ASTVผู้จัดการรายวัน-อนุฯป.ป.ช.และเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นร่วมกับเครือข่ายคนพิการ เตรียมฟ้องศาลปกครอง เอาผิดขสมก.หมกเม็ดราคากลางจงใจปกปืดข้อมูลประมูลโครงการรถเมล์ NGV ไม่โปร่งใส หลังขสมก.ประกาศร่าง TOR ครั้งที่ 9 ยืนเงื่อนไขตามเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง "ไพโรจน์"ยันข้อมูลกรมศุลฯ ชี้ชัด ขสมก.กำหนดราคากลางแพงเกินจริง 20% ทำให้รัฐเสียประโยชน์
นายไพโรจน์ วงศ์วิภานันท์ ประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ประกาศร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ครั้งที่ 9 ผ่านเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง และเว็บไซต์ของ ขสมก.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยคงรายละเอียดตามร่าง TOR ที่ประกาศในครั้งที่ 8 ไม่มีการปรับแก้สาระสำคัญแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้คณะอนุฯป.ป.ช.ได้ท้วงติงในส่วนของราคากลางที่ขสมก.กำหนดรถปรับอากาศคันบะท4.5 ล้านบาทและรถธรรมดา (รถร้อน) คันบะ 3.8 ล้านบาทนั้นสูงเกินจริงรวมถึงทางกลุ่มผู้พิการภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนขึ้นได้ทุกคัน ได้ร้องเรียนให้ปรับปรุงเงื่อนไขคุณสมบัติรถร้อน จำนวน 1,659 คันให้เป็นรถชานต่ำ ไร้บันไดเช่นเดียวกับรถปรับอากาศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนทุกคนสามารถใช้บริการได้
ทั้งนี้ การที่ขสมก.ไม่ยอมปรับแก้เงื่อนไขคุณสมบัติรถร้อนและราคากลางตามที่มีขัอท้วงติงและการพยายามผลักดันที่จะเปิดประมูลตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ให้ได้เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ไม่โปร่งใส จงใจปกปิดข้อมูลต่อสาธารณชน โดยเฉพาะการ กำหนดราคากลางที่อ้างอิงตัวเลขจากราคาขายรถ ถือเป็นการทำงานที่หมกเม็ดและทำให้รัฐเสียประโยชน์โดยล่าสุดได้รับข้อมูลจากกรมศุลกากรการนำเข้ารถโดยสารใช้ก๊าซ NGV ในหลายรูปแบบ เช่น นำเข้าสำเร็จรูป,นำเข้าคัสซีพร้อมเครื่องยนต์ หรือนำเข้าแบบแยกชิ้นส่วนมาประกอบ และราคาของค่ายรถยุโรป ที่มีสเปคสูงกว่าที่ขสมก.กำหนด สามารถซื้อรถได้ต่ำกว่าราคากลางที่ขสมก.กำหนดประมาณ 20%
นาย ไพโรจน์กล่าวว่า เมื่อขสมก.ไม่ปรับแก้เสปคและราคากลางตามที่มีการท้วงติงจากหลายภาคส่วน ดังนั้น ตนในฐานะคณะทำงานป.ป.ช. และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น พร้อมด้วยเครือข่ายคนพิการฯจะเดินหน้าฟ้องศาลปกครองต่อไป โดยเห็นว่าการกำหนดราคากลางที่สูงเกินจริงเป็นการจงใจไม่สุจริตของขสมก.ในการดำเนินโครงการนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มคนพิการและคณะอนุฯ ป.ป.ช.ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV และอนุกรรมาธิการด้านคนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ได้เข้าพบ พลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแล ขสมก.แล้ว ซึ่งพลเอกพฤณท์ได้รับข้อท้วงติงเรื่องราคากลางของอนุฯ ป.ป.ช.ไว้พิจารณา รวมถึงทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ยืนยันกับกลุ่มคนพิการที่ร้องเรียนปัญหาที่ ขสมก.ระบุว่าจัดซื้อรถชานต่ำไม่ได้เพราะติดคอสะพานของ กทม.ว่า จะปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่าประกาศร่าง TOR ครั้งที่ 9 มีการแก้ไขรายละเอียดรที่แตกต่างจากร่าง TOR ครั้งที่ 8 เพียง 2 ข้อ คือ ข้อ 3.8 ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานการจำหน่ายรถโดยสาร ขนาด 12 ม. ให้กับหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจหรือเอกชนภายในประเทศหรือต่างประเทศ จากเดิมกำหนดเฉพาะในประเทศ และข้อ 3.9 ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานให้บริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ที่เคยใช้งานกับก๊าซธรรมชาติ (CNG) ที่จำหน่ายภายในประเทศ และที่นำมาประกอบเป็นรถโดยสารที่ยื่นเสนอราคาในครั้งนี้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนภายในประเทศหรือต่างประเทศ และรถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากเดิมกำหนดให้มีผลงานซ่อมเฉพาะในประเทศ ส่วนข้อกำหนดอื่นๆ ทั้งเรื่องสเปครถของรถธรรมดาที่ยังเปิดช่องให้บื่นข้อเสนอเป็นรถชานสูงได้ รวมถึงราคากลางของรถ ยังกำหนดในราคาเดิม โดยจะครบกำหนดรับฟังความเห็นในวันที่ 28 เมษายน
นายไพโรจน์ วงศ์วิภานันท์ ประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ประกาศร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ครั้งที่ 9 ผ่านเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง และเว็บไซต์ของ ขสมก.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยคงรายละเอียดตามร่าง TOR ที่ประกาศในครั้งที่ 8 ไม่มีการปรับแก้สาระสำคัญแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้คณะอนุฯป.ป.ช.ได้ท้วงติงในส่วนของราคากลางที่ขสมก.กำหนดรถปรับอากาศคันบะท4.5 ล้านบาทและรถธรรมดา (รถร้อน) คันบะ 3.8 ล้านบาทนั้นสูงเกินจริงรวมถึงทางกลุ่มผู้พิการภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนขึ้นได้ทุกคัน ได้ร้องเรียนให้ปรับปรุงเงื่อนไขคุณสมบัติรถร้อน จำนวน 1,659 คันให้เป็นรถชานต่ำ ไร้บันไดเช่นเดียวกับรถปรับอากาศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนทุกคนสามารถใช้บริการได้
ทั้งนี้ การที่ขสมก.ไม่ยอมปรับแก้เงื่อนไขคุณสมบัติรถร้อนและราคากลางตามที่มีขัอท้วงติงและการพยายามผลักดันที่จะเปิดประมูลตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ให้ได้เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ไม่โปร่งใส จงใจปกปิดข้อมูลต่อสาธารณชน โดยเฉพาะการ กำหนดราคากลางที่อ้างอิงตัวเลขจากราคาขายรถ ถือเป็นการทำงานที่หมกเม็ดและทำให้รัฐเสียประโยชน์โดยล่าสุดได้รับข้อมูลจากกรมศุลกากรการนำเข้ารถโดยสารใช้ก๊าซ NGV ในหลายรูปแบบ เช่น นำเข้าสำเร็จรูป,นำเข้าคัสซีพร้อมเครื่องยนต์ หรือนำเข้าแบบแยกชิ้นส่วนมาประกอบ และราคาของค่ายรถยุโรป ที่มีสเปคสูงกว่าที่ขสมก.กำหนด สามารถซื้อรถได้ต่ำกว่าราคากลางที่ขสมก.กำหนดประมาณ 20%
นาย ไพโรจน์กล่าวว่า เมื่อขสมก.ไม่ปรับแก้เสปคและราคากลางตามที่มีการท้วงติงจากหลายภาคส่วน ดังนั้น ตนในฐานะคณะทำงานป.ป.ช. และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น พร้อมด้วยเครือข่ายคนพิการฯจะเดินหน้าฟ้องศาลปกครองต่อไป โดยเห็นว่าการกำหนดราคากลางที่สูงเกินจริงเป็นการจงใจไม่สุจริตของขสมก.ในการดำเนินโครงการนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มคนพิการและคณะอนุฯ ป.ป.ช.ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV และอนุกรรมาธิการด้านคนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ได้เข้าพบ พลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแล ขสมก.แล้ว ซึ่งพลเอกพฤณท์ได้รับข้อท้วงติงเรื่องราคากลางของอนุฯ ป.ป.ช.ไว้พิจารณา รวมถึงทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ยืนยันกับกลุ่มคนพิการที่ร้องเรียนปัญหาที่ ขสมก.ระบุว่าจัดซื้อรถชานต่ำไม่ได้เพราะติดคอสะพานของ กทม.ว่า จะปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่าประกาศร่าง TOR ครั้งที่ 9 มีการแก้ไขรายละเอียดรที่แตกต่างจากร่าง TOR ครั้งที่ 8 เพียง 2 ข้อ คือ ข้อ 3.8 ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานการจำหน่ายรถโดยสาร ขนาด 12 ม. ให้กับหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจหรือเอกชนภายในประเทศหรือต่างประเทศ จากเดิมกำหนดเฉพาะในประเทศ และข้อ 3.9 ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานให้บริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ที่เคยใช้งานกับก๊าซธรรมชาติ (CNG) ที่จำหน่ายภายในประเทศ และที่นำมาประกอบเป็นรถโดยสารที่ยื่นเสนอราคาในครั้งนี้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนภายในประเทศหรือต่างประเทศ และรถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากเดิมกำหนดให้มีผลงานซ่อมเฉพาะในประเทศ ส่วนข้อกำหนดอื่นๆ ทั้งเรื่องสเปครถของรถธรรมดาที่ยังเปิดช่องให้บื่นข้อเสนอเป็นรถชานสูงได้ รวมถึงราคากลางของรถ ยังกำหนดในราคาเดิม โดยจะครบกำหนดรับฟังความเห็นในวันที่ 28 เมษายน