กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่นำการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณมาตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2556 ประกาศสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว โดยจะต้องจบลงในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ถ้าไม่ชนะวันที่ 27 พฤษภาคม กำนันสุเทพ บอกว่าก็ขอให้มวลมหาประชาชนแยกย้ายกันกลับบ้านต่อสู้ สู้กับระบอบทักษิณต่อไป ส่วนตัวกำนันก็จะเข้ามอบตัวสู้คดีต่อไป
คำประกาศของกำนันสุเทพ เล่นเอาประชาชนอึ้งไปตามๆ กัน
บางคนคิดว่า เวลา 6 เดือนกว่าอาจจะนานเกินไป นานจนกระทั่งกำนันสุเทพเหน็ดเหนื่อย ล้า และถอดใจหมดทุนที่จะสู้ต่อ ไม่สามารถที่จะยื้อต่อไปได้อีกแล้ว
บ้างก็คิดว่า เป็นกลวิธีในการเรียกแขก เรียกประชาชนที่ยังนิ่งเฉยอยู่ หรือเป็นเพียงนักรบหน้าจอโทรทัศน์ให้ออกมาร่วมต่อสู้ เพราะการต่อสู้ด้วยวิธีสันติ อหิงสา ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น ปัจจัยที่จะเอาชนะก็คือจำนวนอันไพศาลของมวลมหาประชาชนเท่านั้น
แต่ไม่ว่ากำนันสุเทพจะมีเจตนาอย่างไร คำประกาศดังกล่าวของกำนันสุเทพก็บั่นทอนจิตใจที่กล้าสู้ กล้าเอาชนะของมวลมหาประชาชนอย่างมาก ด้วยเหตุนี้คืนวันที่ 18พฤษภาคม กำนันสุเทพจึงบอกประชาชนทั้งหลายว่า ได้รับคำกำชับจากแกนนำทั้งหลายว่า นอกจากการต่อสู้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย การต่อสู้นี้จะต้องจบลงในวันที่ 26 พฤษภาคม และเช้าวันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป มวลมหาประชาชนก็จะได้เฉลิมฉลองชัยชนะกันทั่วประเทศ แล้วกำนันก็ประกาศแผนการเอาชนะ โดยเปิดเผยว่าจะแบ่งมวลมหาประชาชนเข้าพบรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ทุกคนเรียกร้องให้เขาทั้งหลายลาออก เมื่อรัฐมนตรีเหล่านี้ลาออกก็จะได้มีการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนขึ้นมา
มาถึงขณะนี้คณะรัฐมนตรีที่อยู่ในสภาพพิการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จะไม่ลาออก ไม่มีกฎหมายฉบับใด ไม่มีรัฐธรรมนูญข้อไหนจะมาบังคับให้พวกเขาลาออกได้
ถ้าเป็นเช่นนี้จากนี้ถึงวันที่ 26 และ 27 พฤษภาคม ก็จะไม่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด รัฐบาลพิการก็จะยังอยู่เหมือนเดิม มวลมหาประชาชนก็อาจจะล้ากว่าเดิม เหนื่อยกว่าวันก่อนๆ เว้นเสียแต่ระหว่างวันเวลาที่เหลือนี้กำนันสุเทพจะมีไม้ตายอย่างอื่น เพื่อเอาชนะรัฐบาลพิการชุดนี้ได้
แต่ถ้าไม่มี กำนันสุเทพจะทำอย่างไร เดินไปมอบตัวอย่างที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านั้นหรือไม่?
แต่ไม่ว่ากำนันสุเทพจะตัดสินใจอย่างไร กำนันสุเทพจำได้หรือไม่ว่า ตัวกำนันสุเทพเป็นเพียงร่างทรงของมวลมหาประชาชนเท่านั้น 6 เดือนกว่าที่ผ่านมา กำนันสุเทพทำและพูดตามที่มวลมหาประชาชนเรียกร้องต้องการ นั่นก็คือ มานำในการต่อสู้กับระบอบทักษิณ โค่นล้มระบอบทักษิณให้สิ้นซากไปจากประเทศไทย เพื่ออนาคตของลูกหลานไทย เพราะระบอบทักษิณมันเอาประชาธิปไตยบังหน้า เอาการเลือกตั้ง เอาประชาธิปไตยหลอกๆ มาหลอกประชาชนคนไทยแล้วกดหัวคนไทย กดหัวข้าราชการไทย และตักตวงเอาผลประโยชน์ให้แก่ครอบครัวและตระกูลของทักษิณ แล้วมาถึงวันนี้กำนันสุเทพจะทอดทิ้งประชาชนไปติดคุกเอาตัวรอดคนเดียวอย่างนั้นหรือ กำนันสุเทพถามประชาชนหรือยัง ?
ตลอดระยะเวลา 6 เดือนกว่าที่ร่วมต่อสู้กันมากำนันสุเทพบอกมวลมหาประชาชนอยู่เสมอมิใช่หรือว่า การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ด้วยสันติ อหิงสา และกำนันสุเทพบอกเองมิใช่หรือ นี่เป็นการต่อสู้ของประชาชนที่มีแต่สองมือเปล่าต่างกับการปฏิวัติรัฐประหารของทหารที่ใช้ปืน ใช้รถถัง ใช้เวลานิดเดียวก็ยึดอำนาจได้ แต่การต่อสู้ของประชาชนจะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนก็ไม่รู้ นี่เป็นการต่อสู้ของประชาชนที่มีเพียงสองมือปล่าจะใช้เวลานานแค่ไหนไม่มีใครรู้
แล้วอยู่ๆ กำนันสุเทพจะเดินไปมอบตัวได้อย่างไร?
กำนันสุเทพบอกมิใช่หรือว่า เหตุที่ต้องต่อสู้ก็เพื่ออนาคตของลูกหลาน กำนันสุเทพเดินเข้าไปมอบตัวแล้วอนาคตของลูกหลานไทยจะเป็นอย่างไร ข้าราชการทั้งหลาย ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือนก็จะถูกระบอบทักษิณทำปู้ยี่ปู้ยำ จะแต่งตั้งใคร จะปูนบำเหน็จใคร ทักษิณก็จะพิจารณาว่าทำตัวเป็นขี้ข้ามันได้ดีแค่ไหนเท่านั้นเอง
ลูกหลานเราจะมีอนาคตได้อย่างไร?
จากวันนี้ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม มวลมหาประชาชนโดยการนำของกำนันสุเทพอาจจะประสบชัยชนะก็ได้ หรืออาจจะยังไม่ประสบชัยชนะก็ได้ ก็ไม่มีใครตำหนิต่อว่ากำนันสุเทพเลยแม้แต่น้อย
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับมนุษย์เผ่าพันธุ์พิเศษ คือ หน้าด้านผิดมนุษย์มนาคนอื่นๆ เป็นคนอื่น รัฐบาลอื่นเขาไปนานแล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ไปและจะไม่ไปง่ายๆ คุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบเป็นอย่างไรพวกเขาไม่เคยรู้ รู้อยู่อย่างเดียวชนะการเลือกตั้งมาแล้ว ก็เป็นรัฐบาลให้ได้ต่อไป ไม่ว่าจะทำความผิดพลาดมามากมายขนาดไหนก็ตาม จำนำข้าวขาดทุนไปแล้ว 4 แสนล้านบาท ไม่มีเงินจ่ายจำนำข้าวให้ชาวนาทั่วประเทศเป็นล้านครอบครัวพวกมันก็ไม่รู้สึกรู้สา
กำนันสุเทพจะมอบตัวให้กับรัฐบาลเส็งเคร็งอย่างนี้จะคุ้มหรือ?
คำประกาศของกำนันสุเทพ เล่นเอาประชาชนอึ้งไปตามๆ กัน
บางคนคิดว่า เวลา 6 เดือนกว่าอาจจะนานเกินไป นานจนกระทั่งกำนันสุเทพเหน็ดเหนื่อย ล้า และถอดใจหมดทุนที่จะสู้ต่อ ไม่สามารถที่จะยื้อต่อไปได้อีกแล้ว
บ้างก็คิดว่า เป็นกลวิธีในการเรียกแขก เรียกประชาชนที่ยังนิ่งเฉยอยู่ หรือเป็นเพียงนักรบหน้าจอโทรทัศน์ให้ออกมาร่วมต่อสู้ เพราะการต่อสู้ด้วยวิธีสันติ อหิงสา ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น ปัจจัยที่จะเอาชนะก็คือจำนวนอันไพศาลของมวลมหาประชาชนเท่านั้น
แต่ไม่ว่ากำนันสุเทพจะมีเจตนาอย่างไร คำประกาศดังกล่าวของกำนันสุเทพก็บั่นทอนจิตใจที่กล้าสู้ กล้าเอาชนะของมวลมหาประชาชนอย่างมาก ด้วยเหตุนี้คืนวันที่ 18พฤษภาคม กำนันสุเทพจึงบอกประชาชนทั้งหลายว่า ได้รับคำกำชับจากแกนนำทั้งหลายว่า นอกจากการต่อสู้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย การต่อสู้นี้จะต้องจบลงในวันที่ 26 พฤษภาคม และเช้าวันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป มวลมหาประชาชนก็จะได้เฉลิมฉลองชัยชนะกันทั่วประเทศ แล้วกำนันก็ประกาศแผนการเอาชนะ โดยเปิดเผยว่าจะแบ่งมวลมหาประชาชนเข้าพบรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ทุกคนเรียกร้องให้เขาทั้งหลายลาออก เมื่อรัฐมนตรีเหล่านี้ลาออกก็จะได้มีการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนขึ้นมา
มาถึงขณะนี้คณะรัฐมนตรีที่อยู่ในสภาพพิการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จะไม่ลาออก ไม่มีกฎหมายฉบับใด ไม่มีรัฐธรรมนูญข้อไหนจะมาบังคับให้พวกเขาลาออกได้
ถ้าเป็นเช่นนี้จากนี้ถึงวันที่ 26 และ 27 พฤษภาคม ก็จะไม่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด รัฐบาลพิการก็จะยังอยู่เหมือนเดิม มวลมหาประชาชนก็อาจจะล้ากว่าเดิม เหนื่อยกว่าวันก่อนๆ เว้นเสียแต่ระหว่างวันเวลาที่เหลือนี้กำนันสุเทพจะมีไม้ตายอย่างอื่น เพื่อเอาชนะรัฐบาลพิการชุดนี้ได้
แต่ถ้าไม่มี กำนันสุเทพจะทำอย่างไร เดินไปมอบตัวอย่างที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านั้นหรือไม่?
แต่ไม่ว่ากำนันสุเทพจะตัดสินใจอย่างไร กำนันสุเทพจำได้หรือไม่ว่า ตัวกำนันสุเทพเป็นเพียงร่างทรงของมวลมหาประชาชนเท่านั้น 6 เดือนกว่าที่ผ่านมา กำนันสุเทพทำและพูดตามที่มวลมหาประชาชนเรียกร้องต้องการ นั่นก็คือ มานำในการต่อสู้กับระบอบทักษิณ โค่นล้มระบอบทักษิณให้สิ้นซากไปจากประเทศไทย เพื่ออนาคตของลูกหลานไทย เพราะระบอบทักษิณมันเอาประชาธิปไตยบังหน้า เอาการเลือกตั้ง เอาประชาธิปไตยหลอกๆ มาหลอกประชาชนคนไทยแล้วกดหัวคนไทย กดหัวข้าราชการไทย และตักตวงเอาผลประโยชน์ให้แก่ครอบครัวและตระกูลของทักษิณ แล้วมาถึงวันนี้กำนันสุเทพจะทอดทิ้งประชาชนไปติดคุกเอาตัวรอดคนเดียวอย่างนั้นหรือ กำนันสุเทพถามประชาชนหรือยัง ?
ตลอดระยะเวลา 6 เดือนกว่าที่ร่วมต่อสู้กันมากำนันสุเทพบอกมวลมหาประชาชนอยู่เสมอมิใช่หรือว่า การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ด้วยสันติ อหิงสา และกำนันสุเทพบอกเองมิใช่หรือ นี่เป็นการต่อสู้ของประชาชนที่มีแต่สองมือเปล่าต่างกับการปฏิวัติรัฐประหารของทหารที่ใช้ปืน ใช้รถถัง ใช้เวลานิดเดียวก็ยึดอำนาจได้ แต่การต่อสู้ของประชาชนจะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนก็ไม่รู้ นี่เป็นการต่อสู้ของประชาชนที่มีเพียงสองมือปล่าจะใช้เวลานานแค่ไหนไม่มีใครรู้
แล้วอยู่ๆ กำนันสุเทพจะเดินไปมอบตัวได้อย่างไร?
กำนันสุเทพบอกมิใช่หรือว่า เหตุที่ต้องต่อสู้ก็เพื่ออนาคตของลูกหลาน กำนันสุเทพเดินเข้าไปมอบตัวแล้วอนาคตของลูกหลานไทยจะเป็นอย่างไร ข้าราชการทั้งหลาย ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือนก็จะถูกระบอบทักษิณทำปู้ยี่ปู้ยำ จะแต่งตั้งใคร จะปูนบำเหน็จใคร ทักษิณก็จะพิจารณาว่าทำตัวเป็นขี้ข้ามันได้ดีแค่ไหนเท่านั้นเอง
ลูกหลานเราจะมีอนาคตได้อย่างไร?
จากวันนี้ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม มวลมหาประชาชนโดยการนำของกำนันสุเทพอาจจะประสบชัยชนะก็ได้ หรืออาจจะยังไม่ประสบชัยชนะก็ได้ ก็ไม่มีใครตำหนิต่อว่ากำนันสุเทพเลยแม้แต่น้อย
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับมนุษย์เผ่าพันธุ์พิเศษ คือ หน้าด้านผิดมนุษย์มนาคนอื่นๆ เป็นคนอื่น รัฐบาลอื่นเขาไปนานแล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ไปและจะไม่ไปง่ายๆ คุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบเป็นอย่างไรพวกเขาไม่เคยรู้ รู้อยู่อย่างเดียวชนะการเลือกตั้งมาแล้ว ก็เป็นรัฐบาลให้ได้ต่อไป ไม่ว่าจะทำความผิดพลาดมามากมายขนาดไหนก็ตาม จำนำข้าวขาดทุนไปแล้ว 4 แสนล้านบาท ไม่มีเงินจ่ายจำนำข้าวให้ชาวนาทั่วประเทศเป็นล้านครอบครัวพวกมันก็ไม่รู้สึกรู้สา
กำนันสุเทพจะมอบตัวให้กับรัฐบาลเส็งเคร็งอย่างนี้จะคุ้มหรือ?