**บอกได้คำเดียวว่า บรรยากาศยามนี้อยู่ในช่วงของการรอคอยด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากเมื่อพิจารณาตามปฏิทินแล้ว ถือว่าทุกอย่างกำลังขมวดปมเข้ามาจนแน่น ทำให้หลายคนรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง บอกไม่ถูก
เริ่มจากทางฝ่ายพรรคเพื่อไทย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของระบอบทักษิณ ที่กำลังอยู่ในอาการหวาดผวาอย่างหนักว่าจะต้องสูญเสียอำนาจและถูกขับไล่ให้พ้นไป ซึ่งแนวโน้มดูเหมือนว่ากำลังเป็นไปทางที่พวกเขากังวลนั่นแหละ ทุกอย่างไม่มีทางเป็นใจเลย
สิ่งที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายกำลังกังวลมากที่สุด เห็นจะได้แก่คำสั่งชี้ขาดขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่มีการเปิดเผยออกมาจากกรรมการ ป.ป.ช.ที่ดูแลคดีทุจริตจำนำข้าว วิชา มหาคุณ ว่าในราวกลางเดือนพฤษภาคม จะมีการชี้มูลความผิดออกมาแล้ว
**ซึ่งคดีที่ป.ป.ช.แม้ว่าอาจจะเห็นผลช้ากว่า สมมุติว่าถูกชี้มูลความผิด ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯ ทันที แม้ว่าจะยังมีคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ มีการแต่งตั้งรองนายกฯ คนใดคนหนึ่งขึ้นมาทำชหน้าที่แทนได้ อย่างไรก็ดีปัญหาใหญ่กว่านั้นก็คือ ปลายทางของคดีดังกล่าวคือ "คุก" แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่นานเกินรอคอยนัก เพราะเข้าสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องแบบนี้แหละที่ ทักษิณ ชินวัตร จะไม่ยอมให้ น้องสาวของเขาต้องติดคุกเป็นอันขาด
จึงเป็นที่มาของการทำทุกวิถีทางทั้งยื้อ ทั้งข่มขู่คุกคาม ดิสเครดิตทำลายทุกอย่าง แต่มาถึงตอนนี้ทุกอย่างที่ทำมาไม่ได้ผล เพราะป.ป.ช.ยังมั่นคงไม่หวั่นไหว และเดินหน้าพิจารณาไปตามปกติ ขณะเดียวกันยังกำหราบบรรดาลิ่วล้อของเครือข่ายทักษิณ ล่าสุดได้ดำเนินคดีกับทนายความของ ยิ่งลักษณ์ ที่บังอาจข่มขู่ป.ป.ช. ที่ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมาย ทำให้เวลานี้ฝ่ายโน้นต้องเงียบเสียงลงไปบ้างแล้ว ซึ่งบางทีอาจเป็นเพราะยังมีเรื่องที่เร่งด่วน น่าหวาดเสียวแบบเฉพาะหน้าที่ต้องเผชิญในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ก็ได้
ใช่แล้ว สิ่งที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องเผชิญหน้ากันก็คือ คดีในศาลรัฐธรรมนูญ กรณีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมิชอบ ซึ่งที่ผ่านมาศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดออกมาแล้วว่า ยิ่งลักษณ์ ทำผิด ทำให้มีการคาดเดาได้ไม่ยากว่า เธอต้อง "โดนแน่" และที่สำคัญ คดีดังกล่าวมีเพียงข้อเท็จจริงทางกฎหมายเท่านั้น อาจมีการไต่สวนพยานบ้างไม่กี่ปาก ก็สามารถสรุปและออกคำสั่งออกมาได้แล้ว ซึ่งตามกำหนดเวลาที่ระบุออกมาแล้วว่า ในวันที่ 6 พฤษภาคม ที่มีกำหนดให้ ยิ่งลักษณ์ ต้องแถลงชี้แจงก่อนปิดคดี โดยนาทีนี้ ก็รับรู้กันแล้วว่า เธอไม่ไป แต่ส่งทนายไปแทน จากนั้นก็ให้จับตาวันที่ 7-8-9 พฤษภาคม ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินออกมาหรือไม่ ซึ่งหลายคนก็คาดการณ์กันว่า เป็นไปได้
แต่คำถามก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ออกมาทางไหน ระหว่างชี้ให้ ยิ่งลักษณ์รอด หรือว่า ให้พ้นจากตำแหน่งเฉพาะตัว หรือว่าพ้นไปทั้งคณะ ซึ่งกระบวนการต้องจบในกลางเดือนนี้
**สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะตัดสินใจอย่างไร จะยอมรอรับชะตากรรมจนถึงตอนนั้นหรือเปล่า แม้ว่าในความเป็นจริงเธอคงไม่มีสติปัญญาพอที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวเองก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่ต้องจับตากันก็คือ เธอจะถูกสั่งให้ชิงลาออกจากตำแหน่งนายกฯไปก่อนที่ศาลฯ จะตัดสินหรือเปล่า เพราะเหมือนกับว่าเป็นการ "ตัดเกม" เสียก่อน อย่างน้อยก็เป็นการรักษาอำนาจของครอบครัวเอาไว้
วิธีการก็คือ เมื่อยิ่งลักษณ์ ลาออกแล้วจะแต่งตั้งรองนายกฯ คนใดคนหนึ่งขึ้นมารักษาการแทน เพื่อดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งมีการกำหนดร่วมกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ไว้แล้วว่า ต้องเกิดขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม อย่างน้อยก็เป็นการยื้ออำนาจได้ไปอีกสักพัก เพราะถ้าจะว่าไปแล้วนาทีนี้จะใช้วิธีดื้อแพ่ง กอดเก้าอี้หลังจากศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งไม่ได้อีกแล้ว เพราะถ้าทำแบบนั้น ยิ่งทำให้เกิดเป็นเงื่อนไขยั่วยุให้มวลมหาประชาชนออกมาไล่กันแบบไม่มีที่ยืนกันทั้งโคตร เป็นไปได้สูง
เพราะตามกำหนดเวลาในวันที่ 14 พษภาคมทาง กปปส. ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ กำหนดดีเดย์เผด็จศึกซ้ำเข้ามาอีก ซึ่งหากพิจารณาจากวันเวลาแล้วก็เหมือนกับว่ารอให้ศาลชี้ขาดออกมาก่อน เมื่อยังขัดขืนไม่ยอมออก ถึงตอนนั้นก็มีความชอบธรรมที่จะต้องจัดการให้เด็ดขาด รวมไปถึงนายทหารในกองทัพที่อาจใช้เงื่อนไข "กติกา" เคลื่อนกำลังออกมาบังคับ
**นี่คือโอกาสที่เป็นไปได้ไม่น้อยที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะชิงลาออกเสียก่อนเพื่อยื้ออำนาจ !!
เริ่มจากทางฝ่ายพรรคเพื่อไทย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของระบอบทักษิณ ที่กำลังอยู่ในอาการหวาดผวาอย่างหนักว่าจะต้องสูญเสียอำนาจและถูกขับไล่ให้พ้นไป ซึ่งแนวโน้มดูเหมือนว่ากำลังเป็นไปทางที่พวกเขากังวลนั่นแหละ ทุกอย่างไม่มีทางเป็นใจเลย
สิ่งที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายกำลังกังวลมากที่สุด เห็นจะได้แก่คำสั่งชี้ขาดขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่มีการเปิดเผยออกมาจากกรรมการ ป.ป.ช.ที่ดูแลคดีทุจริตจำนำข้าว วิชา มหาคุณ ว่าในราวกลางเดือนพฤษภาคม จะมีการชี้มูลความผิดออกมาแล้ว
**ซึ่งคดีที่ป.ป.ช.แม้ว่าอาจจะเห็นผลช้ากว่า สมมุติว่าถูกชี้มูลความผิด ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯ ทันที แม้ว่าจะยังมีคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ มีการแต่งตั้งรองนายกฯ คนใดคนหนึ่งขึ้นมาทำชหน้าที่แทนได้ อย่างไรก็ดีปัญหาใหญ่กว่านั้นก็คือ ปลายทางของคดีดังกล่าวคือ "คุก" แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่นานเกินรอคอยนัก เพราะเข้าสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องแบบนี้แหละที่ ทักษิณ ชินวัตร จะไม่ยอมให้ น้องสาวของเขาต้องติดคุกเป็นอันขาด
จึงเป็นที่มาของการทำทุกวิถีทางทั้งยื้อ ทั้งข่มขู่คุกคาม ดิสเครดิตทำลายทุกอย่าง แต่มาถึงตอนนี้ทุกอย่างที่ทำมาไม่ได้ผล เพราะป.ป.ช.ยังมั่นคงไม่หวั่นไหว และเดินหน้าพิจารณาไปตามปกติ ขณะเดียวกันยังกำหราบบรรดาลิ่วล้อของเครือข่ายทักษิณ ล่าสุดได้ดำเนินคดีกับทนายความของ ยิ่งลักษณ์ ที่บังอาจข่มขู่ป.ป.ช. ที่ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมาย ทำให้เวลานี้ฝ่ายโน้นต้องเงียบเสียงลงไปบ้างแล้ว ซึ่งบางทีอาจเป็นเพราะยังมีเรื่องที่เร่งด่วน น่าหวาดเสียวแบบเฉพาะหน้าที่ต้องเผชิญในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ก็ได้
ใช่แล้ว สิ่งที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องเผชิญหน้ากันก็คือ คดีในศาลรัฐธรรมนูญ กรณีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมิชอบ ซึ่งที่ผ่านมาศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดออกมาแล้วว่า ยิ่งลักษณ์ ทำผิด ทำให้มีการคาดเดาได้ไม่ยากว่า เธอต้อง "โดนแน่" และที่สำคัญ คดีดังกล่าวมีเพียงข้อเท็จจริงทางกฎหมายเท่านั้น อาจมีการไต่สวนพยานบ้างไม่กี่ปาก ก็สามารถสรุปและออกคำสั่งออกมาได้แล้ว ซึ่งตามกำหนดเวลาที่ระบุออกมาแล้วว่า ในวันที่ 6 พฤษภาคม ที่มีกำหนดให้ ยิ่งลักษณ์ ต้องแถลงชี้แจงก่อนปิดคดี โดยนาทีนี้ ก็รับรู้กันแล้วว่า เธอไม่ไป แต่ส่งทนายไปแทน จากนั้นก็ให้จับตาวันที่ 7-8-9 พฤษภาคม ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินออกมาหรือไม่ ซึ่งหลายคนก็คาดการณ์กันว่า เป็นไปได้
แต่คำถามก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ออกมาทางไหน ระหว่างชี้ให้ ยิ่งลักษณ์รอด หรือว่า ให้พ้นจากตำแหน่งเฉพาะตัว หรือว่าพ้นไปทั้งคณะ ซึ่งกระบวนการต้องจบในกลางเดือนนี้
**สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะตัดสินใจอย่างไร จะยอมรอรับชะตากรรมจนถึงตอนนั้นหรือเปล่า แม้ว่าในความเป็นจริงเธอคงไม่มีสติปัญญาพอที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวเองก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่ต้องจับตากันก็คือ เธอจะถูกสั่งให้ชิงลาออกจากตำแหน่งนายกฯไปก่อนที่ศาลฯ จะตัดสินหรือเปล่า เพราะเหมือนกับว่าเป็นการ "ตัดเกม" เสียก่อน อย่างน้อยก็เป็นการรักษาอำนาจของครอบครัวเอาไว้
วิธีการก็คือ เมื่อยิ่งลักษณ์ ลาออกแล้วจะแต่งตั้งรองนายกฯ คนใดคนหนึ่งขึ้นมารักษาการแทน เพื่อดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งมีการกำหนดร่วมกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ไว้แล้วว่า ต้องเกิดขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม อย่างน้อยก็เป็นการยื้ออำนาจได้ไปอีกสักพัก เพราะถ้าจะว่าไปแล้วนาทีนี้จะใช้วิธีดื้อแพ่ง กอดเก้าอี้หลังจากศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งไม่ได้อีกแล้ว เพราะถ้าทำแบบนั้น ยิ่งทำให้เกิดเป็นเงื่อนไขยั่วยุให้มวลมหาประชาชนออกมาไล่กันแบบไม่มีที่ยืนกันทั้งโคตร เป็นไปได้สูง
เพราะตามกำหนดเวลาในวันที่ 14 พษภาคมทาง กปปส. ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ กำหนดดีเดย์เผด็จศึกซ้ำเข้ามาอีก ซึ่งหากพิจารณาจากวันเวลาแล้วก็เหมือนกับว่ารอให้ศาลชี้ขาดออกมาก่อน เมื่อยังขัดขืนไม่ยอมออก ถึงตอนนั้นก็มีความชอบธรรมที่จะต้องจัดการให้เด็ดขาด รวมไปถึงนายทหารในกองทัพที่อาจใช้เงื่อนไข "กติกา" เคลื่อนกำลังออกมาบังคับ
**นี่คือโอกาสที่เป็นไปได้ไม่น้อยที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะชิงลาออกเสียก่อนเพื่อยื้ออำนาจ !!