ใครเชื่อ “ทักษิณ” ก็บ้าแล้ว

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ให้หายบ้าเสียจริงๆ เมื่อ “นักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตร” ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2557 ว่า “ถ้าทุกฝ่ายคืนความยุติธรรมให้ประเทศแล้วขอให้จบ จะให้คนตระกูลชินวัตรเลิกเล่นการเมืองก็พร้อม เพราะถ้าปล่อยไปอย่างนี้เรื่อย ๆ ก็เสี่ยงเกิดความรุนแรง”

ใครจะไปเชื่อนักโทษชายหนีคดีผู้นี้

ใครเชื่อ “ทักษิณ” ก็บ้าแล้ว

เว้นก็แต่ “คนเสื้อแดง” และ “นักวิชาการเสื้อแดง” ที่จมปลักและติดกับดักความคิดของตนเองจนไม่อาจก้าวข้ามให้พ้นจากสภาวะ “รักแท้ในคืนหลอกลวงได้” แม้ว่าน้ำจะท่วม ไฟจะไหม แผ่นดินจะไหว หรือแม้กระทั่งโลก จะ แตกก็ตาม

ทั้งนี้ เนื่องเพราะหากไล่ย้อนวาทกรรมของนักโทษชายหนีคดีผู้นี้ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา คนธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องเป็นวิญญูชนก็จะสามารถตระหนักรู้และคิดได้ว่า คนๆ นี้โกหกตอแหลมาแล้วกี่ครั้ง

และครั้งนี้ก็คงจะไม่แตกต่างออกไปสักเท่าไหร่

เฟซบุ๊ก “สายตรงภาคสนาม” ได้รวมรวบคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณในลักษณะเดียวกันนี้ที่ โดยให้หัวข้อเรื่องว่า “รวมคำพูดทักษิณอยากวางมือทางการเมืองมุกเดิมๆ ที่จะถอยเพื่อรุก” เอาไว้ ดังนี้

1 มกราคม 2551 “ผมจะวางมือทางการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์และจะคอยให้คำปรึกษาในฐานะผู้มีประสบการณ์เท่านั้น

28 กุมภาพันธ์ 2551 “การกลับมาของผมวันนี้ ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมือง....ผมขอเป็นประชาชนคนไทย ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ผมไปมาทั่วโลกไม่มีแผ่นดินไหนอบอุ่นเท่าเมืองไทย”

22 กันยายน 2552 “หากผมไม่ถูกปฏิวัติก็จะอยู่ครบเทอมราวปลายปี 2552 ซึ่งตั้งใจว่าจะวางมือ เลิกเล่นการเมืองในช่วงเวลานั้น”

12 พฤศจิกายน 2552 “ผมต้องการความยุติธรรม ผมไม่สนว่า จะต้องกลับไปสู่การเมืองหรือไม่ แต่หากคนส่วนใหญ่ต้องการให้ผมกลับไป อย่างนั้นผมก็ต้องกลับ”

15 เมษายน 2555 “ไม่คิดเข้าสู่การเมือง น้องผมเป็นนายกฯ แล้ว มันหมดเจนเนอเรชั่นผมแล้ว”

คนไทยไม่ได้กินหญ้านะครับ....โปรดจำไว้

ไปที่เรื่องอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจากมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ร่วมกับศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัทแปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด จัดกิจกรรมเปิดห้องนั่งเล่นบ้านตุ๊กติ๊กตุ๊บปอง ครั้งที่ 3 ในตอน ไปชิมไข่ฟองน้อยกันนะ โดยมีตุ๊บปอง เรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป และสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน มาเล่าเรื่องพ่อแม่ลูกปลูกรักให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลบุตรหลานให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ ณ ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาจตุรัสจามจุรี วันก่อน

ตามต่อด้วย บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ “บิ๊กซี-ธงฟ้า ลดค่าครองชีพ Back to School” ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤษภาคม 2557 ที่บิ๊กซีทั่วประเทศ เพื่อช่วยผู้บริโภคและผู้ปกครองทั่วประเทศประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดภาคเรียน โดยจะลดราคาชุดนักเรียนคุณภาพ อุปกรณ์การศึกษา และเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกว่า 3,500 รายการ ในราคาสุดประหยัดสูงสุดถึง 30%

ด้าน คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เปิดรับสมัครนักศึกษาเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในโครงการหลักสูตรนวัตกรรมทางวิศวกรรมศาสตร์ ประจำปีการศึกษา1/2557 3 หลักสูตรดังนี้ 1.หลักสูตรวิศวกรรมโยธาและบริหารการก่อสร้าง จำนวน 30 คน 2.หลักสูตรควบคุมวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตและวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาวิชา วิศวกรรมไทยฟ้าอุตสาหการ จำนวน 30 คน และ 3. หลักสูตรวิศวกรรมซอฟต์แวร์ จำนวน 60 คน เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้+6 พ.ค.57 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tupine.engr.tu.ac.th โทร.0-2564-3001-9 ต่อ 3250,3234,3235 และ 3279

และปิดท้ายกับ ฝ่ายพัฒนานักศึกษา สโมสรนักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ที่นำทีมอาสาสมัครจิตอาสานักศึกษาวิศวกรรมจำนวน 20 คน ลงพื้นที่บริการติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง วัดปิปผลิวนาราม อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะได้พัฒนาตนเอง พัฒนาความรู้ พัฒนาจิตและปัญญา มีจิตสาธารณะในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและรู้จักวัฒนธรรมของการให้

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com

คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน

ลำธาร ริมลานธรรม

หากจะพูดถึงการเกิดศรัทธา “ปสาทะ” ขึ้นมานั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งจิตในรสพระธรรม ซึ่งเมื่อปสาทะได้เกิดขึ้นกับผู้ใดแล้ว ผู้นั้นมักจะมีความสุข จิตใจผ่องใส เป็นอาการที่ถือว่า “ตื้นตันใจ” อย่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก

ความรู้สึกดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้เอง จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะกับผู้ที่ศึกษาธรรมะหรือปฏิบัติธรรมเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจได้ ว่าความสุขที่ “แท้จริง” ที่ทำให้อิ่มเอิบใจได้นั้นเป็นเช่นไร

เพราะการดำรงชีวิตของมนุษย์เรานั้น หากทำความเข้าใจก็จะมองเห็นว่า แท้จริงแล้วชีวิตคนเราล้วนมีความเกี่ยวพันกับธรรมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังที่เราเคยได้ยินสัจธรรมที่เป็นเหตุเป็นผลอย่างชัดเจนก็คือการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งจะวนเวียนเป็นวัฏจักรไปจนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

...ลำธาร ริมลานธรรม หนังสือที่รวมเกร็ดชีวิตและปฏิปทาของพระดีพระแท้ เรียบเรียงโดย พระไพศาล วิสาโล เป็นหนังสือที่จะทำให้ผู้อ่านได้รับทั้งข้อคิด แรงบันดาลใจและรอยยิ้ม รวมไปถึงแนวคิดในการดำเนินชีวิตดีๆจากพระอาจารย์ชื่อดังของวงการศาสนาไทย อาทิ สมเด็จโต หลวงปู่มั่น หลวงปู่บุดดา หลวงปู่ขาว หลวงปู่ดุลย์ ท่านพุทธทาส ฯลฯ

ทั้งนี้ งานเขียนของพระไพศาล วิสาโล ยังมีลักษณะงานเขียนที่สามารถถ่ายทอดหลักธรรมะด้วยสำนวนภาษาสละสลวย เข้าใจง่าย ทั้งยังเป็นงานเขียนที่นำเสนอมุมมองความคิดในทุกด้าน ทั้งเชิงสังคม และหลักในการดำเนินชีวิต แม้แต่เรื่องการปฏิบัติธรรมก็เป็นที่โดนใจ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ด้วยวิธีการสอนของท่านจึงทำให้ธรรมะไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

การอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับธรรมะจึงไม่ใช่เรื่องที่ดูเชย หากแต่มันจะเป็นยาดีเสมือนเป็นกำลังใจให้ผู้อ่านได้มีสติปัญญา ต่อสู้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆในชีวิตไปได้

สำหรับใครที่สนใจ อยากศึกษาอ่านเรื่องราวเกร็ดประวัติพระอาจารย์ชื่อดัง ลองถามหาที่ร้านหนังสือตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

รับรองว่าอ่านไป..ยิ้มไปแน่นอน

แสงเพ็ง