โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
สถานการณ์การเมืองเข้าสู่จุดเขม็งเกลียวสุดท้าย ผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดชะตากรรม อนาคตของประเทศไทยต่างเฝ้าดูว่าใครจะชนะเดิมพันชิงอำนาจรัฐ ไม่ว่าจะนำไปสู่ด้านดี หรือด้านร้าย และบ้านเมืองจะอยู่แบบซังกะตายไม่ได้
ความเสียหายสะสมในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ค่านิยมศีลธรรม คุณธรรมมีมากมาย ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติไทยมาก่อน เป็นยุคของความเสื่อมโทรมของแผ่นดินด้วยน้ำมือของบักเหลี่ยมและพวกขี้ข้าชั่วร้าย
หลังจากต่อสู้ยืดเยื้อยาวนานกว่า 6 เดือน มีแต่ประชาชนอยู่บนถนนเพื่อหาทางกอบกู้ฟื้นฟูบ้านเมืองจากซากของการทุจริตกังฉินโดยฝีมือของเครือข่ายบักเหลี่ยม ยิ่งกว่าการปล้นฆ่าแล้วข่มขืนต่อเนื่อง หวังให้ย่อยยับสิ้นสภาพ
กองทัพยังเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดทิศทางและตัวผู้แพ้ชนะ แต่กลับไม่ทำอะไรนอกเหนือจากคำพูดสวยหรู และการกระทำทุกอย่างเพื่อเลี่ยงการทำหน้าที่โดยผู้รับผิดชอบ มองว่าไม่อยากเปลืองตัว รอวันเกษียณสบายๆ
กำนันสุเทพได้นำมวลมหาประชาชนสู่ทางตัน และคราวนี้เป็นสถานการณ์บังคับว่าจะสู้จนสุดใจขาดดิ้น หรือยอมแพ้ มอบตัวรอติดคุก จะหวังกองทัพถั่งเช่าก็รอแบบลมๆ แล้งๆ เพราะเป็นยุคของข้าราชการพันธุ์เฉย
ชาวบ้านธรรมดา คนไร้ยศฐาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งสูง กลายเป็นกลุ่มต้องรับหน้าที่กู้ชาติกู้แผ่นดินจากซากปรักหักพังฝีมือของอภิมหากังฉิน พวกข้าราชการตำแหน่งใหญ่โต กินเงินเดือนภาษีประชาชนนั่งรอดูว่าใครจะชนะ
เป็นความอัปยศของคนในแผ่นดิน ซึ่งไม่รู้สึกร้อนหนาวกับเสียงประณามว่าเป็นพวกเนรคุณ ไม่รู้จักหน้าที่ เลวร้ายยิ่งกว่ากาฝากสูบผลประโยชน์
กำนันสุเทพยังดิ้นรนหาทางออกให้บ้านเมือง จะหาทางลงให้ตัวเองด้วยหรือไม่คงไม่ใช่ประเด็น เพราะตัวเองบอกว่าถ้าไม่ชนะก็ต้องรับบทกบฏแผ่นดิน แต่ความเสียหายจะตกแก่บ้านเมือง เครือข่ายทักษิณจะโกงกินหนักข้อกว่าเดิม
ดังนั้นวันแตกหัก ไม้ตายสุดท้ายคือการปฏิวัติโดยประชาชน เข้าไปประกาศในทำเนียบรัฐบาลวันเสาร์นี้ ถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์การเมืองใหม่ของประเทศ จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับกองทัพ ข้าราชการด้วย
เมื่อความรู้สึก จิตสำนึกรักชาติเจือจาง คงเหลือแต่ความต้องการผลประโยชน์แลกกับการจงรักภักดี ก็ไม่แปลกเมื่อเมืองไทยมีขบวนการขายชาติโดยเปิดเผย ไม่อาย ไม่รู้สึกผิด เพราะไม่มีใครรักษากฎหมายเอาผิดคนชั่ว
ฝ่ายกำนันสุเทพมีมวลมหาประชาชนหนุนหลัง มีข้าราชการบางส่วนเอาใจช่วย ฝ่ายซากของรัฐบาลนางปูซั่มประกอบไปด้วยขี้ข้าบักเหลี่ยม มวลชนเสื้อแดงและเครือข่ายเป็นกำลังหลัก คงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าไม่ได้
เมื่อกำนันสุเทพและมวลชนประกาศศึกแตกหักวันเสาร์นี้ ฝ่าย นปช.เสื้อแดงด้วยกลุ่มตู่ เต้น ธิดา เหวง ประกาศชุมนุมใหญ่วันที่ 17-19 เดือดนี้เช่นกัน แต่ยังไม่บอกว่าจะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจากถนนอักษะมาฝั่งกรุงเทพฯ หรือไม่
และทุกวันนี้ที่ถนนอักษะ ไม่ถือว่าเป็นการชุมนุมใหญ่หรืออย่างไร เพราะที่ผ่านมาหลายวันตัวเลขคนเข้าร่วมชุมนุมยังห่างจากเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ 5 แสนคน จนถึงล้าน ผลที่เห็นคือมวลชนอยู่ในระดับหมื่น สองหมื่นเท่านั้น
นับว่าเป็นความตกต่ำอย่างรุนแรง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนเสื้อแดงตา สว่าง อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจและการหักเงินหัวคิวโหด พวกที่หวังได้เงินพิเศษ แต่โดนเบี้ยวจึงพึ่งพากฎหมายให้เอาผิดจากพวกจัดชุมนุม
ถ้าต่างฝ่ายต่างชุมนุม ไม่คาบเกี่ยวพื้นที่กัน ก็ไม่น่าเป็นห่วง มวลชนกำนันสุเทพเสียเปรียบ เพราะโดนระเบิดเอ็ม 79 การลอบยิงด้วยอาวุธปืน ล้มตายกว่า 24 ราย บาดเจ็บเกือบ 800 ราย ขณะที่มวลชนเสื้อแดงปลอดภัย
ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนยิงปืนเอ็ม 79 ได้ แม้จะได้กระทำไปแล้ว 70 กว่าครั้ง ใช้ลูกระเบิดกว่า 80 ลูก นับเป็นความมหัศจรรย์ของอาชญากรรมโหดจริงๆ และตำรวจไม่รู้สึกอับอายในความไร้ฝีมือ หรือที่จริงพวกเดียวกันลงมือ
การปฏิวัติโดยประชาชนเป็นเรื่องใหม่ ประกาศไปแล้วเท่ากับว่าทิ้งทุกอย่างไปในเดิมพัน ถ้าไม่มีอะไรกระเพื่อม ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ไม่ใส่ใจ กำนันสุเทพจะทำอย่างไร เพราะซากรัฐบาลนางปูซั่มยังอ้างความชอบธรรม
นี่เป็นสภาพที่น่าอดสูสำหรับชะตากรรมของประเทศไทย ปล่อยให้เพื่อนบ้านมองด้วยความสมเพชเวทนา เพราะความสมบูรณ์พูนสุขด้วยความเกื้อหนุนของธรรมชาติ ทรัพย์สิน กลายเป็นเป้าหมายของกลุ่มกังฉินกินเมือง
พวกกำนันสุเทพได้ยึดครองทำเนียบรัฐบาล ประกาศเป็นรัฐบาลใหม่ แต่รัฐบาลเก่ากลับไม่มีสถานที่ทำการ ต้องระเหเร่ร่อนไปตามหน่วยงานต่างๆ สิ้นสภาพการบริหารบ้านเมือง เพราะไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรต้องทำ และทำเพื่อใคร
ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมประเทศจะลงเอยอย่างไร จะมีการรบราฆ่าฟัน นองเลือดกัน หรือการประกาศผู้นำชาติคนใหม่จะได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย นำไปสู่การปฏิรูปโครงสร้างบ้านเมือง ฟื้นฟูเสถียรภาพใหม่
ทำไปเถอะกำนันสุเทพและมวลชน ในการกำจัดระบอบทักษิณ ถ้าไม่กล้าหักดิบ ทำอะไรจริงจัง ทางเลือกที่เหลือจะเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
แต่มวลมหาประชาชนต้องออกมาอีกรอบให้ได้ระดับวันที่ 9 หรือ 24 ธันวา จึงจะทำให้การต่อสู้ของประชาชนประสบชัยชนะแบบยั่งยืน ความพ่ายแพ้คือหายนะของชาติ ระบอบทักษิณจะแปรสภาพให้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว