ASTV ผู้จัดการรายวัน – สมาคมนักวิเคราะห์ หั่นเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทย สิ้นปี 57 อยู่ที่ 1,473 จุด ลดลงจากการประเมินครั้งก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,534 จุด ปัจจัยเสี่ยงหลักมาจากการเมืองยืดเยื้อกดดันอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ กระทบให้มีการปรับลดคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนลงเหลือ 11.0% จากคาดการณ์เดิมที่ 12.1% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 20.89 จุด ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ ชี้บาทแข็งหนุน-การเมืองดีขึ้น คาดพรุ่งนี้ขึ้นต่อ กรอบ 1,378-1,404 จุด
นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนปี 2557 ปรากฏว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ดัชนี SET ณ สิ้นปี 2557 ทรงตัวอยู่ที่ 1,473 จุด ใกล้เคียงคาดการณ์เดิมในช่วงต้นปีที่ 1,472 จุด แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่สำรวจเมื่อปลายปี 2556 ซึ่งอยู่ที่เฉลี่ย 1,534 จุด
ผลสำรวจระบุปัจจัยเสี่ยงหลักของตลาดหุ้นไทย คือการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และความเสี่ยงทางการเมืองในไตรมาส 2 โดยปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้คือ การปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 2557 ในขณะที่การสำรวจครั้งก่อนมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการชะลอหรือยกเลิกมาตรการ QE ของสหรัฐด้วย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังประเมินว่าสหรัฐฯ จะทยอยตัดลด QE จนหมดภายในสิ้นปี 2557 และจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่เกินไตรมาส 3/58
ขณะเดียวกัน สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ทั้งปี 2557 ลงเหลือเฉลี่ย 2.4% จากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.9% พร้อมกันนี้ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น หรือ EPS ทั้งปี 2557 ลงเหลือ 11.0% จากคาดการณ์เดิมที่ 12.1%
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 ที่ระดับ 1,396.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด เปลี่ยนแปลง+1.52% มูลค่าการซื้อขาย 49,965.33 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,396.04 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,380.74 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 183.73 ล้านบาท ทำให้คาดหวังว่ามีความเป็นไปได้ที่ Flow จะไหลกลับเข้ามา ประกอบกับช่วงนี้เงินบาทก็แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป สรุปความเคลื่อนไหวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนบวกตามดาวโจนส์ทำ New High โดยตลาดบ้านเรามีความเป็นไปได้ที่จะรับ Flow ไหลกลับเข้ามาบางส่วน ประกอบกับเงินบาทก็แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภาพการเมืองที่ยังอึมครึม นักลงทุนยังต้องรอผลสรุปการหารือร่วมระหว่างวุฒิสภากับองค์กรอิสระและภาคเอกชนในวันศุกร์ นี้ว่าผลจะ และพรุ่งนี้ทางรัฐบาลก็จะหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เกี่ยวกับการจัดเลือกตั้งใหม่ที่ได้เลื่อนการหารือออกไปจากบ่ายวันนี้ พร้อมคาดแนวโน้มดัชนีวันพรุ่งนี้ ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ระหว่างทางอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,378 จุด แนวต้าน 1,404 จุด
ขณะเดียวกันสมาคมนักวิเคราะห์ แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยเน้นหุ้นที่ผลประกอบการยังเติบโตได้ดี แม้มีปัญหาทางการเมือง มีความทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว หรืออิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยทยอยสะสมในจังหวะที่ภาพรวมตลาดปรับตัวลดลงจากผลกระทบของการเมือง
นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนปี 2557 ปรากฏว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ดัชนี SET ณ สิ้นปี 2557 ทรงตัวอยู่ที่ 1,473 จุด ใกล้เคียงคาดการณ์เดิมในช่วงต้นปีที่ 1,472 จุด แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่สำรวจเมื่อปลายปี 2556 ซึ่งอยู่ที่เฉลี่ย 1,534 จุด
ผลสำรวจระบุปัจจัยเสี่ยงหลักของตลาดหุ้นไทย คือการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และความเสี่ยงทางการเมืองในไตรมาส 2 โดยปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้คือ การปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 2557 ในขณะที่การสำรวจครั้งก่อนมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการชะลอหรือยกเลิกมาตรการ QE ของสหรัฐด้วย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังประเมินว่าสหรัฐฯ จะทยอยตัดลด QE จนหมดภายในสิ้นปี 2557 และจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่เกินไตรมาส 3/58
ขณะเดียวกัน สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ทั้งปี 2557 ลงเหลือเฉลี่ย 2.4% จากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.9% พร้อมกันนี้ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น หรือ EPS ทั้งปี 2557 ลงเหลือ 11.0% จากคาดการณ์เดิมที่ 12.1%
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 ที่ระดับ 1,396.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด เปลี่ยนแปลง+1.52% มูลค่าการซื้อขาย 49,965.33 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,396.04 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,380.74 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 183.73 ล้านบาท ทำให้คาดหวังว่ามีความเป็นไปได้ที่ Flow จะไหลกลับเข้ามา ประกอบกับช่วงนี้เงินบาทก็แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป สรุปความเคลื่อนไหวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนบวกตามดาวโจนส์ทำ New High โดยตลาดบ้านเรามีความเป็นไปได้ที่จะรับ Flow ไหลกลับเข้ามาบางส่วน ประกอบกับเงินบาทก็แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภาพการเมืองที่ยังอึมครึม นักลงทุนยังต้องรอผลสรุปการหารือร่วมระหว่างวุฒิสภากับองค์กรอิสระและภาคเอกชนในวันศุกร์ นี้ว่าผลจะ และพรุ่งนี้ทางรัฐบาลก็จะหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เกี่ยวกับการจัดเลือกตั้งใหม่ที่ได้เลื่อนการหารือออกไปจากบ่ายวันนี้ พร้อมคาดแนวโน้มดัชนีวันพรุ่งนี้ ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ระหว่างทางอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,378 จุด แนวต้าน 1,404 จุด
ขณะเดียวกันสมาคมนักวิเคราะห์ แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยเน้นหุ้นที่ผลประกอบการยังเติบโตได้ดี แม้มีปัญหาทางการเมือง มีความทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว หรืออิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยทยอยสะสมในจังหวะที่ภาพรวมตลาดปรับตัวลดลงจากผลกระทบของการเมือง