00 นับจากวันนี้เป็นต้นไปต้องถือว่าเป็นวันระทึกใจกันจริงๆ โดยเฉพาะฝ่าย ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ชินวัตร สองพี่น้อง เริ่มจากวันที่ 6 พ.ค.ที่ ยิ่งลักษณ์ ต้องชี้แจงปิดคดีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากเลขาฯสมช. โดยมิชอบ รวมไปถึงคำชี้แจงของพยานคนสำคัญทั้งหมดต่อศาลรธน. เป็นเส้นตายที่ต้องทำในวันนั้น และในวันเดียวกันก็น่าจะรู้แล้วว่าศาลฯ จะนัดชี้ขาดออกมาวันไหน เป็นวันที่ 7-8-9 พ.ค. เป็นไปได้ทั้งสิ้น
00 แน่นอนตามคาดหมายแล้วว่า ยิ่งลักษณ์ ไม่กล้าเดินทางไปชี้แจงด้วยตัวเอง เหมือนกับกรณีที่ไม่ไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. ในคดีทุจริตจำนำข้าว สาเหตุก็ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่า "เธอไม่รู้เรื่อง" อะไรเลย กลัวพูดแล้วคนละเรื่อง ส่งผลลบยิ่งไปกันใหญ่ อย่างไรก็ดี ทั้งสองเรื่องดังกล่าวสร้างความหนักใจให้กับ ทักษิณ ชินวัตร ที่เชิดเธอเข้ามาเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเฉพาะหน้าหากโดนศาลรธน.ตัดสินว่าผิด ไม่ว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งแบบเฉพาะตัว หรือยกแก๊ง หรือไม่ก็ตาม ก็ต้องถือว่าพ้นจากเก้าอี้นายกฯ ทีนี้ก็ต้องมาลุ้นกันว่า จะหาวิธีผ่อนหนักให้เป็นเบาอย่างไรได้บ้าง สิ่งที่ต้องจับตาก็คือ เธอจะชิงลาออกจากเก้าอี้เสียก่อน ก่อนศาลฯ ตัดสินหรือไม่ อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการ "เซฟอำนาจ" ของครอบครัวเอาไว้ก่อน นั่นคือแต่งตั้งให้คนอื่นเข้ามารักษาการแทน ดีกว่ารอลุ้นคำสั่งศาลหรือไม่ เพราะถ้าเกิดผลออกมาให้พ้นไปทั้งุคณะก็จะยุ่งไปใหญ่ จะหลุดไปทั้งยวง ครั้นจะดื้อด้านไม่ยอมรับ คราวนี้ต้อง"โดนแน่"
00 สังเกตหรือไม่ว่า หลายเรื่องกำลังกระชับเข้ามาทุกที ทุกเรื่องขมวดปมเข้ามาประจวบเหมาะพร้อมๆ กัน อย่างเรื่องเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ที่เวลานี้มีองค์ประชุมเกินร้อยละ 95 แล้ว แม้ว่าจะมีวิชามารจากฝ่ายรัฐบาล เสนอพระราชกฤษฎีกาจำกัดกรอบให้มีวาระพิจารณาแค่สองเรื่องคือ ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง กับการแต่งตั้งกรรมการป.ป.ช. ที่ผ่านการสรรหา เท่านั้น พยายามสกัดไม่ให้มีเรื่องถอดถอนพวกอดีต "ส.ว.ทาส" ที่นำโดย นิคม ไวยรัชพานิช รวมไปถึงพยายามขัดขวางไม่ให้มีการโหวตเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภาคนใหม่ อ้างว่าอยู่นอกเหนือพระราชกฤษฎีกา แต่งานนี้ดูแล้วเห็นจะขวางยาก เพราะที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติ กำหนดวันเลือกตั้งประธาน ในวันที่ 9 พ.ค.ออกมาแล้ว ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้า ทั้งได้ตัวประธาน และรองคนใหม่ ซึ่งแนวโน้มน่าจะเป็น สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่สั่งซ้านหัน ขวาหันไม่ได้ แต่เชื่อว่าต้องชิงกับ ศรีเมือง เจริญศิริ สายตรงจากระบอบแม้ว ขี้ข้ารายใหม่ที่ส่งเข้าประกวด หรือ จองชัย เที่ยงธรรม จากสาย บรรหาร ศิลปอาชา ก็เป็นไปได้สูง
00 เอาเป็นว่า ถ้าผลออกมาตามที่คาด มันก็ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของระบอบทักษิณ เข้าอย่างจัง โดยเฉพาะกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากสมมุติว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดออกมา ก็จะเข้าสู่กระบวนการถอดถอน ก่อนที่จะไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป้าหมายถึง "คุก" แน่นอนว่าระบบการถ่วงดุล จะเริ่มกลับมา ไม่ใช่สภาทาสเหมือนก่อนหน้านี้ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้กำลังมีความพยายามขัดขวางทุกวิถีทาง ทั้งเรื่องการจำกัดกรองวาระการประชุม การขัดขวางไม่ให้มีการเลือกประธาน ส.ว. แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว ทุกอย่างก็ต้องดำเนินไปตามขั้นตอน หยุดไม่ได้แล้ว !!
00 วันที่ 5 พ.ค.ถือว่าเป็นวันมหามงคล "ฉัตรมงคล" ทาง กปปส. นำโดย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ มีกำหนดนัดหมายมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวง เพื่อทำพิธีอันมงคลเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลงมือขับไล่แก๊งโจรให้พ้นไปให้หมดสิ้น แน่นอนว่า จะได้เห็นสีเหลืองอร่ามไปหมด และนับจากนี้ไป ก็ใกล้ดีเดย์ไล่เสนียดจัญไรกันแล้ว !!
00 แน่นอนตามคาดหมายแล้วว่า ยิ่งลักษณ์ ไม่กล้าเดินทางไปชี้แจงด้วยตัวเอง เหมือนกับกรณีที่ไม่ไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. ในคดีทุจริตจำนำข้าว สาเหตุก็ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่า "เธอไม่รู้เรื่อง" อะไรเลย กลัวพูดแล้วคนละเรื่อง ส่งผลลบยิ่งไปกันใหญ่ อย่างไรก็ดี ทั้งสองเรื่องดังกล่าวสร้างความหนักใจให้กับ ทักษิณ ชินวัตร ที่เชิดเธอเข้ามาเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเฉพาะหน้าหากโดนศาลรธน.ตัดสินว่าผิด ไม่ว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งแบบเฉพาะตัว หรือยกแก๊ง หรือไม่ก็ตาม ก็ต้องถือว่าพ้นจากเก้าอี้นายกฯ ทีนี้ก็ต้องมาลุ้นกันว่า จะหาวิธีผ่อนหนักให้เป็นเบาอย่างไรได้บ้าง สิ่งที่ต้องจับตาก็คือ เธอจะชิงลาออกจากเก้าอี้เสียก่อน ก่อนศาลฯ ตัดสินหรือไม่ อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการ "เซฟอำนาจ" ของครอบครัวเอาไว้ก่อน นั่นคือแต่งตั้งให้คนอื่นเข้ามารักษาการแทน ดีกว่ารอลุ้นคำสั่งศาลหรือไม่ เพราะถ้าเกิดผลออกมาให้พ้นไปทั้งุคณะก็จะยุ่งไปใหญ่ จะหลุดไปทั้งยวง ครั้นจะดื้อด้านไม่ยอมรับ คราวนี้ต้อง"โดนแน่"
00 สังเกตหรือไม่ว่า หลายเรื่องกำลังกระชับเข้ามาทุกที ทุกเรื่องขมวดปมเข้ามาประจวบเหมาะพร้อมๆ กัน อย่างเรื่องเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ที่เวลานี้มีองค์ประชุมเกินร้อยละ 95 แล้ว แม้ว่าจะมีวิชามารจากฝ่ายรัฐบาล เสนอพระราชกฤษฎีกาจำกัดกรอบให้มีวาระพิจารณาแค่สองเรื่องคือ ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง กับการแต่งตั้งกรรมการป.ป.ช. ที่ผ่านการสรรหา เท่านั้น พยายามสกัดไม่ให้มีเรื่องถอดถอนพวกอดีต "ส.ว.ทาส" ที่นำโดย นิคม ไวยรัชพานิช รวมไปถึงพยายามขัดขวางไม่ให้มีการโหวตเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภาคนใหม่ อ้างว่าอยู่นอกเหนือพระราชกฤษฎีกา แต่งานนี้ดูแล้วเห็นจะขวางยาก เพราะที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติ กำหนดวันเลือกตั้งประธาน ในวันที่ 9 พ.ค.ออกมาแล้ว ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้า ทั้งได้ตัวประธาน และรองคนใหม่ ซึ่งแนวโน้มน่าจะเป็น สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่สั่งซ้านหัน ขวาหันไม่ได้ แต่เชื่อว่าต้องชิงกับ ศรีเมือง เจริญศิริ สายตรงจากระบอบแม้ว ขี้ข้ารายใหม่ที่ส่งเข้าประกวด หรือ จองชัย เที่ยงธรรม จากสาย บรรหาร ศิลปอาชา ก็เป็นไปได้สูง
00 เอาเป็นว่า ถ้าผลออกมาตามที่คาด มันก็ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของระบอบทักษิณ เข้าอย่างจัง โดยเฉพาะกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากสมมุติว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดออกมา ก็จะเข้าสู่กระบวนการถอดถอน ก่อนที่จะไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป้าหมายถึง "คุก" แน่นอนว่าระบบการถ่วงดุล จะเริ่มกลับมา ไม่ใช่สภาทาสเหมือนก่อนหน้านี้ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้กำลังมีความพยายามขัดขวางทุกวิถีทาง ทั้งเรื่องการจำกัดกรองวาระการประชุม การขัดขวางไม่ให้มีการเลือกประธาน ส.ว. แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว ทุกอย่างก็ต้องดำเนินไปตามขั้นตอน หยุดไม่ได้แล้ว !!
00 วันที่ 5 พ.ค.ถือว่าเป็นวันมหามงคล "ฉัตรมงคล" ทาง กปปส. นำโดย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ มีกำหนดนัดหมายมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวง เพื่อทำพิธีอันมงคลเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลงมือขับไล่แก๊งโจรให้พ้นไปให้หมดสิ้น แน่นอนว่า จะได้เห็นสีเหลืองอร่ามไปหมด และนับจากนี้ไป ก็ใกล้ดีเดย์ไล่เสนียดจัญไรกันแล้ว !!
