สถานการณ์การเมืองขมวดปมเข้ามาทุกที ทางออกล่าสุดที่ถูกชูขึ้นมาคือ การตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ
การผลักดันนายกฯ คนกลาง ได้รับการตอบรับจากวุฒิสภา โดยเฉพาะนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานวุฒิสภา ซึ่งรับเป็นเจ้าภาพประสานกับส่วนต่างๆ เพื่อหารือกำหนดแนวทาง
แต่พรรคเพื่อไทยประกาศอย่างแข็งกร้าว ไม่ยอมรับนายกฯ คนกลาง และยืนยันการเป็นรัฐบาลรักษาการ ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงออกมาขู่ถึงวิกฤตทางการเมือง ถ้ามีการประกาศชื่อนายกฯ คนกลาง
สำหรับกองทัพแสดงจุดยืนขอวางตัวเป็นกลางต่อไป ไม่เข้าข้างฝ่ายไหน ทั้งที่สามารถกำหนดท่าทีที่ชัดเจน เพื่อร่วมแก้วิกฤตของประเทศได้
การที่กองทัพพยายามลอยตัวเหนือความขัดแย้ง เป็นเพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ต้องการประคับประคองตัว ไม่เป็นศัตรูกับใคร และใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขหลังเกษียณ หรือกลัวคำขู่ของคนเสื้อแดง ไม่มีใครทราบได้
แต่การนำกองทัพอยู่เหนือปัญหา ขณะที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ไม่น่าจะเป็นการแสดงสำนึกที่ดี
ไม่จำเป็นต้องขับรถถังออกมาทำรัฐประหาร แต่ในฐานะที่มีหน้าที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ดูแลความมั่นคง รักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้ประชาชน ทหารได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถหรือยัง
นักการเมืองพรรคเพื่อไทยหลายคนที่พูดจาจาบจ้วง แกนนำคนเสื้อแดงที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทหารได้กดดันเร่งรัดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีอย่างจริงจังเพียงใด
การทุจริตคอร์รัปชันซึ่งนำประเทศสู่หายนะ ทหารเคยออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านหมือนภาคประชาชนหรือไม่
และระเบิดเอ็ม 79 ที่ถล่มใส่สัญลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์กรอิสระ ฝ่ายตุลาการ หรือกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ทหารได้แต่ยืนดูเท่านั้นหรือ
ก่อนวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ ความหวังที่กองทัพจะยืนเคียงข้างกับประชาชน ร่วมฝ่าวิกฤตของประเทศคงริบหรี่เต็มที เพราะผบ.ทบ.คนนี้ เลือกแล้วที่จะว่ายน้ำท่า “ตีกรรเชียง” อีกเพียง 4 เดือนเศษจะเกษียณอายุแล้ว ขออยู่ในตำแหน่งสบายๆ ดีกว่า สังคมจะเป็นอย่างไร ถือว่าธุระไม่ใช่
ใครจะคิดหาทางออกของวิกฤตอย่างไร อย่าคาดหวังว่าทหารจะเข้ามาช่วย และสถานการณ์ขณะนี้แทบไม่มีความจำเป็นต้องให้ทหารเข้ามาช่วยด้วย
เพราะ “ตัวการ” ของปัญหาทั้งหลายทั้งปวง เหลือแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่อำนาจของรัฐบาลรักษาการก็เสื่อมลงไปทุกที กลายเป็นรัฐบาล “ขันที” ที่แทบไม่สามารถดำเนินธุรกรรมทางการเมืองได้
ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดง กองกำลังสำคัญที่เคยใช้ข่มขู่คุกคามสังคม ก็ร่อยหรออ่อนล้าเต็มที เห็นได้ชัดจากการระดมพลใหญ่ที่ถนนอักษะถึง 2 ครั้ง ปรากฏว่าปลุกมวลชนไม่ขึ้น ขนาดจัดซื้อจัดจ้าง คนเสื้อแดงยังมาร่วมชุมนุมอย่างบางตา แถมมีข่าวฉาวโฉ่วิ่งโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความเรื่องโกงค่าจ้างมาร่วมชุมนุมเสียอีก
ระบอบทักษิณเดินทางมาสู่วาระสุดท้ายแล้ว การล่มสลายของพรรคเพื่อไทยก็คืบคลานเข้ามา สิ่งที่ทำได้ขณะนี้คือการประวิงเวลา เพื่ออยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ควบคู่กับการใช้ความป่าเถื่อนคุกคามข่มขู่ฝ่ายต่างๆ โดยยิงเอ็ม 79 เป็นรายวัน
ทั้งที่รู้ว่า ไม่สามารถทำให้ใครหดหัวได้
การปฏิรูปการเมือง โดยเริ่มต้นที่การแต่งตั้งนายกฯ คนกลาง ไม่มีอะไรที่กังวลแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นขวากหนาม และไทมี่อะไรต้องกลัวพรรคเพื่อไทย
การที่พรรคเพื่อไทยอ้างข้อกฎหมาย การอ้างระบอบประชาธิปไตย เพื่อคัดค้านการตั้งนายกฯ คนกลางอย่างหัวชนฝา ไม่มีอะไรมากไปกว่าการกุมอำนาจให้ยาวนานที่สุด
เพื่อถ้าหลุดจากอำนาจ พรรคเพื่อไทยจะไม่มีโอกาสกลับมาได้อีก รัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องเข้าคิวติดคุกกันเป็นแถว แกนนำคนเสื้อแดงหลายสิบคนจะไม่มีแผ่นดินอยู่
ระบอบทักษิณจะถูกกวาดล้างไม่เหลือซาก และตระกูลชินวัตรอาจถูกลบจากประเทศไทย
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจึงกำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย
แต่จะทำอะไรได้ เพราะคำขู่การก่อสงครามการเมือง การปลุกระดมคนเสื้อแดงลุกฮือขึ้นมาสร้างความวุ่นวายขั้นแตกหัก ไม่มีใครกลัวแม้แต่น้อยนิด
คนเสื้อแดงที่คุยโวว่าจะขนมาเป็นล้านคนนั้น เดินไปดูที่ถนนอักษะช่วงกลางวัน จะได้พันคนหรือไม่ ถึงกลางคืนเต็มที่ก็ไม่กี่พันคน กองทัพคนเสื้อแดงเพียงหยิบมือเดียว จะคุกคามใครได้
จะปฏิรูปการเมืองอย่างไร เดินหน้ากันเต็มสูบเลย หนทางสะดวกแล้ว อย่าให้ราคากับพรรคเพื่อไทย อย่าหวั่นไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดง
เพราะสิ่งที่ระบอบทักษิณทำได้ขณะนี้เหลือเพียงปฏิบัติการยิงเอ็ม 79 คุกคาม และส่งเสียงขู่ไปวันๆ เท่านั้น ไม่มีน้ำยาทำอย่างอื่นอีกแล้ว
การผลักดันนายกฯ คนกลาง ได้รับการตอบรับจากวุฒิสภา โดยเฉพาะนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานวุฒิสภา ซึ่งรับเป็นเจ้าภาพประสานกับส่วนต่างๆ เพื่อหารือกำหนดแนวทาง
แต่พรรคเพื่อไทยประกาศอย่างแข็งกร้าว ไม่ยอมรับนายกฯ คนกลาง และยืนยันการเป็นรัฐบาลรักษาการ ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงออกมาขู่ถึงวิกฤตทางการเมือง ถ้ามีการประกาศชื่อนายกฯ คนกลาง
สำหรับกองทัพแสดงจุดยืนขอวางตัวเป็นกลางต่อไป ไม่เข้าข้างฝ่ายไหน ทั้งที่สามารถกำหนดท่าทีที่ชัดเจน เพื่อร่วมแก้วิกฤตของประเทศได้
การที่กองทัพพยายามลอยตัวเหนือความขัดแย้ง เป็นเพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ต้องการประคับประคองตัว ไม่เป็นศัตรูกับใคร และใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขหลังเกษียณ หรือกลัวคำขู่ของคนเสื้อแดง ไม่มีใครทราบได้
แต่การนำกองทัพอยู่เหนือปัญหา ขณะที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ไม่น่าจะเป็นการแสดงสำนึกที่ดี
ไม่จำเป็นต้องขับรถถังออกมาทำรัฐประหาร แต่ในฐานะที่มีหน้าที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ดูแลความมั่นคง รักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้ประชาชน ทหารได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถหรือยัง
นักการเมืองพรรคเพื่อไทยหลายคนที่พูดจาจาบจ้วง แกนนำคนเสื้อแดงที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทหารได้กดดันเร่งรัดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีอย่างจริงจังเพียงใด
การทุจริตคอร์รัปชันซึ่งนำประเทศสู่หายนะ ทหารเคยออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านหมือนภาคประชาชนหรือไม่
และระเบิดเอ็ม 79 ที่ถล่มใส่สัญลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์กรอิสระ ฝ่ายตุลาการ หรือกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ทหารได้แต่ยืนดูเท่านั้นหรือ
ก่อนวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ ความหวังที่กองทัพจะยืนเคียงข้างกับประชาชน ร่วมฝ่าวิกฤตของประเทศคงริบหรี่เต็มที เพราะผบ.ทบ.คนนี้ เลือกแล้วที่จะว่ายน้ำท่า “ตีกรรเชียง” อีกเพียง 4 เดือนเศษจะเกษียณอายุแล้ว ขออยู่ในตำแหน่งสบายๆ ดีกว่า สังคมจะเป็นอย่างไร ถือว่าธุระไม่ใช่
ใครจะคิดหาทางออกของวิกฤตอย่างไร อย่าคาดหวังว่าทหารจะเข้ามาช่วย และสถานการณ์ขณะนี้แทบไม่มีความจำเป็นต้องให้ทหารเข้ามาช่วยด้วย
เพราะ “ตัวการ” ของปัญหาทั้งหลายทั้งปวง เหลือแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่อำนาจของรัฐบาลรักษาการก็เสื่อมลงไปทุกที กลายเป็นรัฐบาล “ขันที” ที่แทบไม่สามารถดำเนินธุรกรรมทางการเมืองได้
ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดง กองกำลังสำคัญที่เคยใช้ข่มขู่คุกคามสังคม ก็ร่อยหรออ่อนล้าเต็มที เห็นได้ชัดจากการระดมพลใหญ่ที่ถนนอักษะถึง 2 ครั้ง ปรากฏว่าปลุกมวลชนไม่ขึ้น ขนาดจัดซื้อจัดจ้าง คนเสื้อแดงยังมาร่วมชุมนุมอย่างบางตา แถมมีข่าวฉาวโฉ่วิ่งโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความเรื่องโกงค่าจ้างมาร่วมชุมนุมเสียอีก
ระบอบทักษิณเดินทางมาสู่วาระสุดท้ายแล้ว การล่มสลายของพรรคเพื่อไทยก็คืบคลานเข้ามา สิ่งที่ทำได้ขณะนี้คือการประวิงเวลา เพื่ออยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ควบคู่กับการใช้ความป่าเถื่อนคุกคามข่มขู่ฝ่ายต่างๆ โดยยิงเอ็ม 79 เป็นรายวัน
ทั้งที่รู้ว่า ไม่สามารถทำให้ใครหดหัวได้
การปฏิรูปการเมือง โดยเริ่มต้นที่การแต่งตั้งนายกฯ คนกลาง ไม่มีอะไรที่กังวลแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นขวากหนาม และไทมี่อะไรต้องกลัวพรรคเพื่อไทย
การที่พรรคเพื่อไทยอ้างข้อกฎหมาย การอ้างระบอบประชาธิปไตย เพื่อคัดค้านการตั้งนายกฯ คนกลางอย่างหัวชนฝา ไม่มีอะไรมากไปกว่าการกุมอำนาจให้ยาวนานที่สุด
เพื่อถ้าหลุดจากอำนาจ พรรคเพื่อไทยจะไม่มีโอกาสกลับมาได้อีก รัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องเข้าคิวติดคุกกันเป็นแถว แกนนำคนเสื้อแดงหลายสิบคนจะไม่มีแผ่นดินอยู่
ระบอบทักษิณจะถูกกวาดล้างไม่เหลือซาก และตระกูลชินวัตรอาจถูกลบจากประเทศไทย
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจึงกำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย
แต่จะทำอะไรได้ เพราะคำขู่การก่อสงครามการเมือง การปลุกระดมคนเสื้อแดงลุกฮือขึ้นมาสร้างความวุ่นวายขั้นแตกหัก ไม่มีใครกลัวแม้แต่น้อยนิด
คนเสื้อแดงที่คุยโวว่าจะขนมาเป็นล้านคนนั้น เดินไปดูที่ถนนอักษะช่วงกลางวัน จะได้พันคนหรือไม่ ถึงกลางคืนเต็มที่ก็ไม่กี่พันคน กองทัพคนเสื้อแดงเพียงหยิบมือเดียว จะคุกคามใครได้
จะปฏิรูปการเมืองอย่างไร เดินหน้ากันเต็มสูบเลย หนทางสะดวกแล้ว อย่าให้ราคากับพรรคเพื่อไทย อย่าหวั่นไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดง
เพราะสิ่งที่ระบอบทักษิณทำได้ขณะนี้เหลือเพียงปฏิบัติการยิงเอ็ม 79 คุกคาม และส่งเสียงขู่ไปวันๆ เท่านั้น ไม่มีน้ำยาทำอย่างอื่นอีกแล้ว