xs
xsm
sm
md
lg

พบแล้วศพนายห้างย่งเส็ง ลอยติดท่าน้ำศิริราช-ญาติไม่ติดใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-พบศพ “ชัชวาล อัศวโสภณ” นายห้างบริษัท ย่งเส็ง ห้างดนตรีเก่าแก่ชื่อดังแล้ว หลังกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย พบลอยขึ้นมาติดที่ท่าน้ำศิริราช คาดหนีความเครียดกรณีถูกไล่ที่ค้าขาย ญาติร่ำไห้ ไม่ติดใจการเสียชีวิต

เมื่อช่วงเช้า วานนี้ (14 พ.ค.) สถานีวิทยุผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ FM 91.MHz หรือ สวพ.91 รายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้พบศพของนายชัชวาล อัศวโสภณ หรือเฮียโต เจ้าของบริษัท ย่งเส็งวัฒนาเทรดดิ้ง จำกัด หรือห้างดนตรีย่งเส็ง ตั้งอยู่ภายในเวิ้งนาครเขษม แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ ที่ท่าน้ำศิริราช หลังจากได้กระโดดน้ำที่บริเวณที่เรือวัดจีจินเกาะ แขวงและเขตคลองสาน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา

ต่อมาเวลา 08.00 น. พ.ต.ท.ประภัศ เขียวประภัสสร พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ปากคลองสาน ได้รับแจ้งพบศพลอยน้ำที่บริเวณท่าเรือตลาดวังหลัง แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชรพ.ศิริราช มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เมื่อเดินทางไปถึง เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำศพขึ้นจากน้ำที่ท่าน้ำวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร โดยศพมีสภาพบวมอืด เนื้อเปื่อยยุ่ย ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีขาวสลับดำ นุ่งกางเกงผ้าขายาว สวมถุงเท้ารอง เท้าหนังสีดำ ต่อมาญาติของนายชัชวาล ได้เดินทางมาดูศพ เมื่อเห็นศพ ทุกคนต่างร้องไห้ และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าใช่นายชัชวาลแน่นอน เพราะเสื้อผ้าตรงกับวันที่นายชัชวาลได้ใส่ออกจากบ้าน อีกทั้งจำไฝบนหน้าผากได้ ทางญาติไม่มีใครติดใจการเสียชีวิตครั้งนี้ ส่วนจะเอาไปตั้งสวดศพที่วัดไหน ต้องปรึกษากับทางญาติอีกครั้ง ขณะที่นายพลกร อัศวโสภณ อายุ 24 ปี บุตรชายนายชัชวาล บอกว่าไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อใดๆ ทั้งสิ้น

ก่อนหน้านี้ นายพลกร บุตรชายของนายชัชวาล ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจว่า นายชัชวาล ได้หายตัวไปบริเวณท่าเรือวัดจีจินเกาะ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานไปยังชุดประดาน้ำของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาร่วมตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางมูลนิธิดังกล่าว พบว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เวลาประมาณ 15.00 น. นายชัชวาลเดินทางมาที่ท่าน้ำดังกล่าวได้ทำการสักการะศาลเจ้าที่ริมน้ำก่อนที่จะหย่อนตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาและจะหายตัวไป และอาจจะจมน้ำเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหาเป็นเวลา 5 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบ จึงได้ยุติการค้นหา

ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายพลกรกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ครอบครัวของตนขายเครื่องดนตรีและตั้งอยู่ในเวิ้งนาครเขษมมากว่า 100 ปีแล้ว เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินที่พวกตนทำมาหากินมากว่า 100 ปี เป็นของสำนักงานบริพัตร ต่อมาทางสำนักงานบริพัตรได้ขายต่อให้กลุ่มบริษัท ทีซีซี ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จากนั้นพ่อของตนก็ไปลงทุนเปิดร้านใหม่ที่บริเวณแยกวัดตึก ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านเก่า เพื่อเตรียมตัวย้ายจากร้านเดิมที่ถูกไล่ที่ โดยให้ย้ายออกภายในเดือนก.ย.2557 แต่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาบอกเมื่อประมาณต้นปีว่าให้ย้ายออกภายในเดือนก.ค.2557 ส่วนร้านใหม่ ได้ลงทุนไปประมาณ 10 ล้านบาท ตั้งได้ประมาณ 2 ปีแล้ว และล่าสุดทางบริษัท ทีซีซี ก็ได้เข้ามาซื้อที่เช่นเดียวกัน โดยมีกำหนดให้ย้ายออกในปี 2560 ตนคิดว่าพ่อของตนคงกังวลและเครียดกับเรื่องเงินที่ลงทุนไป เมื่อถึงกำหนดย้ายออกยังไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป
กำลังโหลดความคิดเห็น