xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เจ้าสัว “ย่งเส็ง” อำลาชีวิต ปิดตำนานเวิ้งนาครเขษม หมดหวัง...พ่ายต่อนายทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ห้างดนตรีย่งเส็ง
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ถนนดนตรี... ถนนแห่งตำนานเวิ้งนาครเกษม กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคมถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ ชัชวาล อัศวโสภณ หรือ เฮียโต เจ้าของบริษัท ย่งเส็งวัฒนาเทรดดิ้ง จำกัด หรือเป็นที่รู้จักกันดีว่า “ห้างดนตรีย่งเส็ง” ที่เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดนตรีที่บุกเบิกในเวิ้งนาครเขษมมาเป็นเวลากว่า 60 ปี ได้อำลาชีวิตตัวเองลง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณท่าเรือวัดจีจินเกาะ จับภาพได้ขณะที่เฮียโตได้ทำการสักการะที่ศาลเจ้าริมน้ำ ก่อนที่เขาจะหย่อนตัวลงไปในแม่น้ำ เจ้าพระยา

ทั้งนี้ สาเหตุการเสียชีวิตของเฮียโตนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นจากปมปัญหาในประเด็นถูกไล่ที่หลังจาก “ราชสกุลบริพัตร” ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินในบริเวณดังกล่าวได้ขายต่อให้กับ “บริษัททีซีซี” ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จนกลายเป็นความเครียดสะสม ทำให้คิดไม่ตกและต้องมาจบชีวิตลงท่ามกลางสายน้ำเจ้าพระยา

เหตุการณ์การเสียชีวิตของ “เฮียโต” สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา นายพลกร อัศวโสภณ บุตรชาย ได้ทำการเข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.ประภัศ เขียวประภัสสร พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการสน.ปากคลองสาน ว่าพ่อของเขาได้หายตัวไป

กระทั่ง นักชุดประดาน้ำของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ทำการตรวจสอบจากกล้อง วงจรปิดบริเวณท่าเรือวัดจีจินเกาะจึงพบว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 เฮียโตได้เดินทางมาที่ท่าน้ำดังกล่าว เวลาประมาณ 15.00น.และได้ทำการสักการะศาลเจ้าที่ริมน้ำ ก่อนที่จะหย่อนตัวลงไปในแม่น้ำ นักประดาน้ำจึงได้งมหาหาเนเวลา 5 ชั่วโมง กระทั่งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ปากคลองสาน รับแจ้งว่า พบศพลอยน้ำที่บริเวณท่าเรือตลาดวังหลัง จึงได้เดินทางไป ตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราชและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

และหลังจากที่ญาติของนายชัชวาล ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ทันทีที่เห็นสภาพศพทุกคนต่างร้องไห้โฮ และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช่นายชัชวาลแน่นอน เพราะจำเอกลักษณ์ไฝที่หน้าผากได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของนายชัชวาล หรือเฮียโต ซึ่งสังคมต่างก็สันนิษฐานกันว่า คงเป็นเพราะเฮียโตนั้นเครียดจากประเด็นการถูกไล่ที่ดินบริเวณเวิ้งนาครเขษม โดยชุมชนแห่งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า มีการต่อสู้เรียกร้องสิทธิ เพื่อต่อสัญญาที่ดินกับ “ราชสกุลบริพัตร” มาเป็นเวลายาวนาน

อีกทั้ง เฮียโต เจ้าของร้านดนตรีชื่อดังก็เป็นหนึ่งในกรรมการผู้ค้าย่านเวิ้งนาครเขษมที่เป็นผู้ร่วมเจรจาต่อรองกับทีซีซีแลนด์โดยทาง “ราชสกุลบริพัตร” ได้ทำการขายที่ดินบริเวณดังกล่าวให้กับ “ทีซีซีแลนด์” โดยเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดีเป็นประธานบริษัทดังกล่าว กระทั่งกลายเป็นประเด็นให้เฮียโตเกิดความเครียดโดยมีปมจากการถูกกว้านซื้อที่ดิน

“ครอบครัวของผมขายเครื่องดนตรีและตั้งอยู่ในเวิ้งนาครเขษมมากว่า 100 ปีแล้ว เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินที่พวกตนทำมาหากินมากว่า 100 ปี ซึ่งเป็นของสำนักงานบริพัตร ต่อมาทางสำนักงานบริพัตรได้ขายต่อให้กลุ่มบริษัท ทีซีซี ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จากนั้นพ่อของผมก็ไปลงทุนเปิดร้านใหม่ที่บริเวณแยกวัดตึกซึ่งอยู่ใกล้กับร้านเก่าเพื่อเตรียมตัวย้ายจากร้านเดิมที่ถูกไล่ที่ โดยให้ย้ายออกภายในเดือน ก.ย. 57 แต่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาบอกเมื่อประมาณต้นปีว่าให้ย้ายออกภายในเดือน ก.ค. 57 ส่วนร้านใหม่นั้นได้ลงทุนไปประมาณ 10 ล้านบาท ตั้งได้ประมาณ 2 ปีแล้ว และล่าสุดทางบริษัททีซีซีก็ได้เข้ามาซื้อที่เช่นเดียวกัน โดยมีกำหนดให้ย้ายออกในปี พ.ศ. 2560 ผมคิดว่าพ่อของผมคงกังวลและเครียดกับเรื่องเงินที่ลงทุนไป เมื่อถึงกำหนดย้ายออกยังไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป” นายพลกร อัศวโสภณ บุตรชายของเฮียโตได้บอกเล่าถึงเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ บริษัท ทีซีซีแลนด์ จำกัด ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ ทีซีซี ได้ทำการเข้าซื้อที่ดินแปลงบริเวณดังกล่าว (บริเวณถนนเจริญกรุงซอย 8-10) ในนามบริษัททีซีซี เวิ้งนาครเขษม บนเนื้อที่ 14 ไร่ 91 ตารางวา รวมอาคารพาณิชย์ 440 คูหา มูลค่าเฉียด 5,000 ล้านบาท ต่อจากราชสกุลบริพัตร ตั้งแต่ปี 2555

กระทั่งล่าสุด เมื่อปลายเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา บริษัททีซีซี ได้ทำการส่งตัวแทน คือ นายณภัทร เจริญกุล ผู้อำนวยการโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในเครือทีซีซี และนายศรชัย หวังกิจเจริญสุข ผู้จัดการทั่วไปโครงการเวิ้งนาครเขษม เป็นตัวแทนเข้าเจรจากับพ่อค้าบริเวณเวิ้งนาครเขษมกว่าสองร้อยรายถึง โมเดลการพัฒนา ที่จะทำการเดินหน้ารื้อ ถอน อาคารบางส่วน โดยเฉพาะ “ตลาดปีระกา” ซึ่งจะต้องทุบตึก 20-30 ห้อง เพื่อขึ้นอาคารสูง 11 ชั้น

บริษัททีซีซีได้กว้านซื้อที่ดินเพื่อรุกเปิดโมเดลพัฒนาเวิ้งนาครเขษม ต่อ 287 ผู้เช่า และจะมีการเวนคืนพื้นที่ผู้เช่าบางส่วนภายในเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมพัฒนาตึกสไตล์โคโลเนียล ชั้น1-2 ทำพื้นที่เช่า ชั้น 3-5 ทำบูติคโฮเทล โดยคิดค่าเช่าเพิ่มปีละ7-10% ตามแผนเปิดให้บริการเต็มพื้นที่ปี 2562

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือสาเหตุหนึ่งที่เฮียโตเกิดความเครียดหนัก อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนที่เฮียโตจะจบชีวิตลง เขาไม่ได้นำของมีค่าติดตัวไปด้วยเลย สร้อย แหวน นาฬิกา ทำการถอดเก็บใส่ถุงไว้ในลิ้นชักและทำการล็อกกุญแจไว้เป็นอย่างดี มีก็แต่เพียง “นามบัตร” พลาสติกเท่านั้น ที่เฮียโตพกติดตัวไปด้วย

เป็นไปได้ไหมว่า เฮียโตนั้นมีความผูกพันกับเวิ้งนาครเขษม ถึงขนาดต้องเอานามบัตรติดตัวไปด้วยก่อนที่จะจบชีวิตลง!

เหมือนเป็นสายเลือดของตระกูลร้านย่งเส็งที่เป็นตัวแทนของคนในชุมชนคนอื่นๆที่ต่างก็ลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิ ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านนายทุนข้างนอกที่จะมาร่วมประมูลที่ดิน ดังที่เคยติดป้ายคัตเอาท์ รวมถึงป้ายผ้าขนาดใหญ่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการรุกกว้านซื้อที่จากนายทุน

วิชิต เตชะเกษม เจ้าของร้านเกษมบรรณกิจ ซึ่งจำหน่ายหนังสือพื้นที่ 2 คูหากล่าวถึงปัญหาเรื่องที่ดินว่า กำลังลุ้นเรื่องการเวนคืนพื้นที่ แต่ไม่ดื้อแพ่ง เตรียมที่จะย้ายไว้แล้ว ร้านใหม่จะอยู่ตรงวนเวียนใหญ่พร้อมที่จะย้ายทุกเมื่อเพราะไม่มีหน้าร้าน ลูกค้ามาสอบถามว่าจะจะย้ายเมื่อไหร่ก็ตอบว่าไม่รู้ แต่พื้นที่แห่งนี้ยากที่จะอนุรักษ์ไว้เหมือนเดิม

“คุณปู่ผมมาประเทศไทยครั้งแรกหอบเสื่อผืนหมอนใบ มาหาบหนังสือขาย ผมรุ่นที่ 3 นับมาก็ประมาณ 80 ปี มีลูกค้าเก่าแก่ มันเป็นเสน่ห์ของร้านที่ซึมซับมายุคต่อยุค เป็นแหล่งขายหนังสือโหราศาสตร์ที่ลูกค้ารู้จักดี โหราศาสตร์ที่นี่มีเอกลักษณ์คือไดอารี่โหร มีจำหน่ายที่นี่แห่งเดียว”วิชิตให้ข้อมูล

กล่าวสำหรับตำนานถนนดนตรีแห่งเวิ้งนาครเขษมที่ร้านเครื่องดนตรีของเฮียโตได้เป็นผู้บุกเบิกประกอบกิจการจำหน่ายและรับดูแลซ่อมแซมเครื่องดนตรีมายาวนาน โดยปัจจุบันห้างดนตรีย่งเส็งมี 2 ร้านด้วยกัน คือ เวิ้งนาครเขษมซอย 1 และหัวมุมวัดตึก โดยร้านที่ 1 อยู่ในเขตโซน 1 ที่มีกำหนดต้องย้ายออกภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยร้านย่งเส็งเพิ่งลงทุนขยายร้านที่1 อีก 3 คูหา เพื่อเก็บสินค้าและหน้าร้านโชว์เครื่องดนตรี

ทั้งนี้ การดำเนินกิจการของร้านย่งเส็งถือเป็นหนึ่งในร้านจำหน่ายเครื่องดนตรีที่บุกเบิกในเวิ้งนาครเขษมโดยเฉพาะเน้นตลาดพรีเมี่ยม อาทิ แซกโซโฟน แบรนด์ เซลเมอร์ (Selmer) ที่มีราคาเป็นหลักแสนบาท โดยรุ่นพ่อของเฮียโตเป็นช่างผู้ชำนาญการด้านการดูแลและซ่อมแซมเครื่องดนตรีราคาสูง จึงเป็นร้านที่รับซ่อมเครื่องดนตรีให้กับในวังด้วย

มาวันนี้ เฮียโตได้จากไปแล้วพร้อมกับวิกฤติการรุกคืบกว้านซื้อที่ดินเวิ้งนาครเขษม แต่ถึงอย่างไรเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ทายาทของเฮียโตจะดำเนินกิจการของห้างดนตรีย่งเส็งเพื่อสานต่อตำนานถนนดนตรีแห่งเวิ้งนาครเขษมต่อไป



ป้ายผ้าที่เวิ้งนาครเขษม
เฮียโต-ชัชวาล อัศวโสภณ
กำลังโหลดความคิดเห็น