไปเที่ยวชมเพื่อการเรียนรู้ และแม้ว่าจะเป็นสวนสนุกจริง ก็ยังไม่สามารถตัดสินได้ทันทีว่าผิดวินัยสงฆ์ เพราะต้องขึ้นอยู่กับเจตนา สำหรับภาพที่เผยแพร่ออกไป ทราบว่าต้นตอมาจากพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ร่วมคณะ นำไปให้คนใกล้ชิดดูผ่านโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งมีการเผยแพร่ต่อ
"การที่พระสงฆ์นั่งเครื่องเล่นหลายคนอาจจะมองไม่ดี แต่อยากให้คิดว่าก็เหมือนกับการที่พระสงฆ์นั่งรถไฟ รถราง ขึ้นบันไดเลื่อน ขึ้นลิฟท์ ซึ่งไม่ต่างกัน ที่สำคัญไม่ได้ข้องแวะกับสีกาหรือปฏิบัติตนไม่ดี"
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพระเทพวรสิทธาจารย์ถูกโจมตีเรื่องสร้างจุดชมวิวที่สูงเทียบเท่าองค์พระธาตุดอยสุเทพ และการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายวัลลภ ตอบว่า ทางวัดได้รับการประสานจากนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ว่าต้องการทำพิธีสืบชะตาและสะเดาะเคราะห์ และได้เชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์มาร่วมด้วย ซึ่งทางวัดก็ได้ทำตามที่ขอมา แต่อาจจะเป็นเพราะยังมีกระแสต่อต้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงมีการขุดคุ้ยเรื่องต่างๆมาโจมตี
ส่วนการสร้างจุดชมวิวได้ปรับโครงสร้างให้ต่ำกว่าองค์พระธาตุแล้ว โดยปรับแก้ในส่วนของหลังคา จากเดิมที่ทำเป็น 3 ชั้น สูงประมาณ 10 เมตร จะรื้อถอนชั้นตรงกลางออกประมาณ 4 เมตร จะไม่บดบังองค์พระธาตุอย่างที่เป็นห่วงกัน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนสีหลังคาจากสีทองเป็นสีเทาเพื่อให้ดูกลมกลืน และไม่ดูโดดเด่นกว่าองค์พระธาตุ ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร
ด้านนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไร เพราะไม่ได้เป็นการทำความผิด และไม่ได้ผิดวินัยสงฆ์ เพียงแต่อาจจะเข้าข่ายโลกติเตียนเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อย นอกจากนี้การเข้าไปเล่นเครื่องเล่น ก็เป็นไปตามที่ญาติโยมนิมนต์และซื้อตั๋วให้ ไม่ได้เป็นการเข้าไปด้วยตัวเอง
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากพศจ.เชียงใหม่ ว่าภาพดังกล่าวลูกศิษย์พระเทพวรสิทธาจารย์ ขอร้องให้ขึ้นไปนั่งบนเครื่องเล่นเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ก็ไม่ได้เล่นเครื่องเล่น ซึ่งพศจ.แจ้งให้พระเทพวรสิทธาจารย์ทราบแล้ว ว่าไม่เหมาะสม เข้าข่ายโลกวัชชะ อาจถูกโลกติเตียนได้ และอยากฝากเตือนพระสงฆ์ สามเณรระมัดระวังพฤติกรรมและการกระทำ เพราะบางเรื่องแม้ไม่ได้เจตนา แต่อาจจะถูกมองว่าไม่เหมาะสมได้
ข่าวแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อพระเทพวรสิทธาจารย์ เพื่อขอให้ชี้แจงด้วยตัวเอง แต่คนใกล้ชิดอ้างว่าติดกิจนิมนต์
ขณะที่การตรวจสอบทางเว็บไซต์ http://www.universalstudioshollywood.com ซึ่งเป็นที่มาของภาพดังกล่าว พบว่าเป็นสวนสนุกที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมากของนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหาร ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการก่อสร้างอาคารหอชมวิว รูปร่างคล้ายองค์เจดีย์ว่า ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะเมื่อมองจากตัวเมืองเชียงใหม่ จะเห็นเหมือนมีพระธาตุ 2 องค์ จากที่เคยเห็นแต่องค์พระธาตุดอยสุเทพ ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าองค์เดียว ชาวเชียงใหม่จำนวนมากจึงเรียกร้องให้ทบทวน.