xs
xsm
sm
md
lg

“กำนันสุเทพ”ยอมแพ้!! เป็นเวรกรรมประเทศไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ม็อบกปปส.ของ “กำนันท่าสะท้อน”สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาต่อสู้เพื่อมุ่งหน้าฆ่าฟันระบอบทักษิณ แต่สภาพกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ คนร่วมขบวนการชักเริ่มแตกแถว ใจไม่ถึง ออกอาการป๊อด ปากกล้าขาสั่น หลังต่อสู้มายืดเยื้อยาวนานกว่าครึ่งปี แต่ยังปิดเกมไม่ได้
เมื่อพรรคพวกสู้แบบแทงกั๊ก ไม่สุดซอย “กำนันสุเทพ”เลยต้องกำหนดวันชี้เป็นชี้ตายชะตากรรมประเทศไทย 26 พฤษภาคมนี้ หากรูดม่านตอกฝาโลงระบอบทักษิณให้สิ้นซากไม่ได้ ก็จะเดินเอาขาไปแหย่ตะแลงแกงหนึ่งข้าง ด้วยการไปมอบตัว ยุติ “ม็อบนกหวีด”ปล่อยให้วงจรอุบาทว์ลอยนวลต่อไป
ยุติบทบาทแกนนำมวลมหาประชาชน เพราะสู้มาแล้วหมดหน้าตัก ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อจะเอาชนะระบอบชั่วให้ได้แบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เป็นหนี้เป็นสินท่วมตัว แต่ในเมื่อแต่ละภาคส่วนยังกล้าๆ กลัวๆไม่กอดคอร่วมตายถวายชีวิต ประเภทเหยียบเรือสองแคม จำพวกไผ่ลู่ลม ก็ปล่อยให้ระบอบทักษิณมันเกาะกินสยามประเทศกันต่อไปแล้วกัน !!
**“กำนันสุเทพ”ถือว่าทำหน้าที่พลเมืองผู้รักประเทศไทยตามวิถีคนกล้าจบแล้ว ที่เหลือแล้วแต่เวรแต่กรรมที่ทำกันมา น.ช.ทักษิณจะปู้ยี้ปู้ยำประเทศไทยอย่างไร ก็ปล่อยไปตามยถากรรม หลังจากนี้คงจะยากที่คนดีคนกล้าจะออกมาท้าสู้กับทักษิณ เพราะคนเหล่านั้นท้อแท้ไปหมดแล้ว
7 เดือน หรือ 200 กว่าวัน หมดคำถาม หมดข้อกังขา กับผู้ชายชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ นักการเมืองที่ใครหลายคนเคยติดภาพลักษณ์เรื่องทุจริต สปก. 4 –01 วันนี้เคลียร์จบ เดินเข้าสู่สารบบหนึ่งในบุคคลประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องจารึก ในฐานะแกนนำอภิมหามวลประชาชน ที่กล้างัดกับระบอบที่ฝังรากลึกในสังคมไทยแทบทุกพื้นที่
แม้การต่อสู้ครั้งนี้สุดท้ายจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน กำราบระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทยได้ตามที่มุ่งหวัง อาจขัดใจแม่ยกแฟนคลับที่เกาะขบวนกันมาตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย แต่ก็ต้องโค้งคารวะในหัวจิตหัวใจกับอดีตกำนันท่าสะท้อน ที่สู้กับระบอบชั่วร้ายได้แบบสูสี ดุเดือด ที่สุด จนต้องสดุดีในวีรกรรมมากกว่าตำหนิ
เพราะนับตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) งัดข้อกับระบอบทักษิณ ในช่วงปี 2548 จน “น.ช.แม้ว” ต้องระหกระเหิน เตลิดออกนอกประเทศเป็นสัมภเวสีผีตายโหงกลับบ้านไม่ได้ แต่นั้นมาก็เพิ่งมีม็อบ กปปส. นี่แหละที่ต่อกรจนทำให้อดีตนายกรัฐมนตรีหน้าเหลี่ยมหวั่นไหว เต้นเป็นเจ้าเข้า ได้ไม่แพ้กัน
“กำนันสุเทพ”ลบคำสบประมาทที่โดนค่อนแคะ จนพวกจระเข้ขวางคลอง ประเภทมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ สงบปากสงบคำไปเยอะ
แล้วหากจะมองดูผลลัพธ์จากการต่อสู้ของ “กำนันสุเทพ” ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา จะบอกว่าเสียของก็ไม่ถูก สิ่งที่ได้มีหลายสิ่งหลายอย่าง “เทพเทือก” เป็นคนหนึ่งที่ทำให้ระบอบทักษิณเสียศูนย์ไปจนเกือบพินาศ ไล่ตั้งแต่ถอดสูทมาเดินบนถนน ถือธงนำมวลชนคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย จนกำเนิดมวลมหาประชาชน
กระทั่งที่สุดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องถอนกฎหมายอัปยศออกจากสภาแทบไม่ทัน เสียเครดิตชนิดต้องเอาหน้าไปซุกตูดหมา
**ก่อนจะขยับการต่อสู้ เป็นการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ นัดมวลมหาประชาชนเรือนล้านออกมาเดินถนน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ขับไล่จนกลายเป็นสถิติประวัติศาสตร์จารึกในกระดานการเมืองไทย กระทั่งน.ช.ทักษิณ อยู่เฉยไม่ได้ สั่งไอ้เสือถอย ให้ยุบสภาหนีตาย
จากนั้นลุยถั่วยกระดับเป็นการถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณ ชูธงเรื่องการปฏิรูป จนเกิดกระแสติดลมบนในสังคม ทุกคนตื่นตัว รัฐบาลรักษาการกลายเป็นเป็ดง่อย บริหารประเทศไม่ได้
แม้กระแสจะตกไปบ้างในบางช่วง แต่ก็ถือว่าชนะตลอดเรื่อยมา จน "ปูกรรเชียง" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีไม่ออก กระเด็นตกเก้าอี้นายกฯ โดนทั้งคดีความในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ และในมือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
**สุเทพขึ้นแท่นเป็นมือปราบตระกูลชินวัตร อีกคน !!
ต้องปรบมือให้ดังๆ ที่สู้มาได้จนขณะนี้ เพราะรัฐบาลเป็ดง่อยชุดนี้มันดื้อด้าน หน้าทนยิ่งกว่ายางรถสิบล้อ อดทนกอดรัดตัวบทกฎหมายเสียแน่น แถไถไม่ยอมตาย แม้เศรษฐกิจจะฉิบหายวายวอดก็ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ ผิดกับ “กำนันสุเทพ”ที่ยังรู้สึกสะทกสะท้านว่า บ้านเมืองเสียหายหนักแล้ว เลยจำใจต้องหยุดเพื่อรักษาส่วนรวมเอาไว้
แต่อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเหมือนว่าสิ่งที่ “กำนันสุเทพ”ทำได้ จะหมดช่องแล้ว เสมือนพามวลมหาประชาชนมาจนสุดทาง เพราะขั้นตอนที่เหลือ ซึ่งต้องอาศัยกลไก และองคาพยพอื่นๆ มาเป็นตัวขับเคลื่อนให้ถึงเป้าหมาย ไม่เห็นอาการทุ่มสรรพกำลังเหมือนที่ม็อบนกหวีด ตรากตรำทำกันมา
บางคนไม่ช่วยกันสู้ บางคนกินแรงเพื่อน หากชนะก็ออกมายินดีปรีดา แต่ในช่วงคาบลูกคาบดอก ก็ออกแนวแทงกั๊ก มาบ้างไม่มาบ้างบางคนเห็นท่าไม่ดีก็ทำตัวเป็นเห็บกระโดดหนี พอมีจังหวะดี ๆ กระแสแรง ๆ ก็กระโดดกลับเข้ามาผสมโรงเกาะกระแส
**ตลกร้ายกว่านั้น น่าเจ็บใจบางคนยังมีข่าวฉาวโฉ่ว่า ไปรับเงิน น.ช.ทักษิณ มาเรียบร้อยโรงเรียนแม้วไปแล้ว
ด้านผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง องค์กรอิสระ หัวหน้าส่วนราชการวุฒิสภา ความจริงก็น่าจะเปิดหน้าเล่น ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะวันนี้สังคมรู้เช่นเห็นชาติว่า ระบอบทักษิณ มันเป็นเนื้อร้ายเพียงใดการจะก้าวเท้าขึ้นมาประกาศอยู่ตรงข้ามความชั่วร้ายนั้นไม่มีใครว่าได้ แต่ในเมื่ออยู่นิ่งก็อย่าโทษแล้วกันหากอนาคตข้างหน้าประเทศชาติของเราจะบรรลัยเพราะวงจรแสนอุบาทว์
**ขณะที่กองทัพเองซึ่งได้รับความคาดหวังจากสังคมสูงมาก ว่าจะเป็นผู้กอบกู้วิกฤติชาติครั้งนี้ก็ทำได้แค่เพียงเป็นยันต์กันผี แต่ปราบผีไม่ได้ จนมีการเปรียบเปรยว่าเป็น “ปากกระบี่ แต่ใจเต้าหู้”หลายคนผิดหวังคิดว่าจะน่าจะไล่บี้ไล่เช็ดมากกว่านี้
มวลมหาประชาชนไม่ได้เรียกร้องให้ทหารปฏิวัติ รัฐประหาร ไม่ได้เว้าวอนให้เอารถถังมายึดอำนาจ แต่บทบาททหารในฐานะรักษาความมั่นคงของชาติ มันน่าจะมีมากกว่านี้ อย่างน้อยๆ น่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในการทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ดีกว่านี้ ได้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมเพราะเห็นอยู่ตำตาว่าระบอบทักษิณพิษสงมันแค่ไหน เหิมเกริมปานใด
**แต่เอาแต่ฮึ่มๆ จนหมดความขลังไปแล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น