ดูเหมือนข้อเสนอ 9 ข้อที่จะเป็นทางออกของประเทศโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้รับความสนใจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สักเท่าใดนัก ไม่น่าจะอ่านจนจบทั้ง 9 ข้อ เจอที่ให้รัฐบาลลาออกเพื่อที่จะได้รัฐบาลคนกลางมาปฏิรูป ก็เชื่อว่านางสาวยิ่งลักษณ์ก็คงจะไม่อ่านข้ออื่น
ข้อเสนอเพียงข้อแรกนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ก็พอจะบอกได้แล้วว่า ไม่มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญข้อไหนที่จะมาให้นางลาออก ถ้านางจะลาออกก็ต้องลาออกไปนานแล้ว ไม่ต้องรอข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์แต่อย่างใด ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2556 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และบรรดาคนสำคัญๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการ แพทย์ พยาบาล ออกมาปักหลักคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน แล้วพัฒนามาเป็นมวลมหาประชาชนคัดค้านระบอบทักษิณเป็นเวลากว่า 6 เดือนมาแล้ว ตั้งแต่หน้าฝนเข้าหน้าหนาวผ่านหน้าแล้ง นี่กำลังเริ่มหน้าฝนอีกแล้ว ทำทุกอย่างทั้งเดินขบวน ปิดกรุงเทพฯ ยึดสถานที่ราชการ ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดกระทรวงมหาดไทย ยึดศาลากลางจังหวัด นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ยังอยู่เป็นปกติ
ตั้งแต่ประเทศไทยมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เรื่อยมาจนถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดโดนประชาชนก่นด่าโขกสับ อย่างที่นางสาวยิ่งลักษณ์โดนมาก่อน ตลอดเวลากว่า 6 เดือนมานี้นางถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกวัน เป็นการอภิปรายนอกสภาฯ ไม่มีประธานสภาฯ (ซึ่งปกติก็เป็นฝ่ายรัฐบาล) ทำหน้าที่ควบคุมการประชุม ไม่มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคอยประท้วงหรือขัดจังหวะผู้อภิปราย แต่อย่างใด ซ้ำการอภิปรายนั้นถ่ายทอดให้ประชาชนไทยได้รับชมทั่วประเทศ ทั่วโลก
เป็นนายกรัฐมนตรีคนอื่นลาออกไปนานแล้ว แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทนได้ ไม่รู้สึกรู้สาแต่อย่างใด
ข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ จะทำให้นางระคายได้อย่างไร
อาการไม่รู้สึกรู้สาของนางทำให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ต้องออกมาร้องเตือน
นายชวนนท์ แถลงข่าวเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจเกี่ยวกับแผนเดินหน้า 10 ขั้นแก้ปัญหาประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์เปิดเผยโรดแมปมาแล้ว 48 ชั่วโมง สังคมไทยก็ได้รับรู้ว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งลดความขัดแย้งและแก้วิกฤตประเทศให้มีทางออกเป็นรูปธรรมและยังกำหนดเวลาดำเนินการได้แน่นอนในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง แต่ก็ยังไม่ได้ยินจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ว่าจะให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวอย่างไร ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ได้จัดทำข้อเสนอ 10 ขั้นตอนที่จำเป็นต้องได้รับความเห็นและความร่วมมือจากนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นสำคัญในการขับเคลื่อนดังกล่าว
“เสียดายที่เรายังไม่ได้ยินความเห็นของคุณยิ่งลักษณ์ แต่กลับเห็นคนที่ไม่ได้มีอำนาจเกี่ยวข้อง ไม่มีหน้าที่ความสำคัญออกมาตอบโต้เพื่อลดความน่าเชื่อถือคุณอภิสิทธิ์ โดยผู้ที่ออกมาตอบโต้ทุกคนเป็นคนฝั่งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยและได้ประโยชน์จากระบอบทักษิณ” นายชวนนท์ กล่าวและว่า ขณะนี้ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยพยายามทำตัวเป็นแกะดำที่มีพิษภัยต่อสังคมมาก ไม่ใช่แค่คิดแตกต่าง แต่พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลกำลังลากสังคมไทยสู่จุดอับเพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้กับตนเอง โดยโจมตีว่าข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ในขณะที่หลายส่วนในสังคมช่วยกันทำให้เกิดโรดแมปนี้
ขณะที่นายชวนนท์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงยืนยันว่าโรดแมปของนายอภิสิทธิ์ไม่ใช่การฉีกรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน แต่โรดแมปดังกล่าวจะเป็นการป้องกันไม่ให้มีการนองเลือดรุนแรง หลีกเลี่ยงการปฏิวัติรัฐประหาร และไม่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทที่จะปล่อยให้มีการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์แก้ปัญหาการเมือง
ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่มาก ก็ขอเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ตัดสินใจโดยมองข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ด้วยใจเป็นมิตรสักครั้ง เพราะเราต้องการให้ประเทศมีทางออกจริงๆ อย่าไปฟังสมุนที่ออกมาแนะนำซึ่งกำลังจะพานางสาวยิ่งลักษณ์สู่จุดตาย โดยหลายคนที่ออกมาให้คำแนะนำนั้น เมื่อปี 2549 ที่มีการรัฐประหาร ก็ได้สละเรือหนีพรรคไทยรักไทยไป และเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ มีอำนาจอีกครั้ง คนเหล่านั้นก็กลับมาเกาะอำนาจอีก ตนอยากให้นางสาวยิ่งลักษณ์ตาสว่าง ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มาก ก่อนที่จะมีการประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ (6 พฤษภาคม ) นางสาวยิ่งลักษณ์ มีเวลาประมาณ 24 ชั่วโมงที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ ว่าจะเลือกร่วมมือในการดำเนินการตามโรดแมป หลีกเลี่ยงความเสียหายให้กับประชาชนคนไทยหรือจะปล่อยให้ประชุม ครม.เดินหน้าเสนอพิจารณาออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ก็เท่ากับ นางสาวยิ่งลักษณ์ปิดประตูประเทศ และปิดประตูใส่หน้าตัวเองให้ติดกับดัก ทั้งที่รู้ว่าแม้จะให้จัดเลือกตั้งแต่ก็อาจไม่สามารถเลือกตั้งได้สำเร็จอีก ดังนั้นทำไมจึงไม่เลือกวิธีว่าจะทำให้อีก 5-6 เดือนสถานการณ์กลับคืนสู่ความเรียบร้อย
ต่อให้นายอภิสิทธิ์ ต่อให้นายชวนนท์ร้องจนคอหอยแตก ก็เชื่อว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่สนใจ นางมั่นใจอยู่แต่ว่า นางมาจากการเลือกตั้ง นางมาจากประชาธิปไตย นางพร้อมจะตายเพื่อประชาธิปไตย
ชาติบ้านเมือง ประชาชนจะเป็นอย่างไร นางหาได้สนใจไม่
ข้อเสนอเพียงข้อแรกนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ก็พอจะบอกได้แล้วว่า ไม่มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญข้อไหนที่จะมาให้นางลาออก ถ้านางจะลาออกก็ต้องลาออกไปนานแล้ว ไม่ต้องรอข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์แต่อย่างใด ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2556 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และบรรดาคนสำคัญๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการ แพทย์ พยาบาล ออกมาปักหลักคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน แล้วพัฒนามาเป็นมวลมหาประชาชนคัดค้านระบอบทักษิณเป็นเวลากว่า 6 เดือนมาแล้ว ตั้งแต่หน้าฝนเข้าหน้าหนาวผ่านหน้าแล้ง นี่กำลังเริ่มหน้าฝนอีกแล้ว ทำทุกอย่างทั้งเดินขบวน ปิดกรุงเทพฯ ยึดสถานที่ราชการ ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดกระทรวงมหาดไทย ยึดศาลากลางจังหวัด นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ยังอยู่เป็นปกติ
ตั้งแต่ประเทศไทยมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เรื่อยมาจนถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดโดนประชาชนก่นด่าโขกสับ อย่างที่นางสาวยิ่งลักษณ์โดนมาก่อน ตลอดเวลากว่า 6 เดือนมานี้นางถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกวัน เป็นการอภิปรายนอกสภาฯ ไม่มีประธานสภาฯ (ซึ่งปกติก็เป็นฝ่ายรัฐบาล) ทำหน้าที่ควบคุมการประชุม ไม่มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคอยประท้วงหรือขัดจังหวะผู้อภิปราย แต่อย่างใด ซ้ำการอภิปรายนั้นถ่ายทอดให้ประชาชนไทยได้รับชมทั่วประเทศ ทั่วโลก
เป็นนายกรัฐมนตรีคนอื่นลาออกไปนานแล้ว แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทนได้ ไม่รู้สึกรู้สาแต่อย่างใด
ข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ จะทำให้นางระคายได้อย่างไร
อาการไม่รู้สึกรู้สาของนางทำให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ต้องออกมาร้องเตือน
นายชวนนท์ แถลงข่าวเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจเกี่ยวกับแผนเดินหน้า 10 ขั้นแก้ปัญหาประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์เปิดเผยโรดแมปมาแล้ว 48 ชั่วโมง สังคมไทยก็ได้รับรู้ว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งลดความขัดแย้งและแก้วิกฤตประเทศให้มีทางออกเป็นรูปธรรมและยังกำหนดเวลาดำเนินการได้แน่นอนในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง แต่ก็ยังไม่ได้ยินจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ว่าจะให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวอย่างไร ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ได้จัดทำข้อเสนอ 10 ขั้นตอนที่จำเป็นต้องได้รับความเห็นและความร่วมมือจากนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นสำคัญในการขับเคลื่อนดังกล่าว
“เสียดายที่เรายังไม่ได้ยินความเห็นของคุณยิ่งลักษณ์ แต่กลับเห็นคนที่ไม่ได้มีอำนาจเกี่ยวข้อง ไม่มีหน้าที่ความสำคัญออกมาตอบโต้เพื่อลดความน่าเชื่อถือคุณอภิสิทธิ์ โดยผู้ที่ออกมาตอบโต้ทุกคนเป็นคนฝั่งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยและได้ประโยชน์จากระบอบทักษิณ” นายชวนนท์ กล่าวและว่า ขณะนี้ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยพยายามทำตัวเป็นแกะดำที่มีพิษภัยต่อสังคมมาก ไม่ใช่แค่คิดแตกต่าง แต่พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลกำลังลากสังคมไทยสู่จุดอับเพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้กับตนเอง โดยโจมตีว่าข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ในขณะที่หลายส่วนในสังคมช่วยกันทำให้เกิดโรดแมปนี้
ขณะที่นายชวนนท์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงยืนยันว่าโรดแมปของนายอภิสิทธิ์ไม่ใช่การฉีกรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน แต่โรดแมปดังกล่าวจะเป็นการป้องกันไม่ให้มีการนองเลือดรุนแรง หลีกเลี่ยงการปฏิวัติรัฐประหาร และไม่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทที่จะปล่อยให้มีการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์แก้ปัญหาการเมือง
ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่มาก ก็ขอเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ตัดสินใจโดยมองข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ด้วยใจเป็นมิตรสักครั้ง เพราะเราต้องการให้ประเทศมีทางออกจริงๆ อย่าไปฟังสมุนที่ออกมาแนะนำซึ่งกำลังจะพานางสาวยิ่งลักษณ์สู่จุดตาย โดยหลายคนที่ออกมาให้คำแนะนำนั้น เมื่อปี 2549 ที่มีการรัฐประหาร ก็ได้สละเรือหนีพรรคไทยรักไทยไป และเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ มีอำนาจอีกครั้ง คนเหล่านั้นก็กลับมาเกาะอำนาจอีก ตนอยากให้นางสาวยิ่งลักษณ์ตาสว่าง ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มาก ก่อนที่จะมีการประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ (6 พฤษภาคม ) นางสาวยิ่งลักษณ์ มีเวลาประมาณ 24 ชั่วโมงที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ ว่าจะเลือกร่วมมือในการดำเนินการตามโรดแมป หลีกเลี่ยงความเสียหายให้กับประชาชนคนไทยหรือจะปล่อยให้ประชุม ครม.เดินหน้าเสนอพิจารณาออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ก็เท่ากับ นางสาวยิ่งลักษณ์ปิดประตูประเทศ และปิดประตูใส่หน้าตัวเองให้ติดกับดัก ทั้งที่รู้ว่าแม้จะให้จัดเลือกตั้งแต่ก็อาจไม่สามารถเลือกตั้งได้สำเร็จอีก ดังนั้นทำไมจึงไม่เลือกวิธีว่าจะทำให้อีก 5-6 เดือนสถานการณ์กลับคืนสู่ความเรียบร้อย
ต่อให้นายอภิสิทธิ์ ต่อให้นายชวนนท์ร้องจนคอหอยแตก ก็เชื่อว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่สนใจ นางมั่นใจอยู่แต่ว่า นางมาจากการเลือกตั้ง นางมาจากประชาธิปไตย นางพร้อมจะตายเพื่อประชาธิปไตย
ชาติบ้านเมือง ประชาชนจะเป็นอย่างไร นางหาได้สนใจไม่