ลูกชายเจ้าของห้างขายเครื่องดนตรี“ย่งเส็ง” เวิ้งนาครเขษม เข้าแจ้งความ บิดาหายตัวไปตั้งแต่บ่ายวันที่ 12 พ.ค. ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบภาพเสี่ยร้านดังหย่อนตัวลงน้ำที่บริเวณท่าเรือวัดจีจินเกาะ ก่อนหายตัวไป ชุดประดาน้ำร่วมค้นหานานกว่า 5 ชั่วโมงแต่ยังไม่พบ เผยเครียดถูกไล่ที่ครอบครัวทำกินมานานกว่า 100 ปี
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ประภัศ เขียวประภัสสร พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ปากคลองสาน รับแจ้งจากนายพลกร อัศวโสภณ อายุ 24 ปี บุตรชายนายชัชวาล อัศวโสภณ หรือเฮียโต อายุ 55 ปี ว่าบิดาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ย่งเส็งวัฒนาเทรดดิ้ง จำกัด หรือห้างดนตรีย่งเส็ง ตั้งอยู่ภายในเวิ้งนาครเขษม แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ หายตัวไป บริเวณท่าเรือวัดจีจินเกาะ แขวงและเขตคลองสาน จึงประสานไปยังชุดประดาน้ำของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาร่วมตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางมูลนิธิดังกล่าวพบว่า เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) เวลาประมาณ 15.00 น. นายชัชวาลเดินทางมาที่ท่าน้ำดังกล่าวได้ทำการสักการะศาลเจ้าที่ริมน้ำก่อนที่จะหย่อนตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาและจะหายตัวไป และอาจจะจมน้ำเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหาเป็นเวลา 5 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบจึงได้ยุติการค้นหา
จากการสอบสวนนายพลกรกล่าวว่า ครอบครัวของตนขายเครื่องดนตรีและตั้งอยู่ในเวิ้งนาครเขษมมากว่า 100 ปีแล้ว เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินที่พวกตนทำมาหากินมากว่า 100 ปีซึ่งเป็นของสำนักงานบริพัตร ต่อมาทางสำนักงานบริพัตรได้ขายต่อให้กลุ่มบริษัท ทีซีซี ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จากนั้นพ่อของตนก็ไปลงทุนเปิดร้านใหม่ที่บริเวณแยกวัดตึกซึ่งอยู่ใกล้กับร้านเก่าเพื่อเตรียมตัวย้ายจากร้านเดิมที่ถูกไล่ที่ โดยให้ย้ายออกภายในเดือน ก.ย. 57 แต่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาบอกเมื่อประมาณต้นปีว่าให้ย้ายออกภายในเดือน ก.ค. 57 ส่วนร้านใหม่นั้นได้ลงทุนไปประมาณ 10 ล้านบาท ตั้งได้ประมาณ 2 ปีแล้ว และล่าสุดทางบริษัททีซีซีก็ได้เข้ามาซื้อที่เช่นเดียวกัน โดยมีกำหนดให้ย้ายออกในปี พ.ศ. 2560 ตนคิดว่าพ่อของตนคงกังวลและเครียดกับเรื่องเงินที่ลงทุนไป เมื่อถึงกำหนดย้ายออกยังไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป
นายพลกรกล่าวว่า วานนี้ (วันที่ 12 พ.ค.) เวลาประมาณ 14.23 น. พ่อของตนได้ออกมาจากบริษัท ทางญาติก็ไม่มีใครทราบว่าเดินทางไปไหน ญาติทุกคนจึงช่วยกันโทรศัพท์ติดตามก็ไม่รับสาย จากนั้นตนจึงเดินไปในห้องทำงานก็พบนาฬิกา กระเป๋าสตางค์ พร้อมเอกสารส่วนตัว โทรศัพท์มือถือ และเครื่องประดับต่างๆ ถูกเก็บใส่ถุงยัดไว้ในลิ้นชักและล็อกกุญแจเป็นอย่างดี ทุกคนจึงมั่นใจว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับพ่อของตน จากนั้นจึงได้ไปสอบถามพนักงานภายในร้านทราบว่าพ่อของตนพกเพียงนามบัตรพลาสติกติดตัวไปเพียง 1 ใบเท่านั้น จึงทราบพิกัดที่พ่อตนจะเดินทางไป คือ วัดทองนพคุณ อยู่กับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นวัดที่บ้านของตนเดินทางมาทำบุญอยู่เป็นประจำ ตนพร้อมญาติจึงเดินทางมาพร้อมญาติเพื่อสอบถามข้อมูลกับชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่าช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.วานนี้ มีชายลักษณะเหมือนกับพ่อของตนโดดน้ำจริง พร้อมกันนี้ตนก็ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นพ่อของตนจริงๆ ส่วนสาเหตุที่พ่อของตนได้พกนามบัตรแบบพลาสติกติดตัวไปนั้นเชื่อว่าพ่อน่าจะต้องการบอกให้รู้ว่าทำธุรกิจอยู่ในเวิ้งนาครเขษม และกำลังเดือดร้อนพร้อมกับพ่อค้ารายอื่นๆ ที่ค้าขายอยู่ในเวิ้งนาครเขษม โดยให้ตัวเองนั้นเป็นตัวแทนความเดือดร้อนของกลุ่มพ่อค้าในเวิ้งนาครเขษมทั้งหมด