xs
xsm
sm
md
lg

ค่าไฟ-LPGเตรียมปรับขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- มวลมหาประชาชนเตรียมรับมือค่าครองชีพพุ่งเดือนพ.ค.นี้เหตุแนวโน้มค่าไฟงวดใหม่(พ.ค.-ส.ค.) มีแนวโน้มปรับขึ้น "เรกูเลเตอร์"นัดถกดูต้นทุน21เมษายนนี้ ขณะที่ราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนมาตามนัดปรับขึ้นอีก50สตางค์ต่อกก. 1 พ.ค.นี้ดันราคาแพงกว่าแอลพีจีภาคขนส่ง1.25บาทต่อกก.ทันที

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า คาดว่าวันที่21จะมีการประชุมพิจารณาต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนรอบใหม่(พ.ค.- ส.ค.) ซึ่งคงจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะปัจจัยหลัก ทั้งการใช้ไฟฟ้า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ราคาเชื้อเพลิงที่ผลิตไฟฟ้า เป็นต้น
ดังนั้นขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าตัวเลขจะออกมาเป็นอย่างไร
"เราต้องนำเอาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มาดูย้อนหลังด้วยว่า 4 เดือนแรกที่ผ่านมาเป็นไปตามที่เราได้คาดการณ์ไว้หรือไม่ และอีก4เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไรด้วย ซึ่งยอมรับว่าส่วนของการใช้ไฟฟ้านั้นต่ำกว่าที่คาดไว้เมื่อนำมาคิดค่าไฟหารเฉลี่ยต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้น และหากพิจารณาทั้งปีก็ยอมรับว่าการใช้ไฟเองก็ลดต่ำตามการเติบโตของเศรษฐกิจหรือจีดีพี"นายดิเรกกล่าว
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)กล่าวว่า แนวโน้มอัตราค่าเอฟทีรอบใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค.57 มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นแต่จะเป็นตัวเลขเท่าใดคงต้องรอให้เรกูเลเตอร์เป็นผู้กำหนดโดยเฉพาะจะให้กฟผ.รับภาระส่วนหนึ่งเช่นที่ผ่านมาหรือไม่ สาเหตุส่วนหนึ่งการคำนวณงวดแรกนั้นพบว่าการใช้ไฟต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ทำให้งวดแรกค่าไฟที่คิดต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทแม้ว่าจะเริ่มแข็งค่าขึ้นแต่ก็อ่อนค่ากว่าเล็กน้อยจากที่ประมาณการ
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าได้แก่ 1.อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับงวดที่ผ่านมาเพราะค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐอเมริกาจะกระทบต่อเอฟทีขึ้นประมาณ 5-6 สตางค์ต่อหน่วย 2. การใช้ไฟฟ้าที่ต่ำกว่าประมาณการณ์ที่เคยคาดไว้โดยการใช้ไฟ3เดือนที่ผ่านมาลดลง 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้น และ 3. การเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนแนวโน้มจะลดลงจากช่วง4เดือนแรกเนื่องจากช่วงพ.ค.นี้เป็นช่วงที่ต้องกักเก็บน้ำไว้สำรองในช่วงฤดูฝน
" ช่วง 4 เดือนแรกมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนเพื่อการเกษตรทำให้สามารถผลิตไฟจากน้ำซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำมาเฉลี่ยต้นทุนรวมได้ระดับหนึ่งแต่ยอมรับว่าช่วง พ.ค.นี้เป็นปกติช่วงฤดูฝนที่เราจะต้องกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้การผลิตไฟจากน้ำก็จะลดต่ำลง ซึ่งกฟผ.เองก็กำลังคิดว่าจะรับซื้อไฟพลังน้ำจากสปป.ลาวเข้ามาเสริมก็จะช่วยทำให้ค่าไฟถูกลง"แหล่งข่าวกว่า
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแก๊สปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจี(ก๊าซหุงต้ม) กล่าวว่า วันที่ 1 พ.ค. ราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนจะปรับขึ้นอีกกิโลกรัม(กก.)ละ 50 สตางค์ซึ่งจะส่งผลให้ราคาแอลพีจีครัวเรือนมีการปรับขึ้นแล้วรวม 4.50 บาทต่อกก.โดยราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนจะอยู่ที่ 22.63 บาทต่อกก. ขณะที่ราคาแอลพีจีภาคขนส่งยังคงตรึงอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกก.ทำให้ราคาแอลพีจีครัวเรือนสูงกว่าขนส่งถึง 1.25 บาทต่อกก.
"ยอมรับว่าราคาที่เริ่มห่างกันมากขึ้นนั้นจะทำให้เกิดแรงจูงใจในการใช้ผิดประเภทได้แต่กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)ได้ทำงานกับพลังงานจังหวัดใกล้ชิดที่จะเช้มงวดรถขนส่ง โรงบรรจุที่จะไม่ให้เกิดการใช้ผิดกลุ่มเพื่อหากำไร ซึ่งกฏหมายที่ค่อนข้างแรงคือจำคุกไม่เกิน10ปี ปรับไม่เกิน2แสนบาทอาจจะทำให้การลักลอบต้องระวังมากขึ้นแต่ก็ต้องดูว่าถ้าราคามันต่างกันแตะระดับ2 บาทต่อกก.มันก็ไม่แน่ว่าจะไม่จูงใจประชาชนก็อาจเอาถังครัวเรือนไปเติมปั๊มแก๊สได้"นายชิษณุพงศ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น