xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ปูเน่า”ดิ้นหวังขยายวันปิดคดี ลุ้น 23 เม.ย. ศาลรธน.นัดตัดสิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อมีประตูเปิดไว้ให้ต่อลมหายใจได้ มีหรือจะไม่มีใครเข้าประตูนั้น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่อยู่ในสภาพมีอำนาจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกวันนี้ได้แต่คอยลุ้นว่า ตัวเองจะได้อยู่เป็นรักษาการนายกฯ ถึงวันไหน ตัว ยิ่งลักษณ์ เองก็เช่นกัน เมื่อเห็นประตูเปิดไว้ให้ต่อลมหายใจได้ ก็ไม่พลาดที่จะใช้บริการประตูนั้น

เลยปรากฏข่าว ยิ่งลักษณ์ จะขอให้ใช้สิทธิตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ. 2550 ที่เปิดช่องให้ ผู้ถูกร้อง หรือคู่กรณีสามารถร้องขอต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลขยายเวลาในการสู้คดีได้ โดยศาลมีอำนาจย่นหรือขยายเวลาได้ ตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

ยิ่งลักษณ์ ก็ใช้สิทธิดังกล่าว โดยมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอขยายเวลาในการส่งเอกสารคำชี้แจงต่อศาลรธน.ออกไปอีก 15 วัน เพื่ออย่างน้อยก็จะได้มีเวลาหายใจหายคอ มีโอกาสได้เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี เพิ่มขึ้นมาอีก 15 วัน หากที่ประชุมตุลาการศาลรธน.อนุญาต ให้ตามที่ยิ่งลักษณ์ร้องขอ

การยื่นเรื่องดังกล่าวของยิ่งลักษณ์ ก็เป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้ถูกร้องในคดีที่ 28 ส.ว. นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาว่า การที่รัฐบาลย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

หลังตุลาการศาลรธน.รับคำร้องคดีนี้ไว้ เมื่อ 2 เม.ย. สำนักงานศาลรธน. ก็ได้ส่งคำร้องดังกล่าวไปให้ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้ถูกร้อง ต้องส่งเอกสารคำชี้แจงกลับมายังศาลรธน.ภายใน 15 วัน โดยมีการส่งเอกสารไปเมื่อ 3 เม.ย. ทำให้ครบกำหนด 15 วันไปเมื่อ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

ก่อนถึงวันที่ 18 เม.ย. ทางยิ่งลักษณ์ โดยคำแนะนำของฝ่ายกฎหมาย ทั้งในทำเนียบรัฐบาลคือ พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ที่ทักษิณ ชินวัตร ไว้ใจยิ่ง และในพรรคเพื่อไทยโดย ชูศักดิ์ ศิรินิล อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงทีมกฎหมายข้างกายอย่าง พิชิต ชื่นบาน ต่างเห็นพ้องตรงกันว่า เมื่อตามข้อกำหนดการพิจารณาคดีของศาลรธน.เปิดช่องให้ผู้ถูกร้อง คือ ยิ่งลักษณ์ สามารถใช้สิทธิในการยื่นขอขยายเวลาในการส่งคำชี้แจงได้ ก็ควรต้องใช้สิทธินี้ให้เต็มที่

มีหรือ ยิ่งลักษณ์ จะไม่เอา

เพราะการยื่นขอขยายเวลาดังกล่าวมีแต่ได้กับได้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการสู้คดี เพราะเวลาที่ขยายออกไป 15 วัน ก็ทำให้ทีมงานฝ่ายกฎหมายสามารถรวบรวมประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ ได้ละเอียดรอบคอบมากขึ้นเพื่อยื่นต่อศาลรธน. แม้พวกเพื่อไทยด้วยกันเองจะบอกให้หมดกำลังใจมาหลายสัปดาห์แล้วว่า “ยังไงก็ไม่รอด” แต่การขยายเวลาออกไป ก็ทำให้อย่างน้อย มีเวลามากขึ้นในการรวบรวมข้อมูล-ข้อกฎหมาย เพื่อสู้คดี

อีกทั้งการที่ขยายเวลาออกไป ทำให้พวกแกนนำ นปช.-คนเสื้อแดง มีเวลามากขึ้นในการตระเตรียมระดมมวลชนเข้ามาชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ศาลรธน. มีกำหนดนัดอ่านคำวินิจฉัย หลังการชุมนุมใหญ่ เมื่อ 5 เม.ย. ที่ถนนอักษะ ที่แกนนำนปช.อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ คุยโวไว้ว่าจะมีคนมา 5 แสนคน แต่สุดท้ายก็พลาดเป้าไปหลายแสนคน

เวลาที่ขยายออกไปจึงน่าจะทำให้แกนนำนปช. ได้มีเวลาตระเตรียมตัวมากขึ้นในการระดมคนเข้ากรุงเทพฯ ยามเมื่อต้องทำศึกใหญ่และอาจยืดเยื้อปักหลักยาวหลายเดือน หากยิ่งลักษณ์ไม่รอด และครม.เพื่อไทย สิ้นสภาพ กำลังเสื้อแดงจะเป็นแนวรบสำคัญที่ค้ำยันระบอบทักษิณไว้ได้ การให้เวลาเตรียมตัวกับนปช.และคนเสื้อแดง จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำในยามนี้

นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างเงื่อนไขไว้ล่วงหน้า เพื่อหาเรื่องไม่ยอมรับอำนาจศาล และโจมตีตุลาการศาลรธน. รวมทั้งยังหาความชอบธรรมในการออกมาป่วนบ้านป่วนเมืองต่อไป ของขบวนการทักษิณที่วางเป้าล้มล้างอำนาจตุลาการ

เนื่องจากเมื่อยิ่งลักษณ์ ยื่นขอขยายเวลาในการส่งเอกสารคำชี้แจงต่อศาลรธน. อันเป็นการใช้สิทธิที่ระเบียบของศาลรธน.เปิดช่องให้ อีกทั้งที่ผ่านมาหลายคดี ศาลรธน.ก็อนุญาตให้ผู้ถูกร้องขยายเวลาในการส่งเอกสารคำชี้แจงได้

ดังนั้น หากยิ่งลักษณ์ ยื่นไปแล้ว ศาลรธน.ไม่อนุญาต แม้จะทำให้ ยิ่งลักษณ์ เสียโอกาสที่ไม่ได้ขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน แต่มันก็เข้าทาง ยิ่งลักษณ์ และทีมทนายความ ที่จะพลิกสถานการณ์ว่า ศาลรธน.ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องอย่างเธอได้ใช้สิทธิ์ในการสู้คดีอย่างเต็มที่ มีการเร่งรีบวินิจฉัยคดี

สอดรับกับที่ยิ่งลักษณ์ได้โพสต์ข้อความครั้งล่าสุด ถึงการรับคำร้องคดีนี้ของศาลรธน.ไว้เมื่อช่วงก่อนสงกรานต์ ที่ยิ่งลักษณ์ พยายามจะบอกว่า การรับคำร้องดังกล่าว เป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล

โดยเนื้อหาหลักที่ รักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ สื่อสารออกมาผ่าน เฟสบุ๊ก Yingluck Shinawatra ถึงกรณีนี้ พบว่า ยิ่งลักษณ์ ได้พยายามอ้างว่า สถานภาพการเป็นนายกฯของตัวเธอเป็นเพียงแค่รักษาการนายกรัฐมนตรี ตามรธน. มาตรา 181 เพราะได้มีพระราชกฤษฏีกายุบสภาฯไปแล้ว ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มก่อนหน้าการยุบสภาฯ จึงไม่มีเหตุจะต้องมาพิจารณาว่าความเป็นนายกฯ ของตัวเธอจะต้องสิ้นสภาพหรือไม่ เพราะตอนนี้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว อีกทั้งยังปรามศาลรธน.ว่า หากองค์กรอิสระต่างๆ ทำงานแบบสองมาตรฐาน จะยิ่งสร้างความแตกแยกให้กับสังคม

“ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้งเช่นปัจจุบัน สถาบันที่มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญควรต้องตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารโดยยึดหลักการ และหน้าที่ตามขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยไม่ก้าวก่ายอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร หรือ ตุลาการ
และที่สำคัญจะต้องไม่สร้างความแตกแยกให้กับสังคม ด้วยการดำเนินการใดๆ ในลักษณะสองมาตรฐาน ขอให้ทุกฝ่ายทำงานโดยยึดหลักการที่ถูกต้อง เป็นธรรม และเป็นสากล เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีหลักยึด และให้ประเทศไทยสามารถตอบคำถามของสังคมโลกได้อย่างภาคภูมิ”

อย่างไรก็ตาม “ทีมข่าวการเมือง”เชื่อว่า ด้วยวุฒิภาวะของตุลาการศาลรธน.ทั้ง 9 คน ที่นำโดย นายจรูญ อินทรจาร ประธานศาลรธน. คงไม่ถือสาหาความอะไรกับตัวผู้นำประเทศ โง่ๆ อย่างยิ่งลักษณ์ ที่แสดงความเห็นไว้เช่นนั้น เพราะมันก็แค่ชั้นเชิงการต่อสู้คดีของยิ่งลักษณ์ ที่คิดอะไรเองไม่เป็น และไปฟังคำแนะนำของพวกทีมกฎหมายรอบกายที่บอกให้เธอโพสต์ข้อความแสดงความเห็นดังกล่าว
ตัวยิ่งลักษณ์ มันคงไม่ได้เขียนเองกับมือ เพราะดูจากเนื้อหาข้อความแล้ว เห็นได้เลยว่า แนวคิด และประเด็นที่ยิ่งลักษณ์ยกมา มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่พวกมือกฎหมายพรรคเพื่อไทย และพวกแกนนำพรรคอย่าง จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค-โภคิน พลกุล -ชูศักดิ์ ศิรินิล เคยออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว และให้สัมภาษณ์กับสื่อวิจารณ์การรับคำร้องคดีนี้ของศาลรธน.

จึงเชื่อได้ว่า สิ่งที่ยิ่งลักษณ์สื่อสารมาดังกล่าว ก็คือสิ่งที่พวกมือกฎหมาย หรือทีมสู้คดีของยิ่งลักษณ์ร่างมาให้ แล้วเอาไปโพสต์ไว้ เพื่อแสดงความเห็นต่อคดีนี้ อันเป็นวิธีการที่ดีกว่าที่จะให้ยิ่งลักษณ์ไปยืนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่อาจหลุดและโชว์โง่แบบที่แล้วๆ มา
สถานการณ์ของตัวยิ่งลักษณ์ในยามนี้ เหมือนคนใกล้จมน้ำตายอยู่แล้วแน่ๆ ยิ่งลักษณ์ อยู่ในสภาพ เมื่อไม่มีอะไรจะเสีย ก็ต้องสู้ทุกทาง การออกมาถล่มศาลรธน. แต่เนิ่นๆ ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าศาลรธน. จะวินิจฉัยว่าอย่างไร มันก็คือ การดิ้นเฮือกสุดท้ายของยิ่งลักษณ์ ที่ทีมกฎหมายเขียนบทมาให้เธอเล่นเท่านั้นเอง

ดังนั้นหาก ที่ประชุมตุลาการศาลรธน.จะอนุญาตให้ยิ่งลักษณ์ ขยายเวลาในการส่งเอกสารคำชี้แจงได้ตามที่ร้องขอไปอีก 15 วัน หรือหากจะไม่อนุญาต ตามที่ร้องขอ ก็คงเพราะด้วยการพิจารณาแล้วว่า การให้เวลา 15 วัน นับแต่ 3 เม.ย. เพียงพอแล้วต่อการส่งเอกสารคำชี้แจงที่เป็นแค่เรื่องข้อกฎหมายล้วนๆ ไม่ได้มีข้อเท็จจริงอะไรมากมาย หากที่ประชุมตุลาการศาลรธน.ไม่อนุญาตให้ขยายเวลา ก็เชื่อว่าทางศาลรธน.คงแจงเหตุผลได้ว่า เพราะเหตุใดจึงไม่อนุญาตให้ยิ่งลักษณ์ ขยายเวลา ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องความไม่พอใจส่วนตัวของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีต่อยิ่งลักษณ์ ที่มาแสดงความเห็นแบบไม่เคารพศาลรธน.

ทั้งนี้ มีข่าวว่าตุลาการศาลรธน.นัดประชุมกันใน วันพุธที่ 23 เม.ย.นี้ ซึ่งวันดังกล่าวก็น่าจะรู้ว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรธน. จะว่าอย่างไร จะอนุญาตให้ ยิ่งลักษณ์ ขยายเวลาในการส่งเอกสารชี้แจงหรือไม่ แล้วหากอนุญาตจะให้เวลากี่วัน แล้วจะให้นับจากวันไหนเป็นต้นไป

หรือหากที่ประชุมตุลาการศาลรธน.ไม่อนุญาตให้ขยายเวลาตามที่ร้องขอ แล้วศาลรธน.จะมีคำอธิบายใดๆ ออกมาหรือไม่ ว่าทำไม จึงปฏิเสธคำร้องขอของคนระดับนายกรัฐมนตรี ที่ขอใช้สิทธิดังกล่าว

ที่สำคัญ หากสุดท้ายศาลรธน.ไม่อนุญาตให้ขยายเวลา แล้วศาลจะทำอย่างไรต่อไปกับคดีนี้ จะเห็นควรให้มีการเปิดห้องพิจารณาไต่สวนคดีโดยเรียกพยานบุคคลมาไต่สวนหรือไม่ หรือศาลจะบอกให้ทั้งฝ่ายผู้ร้องคือ นายไพบูลย์ และพวก กับฝ่ายผู้ถูกร้องคือ ยิ่งลักษณ์ ต้องทำอะไรต่อบ้าง จะให้ทั้งสองฝ่ายต้องยื่นเอกสารคำแถลงปิดคดีหรือไม่ และต้องยื่นภายในวันไหน หรือจะถึงขั้นที่ประชุมตุลาการศาลรธน. เห็นว่าข้อเท็จจริงต่างๆ ในคำร้องคดีนี้ ครบถ้วนเพียงพอต่อการให้ที่ประชุมตุลาการศาลรธน. ลงมติและเขียนคำวินิจฉัยได้แล้ว จึงมีการบอกกำหนดนัดอ่านคำวินิจฉัยคดี ในวันที่ 23 เม.ย.นี้เลย อย่างที่บางฝ่ายคาดการณ์ไว้

รอลุ้นกัน 23 เม.ย.นี้ ที่จะเป็นช็อตสำคัญของคดีนี้ หากไม่มีอะไรมาแทรกเสียก่อน ชะตามกรรมของ ยิ่งลักษณ์ ในคดีนี้ จะเป็นอย่างไร จะได้โอกาสต่อเวลา หรือจะได้รู้ วันชี้ชะตา ตัดสินคดีกันเลย ให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราว อดใจรอฟังผล


กำลังโหลดความคิดเห็น