ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ แจงสร้างอาคารหอชมวิวและพิพิธภัณฑ์มูลค่า 20 ล้านบาทของวัด ไม่ได้ตั้งใจให้บดบังหรือลบหลู่องค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ หลังถูกวิจารณ์หนักความเหมาะสม เผยพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อนำไปปรับปรุงแต่ไม่ยกเลิกก่อสร้าง ด้านนักท่องเที่ยวตำหนิแหลกพร้อมจี้ให้ทบทวน ระบุไร้เหตุจำเป็นต้องสร้างจุดขายเพิ่มให้วัด
จากกรณีที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหารมีการก่อสร้างอาคารหอชมวิวและพิพิธภัณฑ์ของวัดตั้งอยู่ในบริเวณวัด ลักษณะเป็นอาคารสูงรูปร่างดูคล้ายองค์เจดีย์ ซึ่งจากภาพถ่ายทางอากาศและเมื่อมองจากตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นไปยังพบว่ามีขนาดใหญ่กว่าองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่ จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับความเหมาะสม ทั้งการบดบังองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ และการสร้างความสับสนให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนผู้พบเห็น รวมทั้งความจำเป็นของการสร้างหอชมวิวดังกล่าว
วันนี้ (15 พ.ค.) นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหาร และเลขาฯ มูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ กล่าวว่า อาคารดังกล่าวที่กำลังดำเนินการก่อสร้างเป็นไปตามโครงการปรับปรุงและพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งคณะกรรมการวัดฯ ได้มีความเห็นชอบร่วมกันแล้วให้ทำการก่อสร้างขึ้นด้วยเงินงบประมาณของวัดจำนวน 20 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว และกำหนดจะให้เสร็จไม่เกินปี 2558 รองรับการเปิด AEC เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นจุดชมวิวและได้ชื่นชมวัตถุบูชา รวมทั้งประวัติความเป็นมาของวัด
ตลอดจนใช้เป็นจุดรับรองบุคคลสำคัญที่เดินทางมาที่วัดด้วย ซึ่งที่มาส่วนหนึ่งมาจากดำริของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเดินทางมาที่วัดเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้วด้วย ที่ให้ข้อแนะนำว่าน่าจะมีสถานที่พร้อมติดตั้งกล้องชมวิวไว้บริการนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้จากการที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นนั้น ยืนยันว่าการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาลบหลู่และตั้งใจบดบังองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตและท้วงติงเกิดขึ้นก็พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และเป็นไปได้ที่จะนำข้อคิดเห็นต่างๆ มาปรับปรุงเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารดังกล่าวให้เกิดความเหมาะที่สุด
แต่หากจะต้องให้ยกเลิกการก่อสร้างไปเลยนั้นชี้แจงว่าเนื่องจากวัดเป็นนิติบุคคล ย่อมมีสิทธิและอิสระที่จะทำการก่อสร้างหรือการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ของวัดได้อยู่แล้ว และโครงการนี้ก็ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการวัด รวมทั้งมีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วและใช้งบประมาณของวัดด้วย จึงได้ดำเนินโครงการนี้ ดังนั้นการจะยกเลิกคงเป็นไปได้ยาก บอกได้แต่เพียงว่าพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ นำมาปรับปรุง
นอกจากนี้ กรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหารและเลขาฯ มูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพยืนยันว่า โครงสร้างของอาคารหลังดังกล่าวนี้มีความแข็งแรงมั่นคงและสามารถรองรับแรงสนั่นสะเทือนจากการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงได้อย่างแน่นอน เพราะได้รับการออกแบบและคำนวณโครงสร้างมาเป็นอย่างดีจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ดังจะเห็นได้ว่าในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 57 ที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโครงสร้างอาคารดังกล่าวเลย
ส่วนที่อาจจะมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับโครงสร้างความมั่นคงทางธรณีของพื้นที่บริเวณวัดเนื่องจากก่อนหน้านี้บริเวณใกล้เคียงเคยมีกรณีดินสไลด์นั้น ยืนยันว่าได้มีการสำรวจมาแล้วเป็นอย่างดีก่อนที่จะดำเนินการ จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหา
ด้านนายคณัสนันท์ แซ่โง้ว ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 10 ปี แล้ว ที่วันนี้ (15 พ.ค.) เดินทางขึ้นไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ แสดงความเห็นว่า รู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อขึ้นมาพบว่ากำลังมีการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาคารดังกล่าวมีรูปร่างลักษณะดูคล้ายองค์พระธาตุมาก ที่ทำให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิดได้โดยง่ายโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และดูจากตำแหน่งที่ตั้งก็บดบังองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ
ทั้งนี้หากเป็นไปได้อยากเรียกร้องให้มีการทบทวนความเหมาะสมและยกเลิกการก่อสร้างอาคารดังกล่าวเพราะไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย แม้จะอ้างเหตุผลว่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือวัฒนธรรมก็ตาม เนื่องจากวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหารเป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องสร้างจุดขายอะไรเพิ่มเติม