xs
xsm
sm
md
lg

3 ทางเลือก"สุรชัย"ผ่าทางตัน ต้องมี"ดีลพิเศษ"กว่าที่เห็น!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ผลการประชุมสมาชิกวุฒิสภานัดพิเศษ วันที่สอง เมื่อวันอังคาร 13 พ.ค. ที่ผ่านมา การอภิปรายของ ส.ว.ทั้งสายเลือกตั้ง และสายสรรหา แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์การเมือง ยังคงหลากหลาย ตลอดเวลาสองชั่วโมง
ก่อนที่สุดท้าย สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา จะสั่งพักการประชุมแล้วก็ให้ ส.ว.ทั้งหมดไปปิดห้องคุยกันต่อ เมื่อช่วง 15.30 น. เพื่อนำคำอภิปรายต่างๆ ของส.ว.ทั้งหมดไปหารือลงลึกในรายละเอียด และแนวทางปฏิบัติว่าข้อเสนอต่างๆ ที่เสนอกันมา จะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหนในทางปฏิบัติ
**จึงต้องจับตากันต่อไปหลังจากนี้ว่า สุรชัย จะเล่นบทผู้นำในการหาทางออกให้กับการเมืองไทยได้อย่างไร และทำแล้วจะประสบความสำเร็จ หรือไม่
เนื่องจาก ฝ่ายรัฐบาล-พรรคเพื่อไทย และนปช.-คนเสื้อแดง ตั้งป้อมค้านสุดตัว ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับสุรชัย และวุฒิสภา
มี ส.ว.จำนวนไม่น้อยเสนอแนวทางในการประชุม ส.ว.นัดพิเศษ ไว้ว่า ต้องการให้สุรชัย และวุฒิสภา เล่นบท ผู้ประสานงาน-คนกลาง ในการเชิญชวนให้ “คู่ขัดแย้งทางการเมือง”ทุกฝ่ายมาร่วมเจรจาหาทางออกกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลรักษาการ-พรรคเพื่อไทย-พรรคประชาธิปัตย์-สุเทพ เทือกสุบรรณ และกปปส.- นปช.และคนเสื้อแดง และมี ส.ว.บางราย อย่าง วันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา ที่เป็นแกนนำส.ว.ที่มีแนวคิดให้มีการทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรี มาตรา7 ยังเสนอให้ สุรชัย ไปพบกับองคมนตรีแล้ว
ยังเสนอว่า ปัญหาการเมืองทุกอย่างจะจบได้ ไปคุยกับใครก็ไม่สำคัญเท่ากับต้องไปคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร เรียกว่าเป็นข้อเสนอที่แม้หลายคนจะเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องจริง แต่ก็ทำเอา ส.ว.จำนวนไม่น้อย ได้ยินแล้วอึ้งไปตามกัน
ทำให้ถึงตอนนี้ พอจะสรุปได้ว่า เนื้อหา-ประเด็นหลักๆ ที่ส.ว.หลายคนอภิปรายเสนอทางออกประเทศไทยกันในช่วง 12-13 พ.ค. ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องเสนอให้สุรชัย ใช้ความกล้าหาญในการผ่าทางตันประเทศไทย ด้วยการทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีตาม มาตรา 7 ซึ่งพบว่าแนวคิดดังกล่าว ได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ว.สรรหา จำนวนมาก ที่มีการอภิปรายเรื่องนี้ในที่ประชุมแล้ว
ก็ยังมีข้อเสนอให้ สุรชัย ทำหน้าที่เป็นเสมือน “คนกลาง” ในการเรียกคู่ขัดแย้งต่างๆ มานั่งร่วมโต๊ะพูดคุย เพื่อรับฟังข้อเสนอจากทุกกลุ่ม เช่น เรื่อง ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง หรือเลือกตั้งก่อนปฏิรูป แต่ละฝ่ายมีข้อเสนออย่างไร แล้วเจรจาหาทางออกร่วมกัน หรือ หากสุรชัย ไม่สะดวก เพราะบางฝ่ายอาจไม่ยอมรับ ก็ให้ใช้วิธีให้ วุฒิสภา ที่ถือเป็นองค์กรนิติบัญญัติองค์กรเดียวในเวลานี้เป็นเวทีกลาง ให้ทุกกลุ่มที่จะต้องมีหน่วยงานราชการ เช่น ตัวแทนกองทัพ ตัวแทนหน่วยงานราชการ ตัวแทนองค์กรอิสระ มาเสนอทางออก และข้อคิดเห็นต่อสถานการณ์เวลานี้ ว่าควรเดินไปอย่างไร
** ทั้ง 3 แนวทางหลัก ว่ากันตามจริงดูแล้ว ก็มีทั้งความเป็นไปได้ และความเป็นไปไม่ได้ แต่แนวทางให้ สุรชัย-วุฒิสภา เป็นคนกลาง-เวทีกลาง ในการเปิดให้แต่ละฝ่ายมาพูดคุยหาทางออกดูแล้ว เป็นแนวทางที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
แรงต้านแม้จะมีบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นแนวทางที่หลายฝ่ายยอมรับ และสนับสนุนมากกว่าจะให้ สุรชัย เล่นใช้วิธี ทูลเกล้าฯ เสนอนายกฯมาตรา 7 อย่างที่ สุเทพ และกปปส.ต้องการ
ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่ใกล้แตกหักแบบนี้ มีมุมมองว่าหากสุรชัย ไปเร่งทูลเกล้าฯ เสนอนายกฯ มาตรา7 จะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย กู่ไม่กลับ ยิ่งไปอีก แม้ในความเป็นจริง หลายคนก็เห็นตรงกันว่า สถานการณ์เวลานี้มันเลยจุดของการพูดคุย-เจรจากันไปแล้ว
เพราะยังไง สุเทพ-กปปส. ก็ไม่มีทางจะไปพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาล-พรรคเพื่อไทย-เสื้อแดงได้อีกแล้ว เพราะหากสุเทพทำ ก็เท่ากับเป็นการทำผิดในสิ่งที่ได้บอกกับมวลมหาประชาชนว่า จะไม่เจรจาพูดคุยกับฝ่ายไหนทั้งสิ้น ต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง และต้องได้รัฐบาลประชาชนอย่างเดียวเท่านั้น
เช่นเดียวกับฝ่ายเสื้อแดง-เพื่อไทย พรรคเพื่อไทยแม้ใจจริงก็ต้องการเจรจากับ กปปส.-ประชาธิปัตย์ แต่หากทำเช่นนั้นก็จะเสียทางการเมืองไม่น้อย โดยเฉพาะกับมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทย ที่จะมองว่าสถานการณ์เวลานี้ถูกรุกไล่อย่างหนักแล้วทำไมยังต้องไปเจรจาพูดคุยกับฝ่ายกปปส.-พรรคประชาธิปัตย์อีก มันต้องแตกหักสถานเดียว อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด
แนวทางที่เสนอให้ สุรชัย-วุฒิสภา เป็นคนกลางไปเจรจากับทุกกลุ่ม แม้แต่ระดับ องคมนตรี ประมุข 3 ศาล คือ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด โอกาสจะเกิดขึ้นยังมีอยู่ แต่จะต้องเป็น “ดีล” อะไรที่“พิเศษ” เหนือกว่าที่หลายคนคาดคิด เช่น ต้องมีมือประสานระดับซุปเปอร์คอนเน็กชั่น ที่แกนนำในแต่ละฝ่ายจะต้องเกรงใจลงมาช่วย สุรชัย ไม่เช่นนั้น ยากมากที่ สุรชัย จะทำการได้สำเร็จ
ส่วนเรื่อง นายกฯ มาตรา 7 แม้ส.ว.สรรหาจำนวนมากที่ช่วยเทเสียงให้ สุรชัยได้เป็นประธานวุฒิสภา จะพยายามบอกให้สุรชัย ใช้แนวทางนี้ไปเลย แต่ก็เชื่อว่า สุรชัย ถึงเวลาต้องตัดสินใจจริงๆ ก็ไม่ได้ฟังแค่ส.ว.ในกลุ่ม หรือฝ่ายกปปส.เท่านั้น คงต้องรอฟังสัญญาณอะไรหลายอย่างพอสมควร ถึงจะกล้าทำแบบนั้น
อย่างไรก็ดี หากฟังคำปราศรัยของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อค่ำวันที่ 12 พ.ค. หลังสุเทพไปเจอกับสุรชัย ที่รัฐสภา ตัวสุเทพ ก็บอกไว้แล้วว่า ถ้าวุฒิสภาดำเนินการเรื่องนายกฯ ให้ไม่ได้ ฝ่ายกปปส.ก็พร้อมจะทำเอง แสดงให้เห็นว่า กปปส.-มวลมหาประชาชน เองก็ไม่ได้ถึงกับขีดเส้นตายให้ สุรชัย ต้องทำเรื่องนี้ให้ได้
แม้ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 พ.ค. ฝ่ายกปปส. จะออกแถลงการณ์ว่า จากสถานการณ์ในเวลานี้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องหานายกฯ และรัฐบาลอำนาจเต็มมาทำหน้าที่โดยกปปส. บอกว่า วุฒิสภาเพียงองค์กรเดียวที่เป็นองค์กรโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นอำนาจโดยชอบธรรมที่วุฒิสภา จะเร่งหารัฐบาลใหม่มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จ่ายเงินให้ชาวนา และเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันเรียกร้องไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อให้หานายกฯ ตามความคาดหวังของประชาชนโดยทันที
**สำหรับประเด็นที่ “สุรชัย”บอกไว้ว่า ทุกอย่างจะจบภายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่บอกจะจบแบบไหน น่าจะทำให้เชื่อได้ว่า สุรชัย มีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่าจะทำอย่างไร เพียงแต่ขอรอประเมิน ผลดี-ผลเสียโดยละเอียด และรอบคอบ ต่อสิ่งที่จะตามมาเมื่อตัดสินใจลงไป
กำลังโหลดความคิดเห็น