ASTVผู้จัดการรายวัน-กวป.เครือข่ายแก๊งแดง นำสมุนทำพิธีไสยศาสตร์หน้า ป.ป.ช. กดดันวันนัดสอบพยาน "ปู" คดีทุจริตจำนำข้าว ทนายหัวหมอยื่นพยานเพิ่มอีก 1 ปาก "ยรรยง" งัด 3 ปมช่วย "ปู" ยันไม่บิดเบือนกลไกตลาด ไม่เปิดช่องทุจริต และเลิกจำนำไม่ได้ แขวะอีก ข้าวราคาร่วง เหตุการเมืองป่วน ไม่มีรัฐบาลตัวจริง ด้าน "นิวัฒน์ธำรง" ถึงคิววันนี้ มั่นใจข้อมูลแน่น ด้าน "สุภา"เข้าวินเป็นกรรมการ ป.ป.ช. คนใหม่ เปิดประมูลข้าวภูมิภาคครั้งแรก มีเอกชนยื่นซอง 8 ราย ส่วนเอเฟตยื่นแข่ง 15 ราย เตรียมเปิดประมูลอีกวันนี้ 4 แสนตัน ปชป.ซัดรัฐบาลเล่นเกมถ่วงเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เป็นวันแรกที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เรียกสอบพยาน 3 ปากของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการจำนำข้าว ที่กำหนดไว้ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย.2557 ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ โดยนายยรรยงได้เข้าให้การเป็นพยานคนแรก
ปรากฎว่าบริเวณหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีแกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) เครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดง ได้นำมวลชนประมาณ 200 คน มาทำพิธีสาปแช่งนายวิชา มหาคุณ พร้อมคณะกรรมการอีก 5 คน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรีดูแลความสงบประมาณ 20 นาย
พิธีดังกล่าว มีการนำป้ายผ้าที่เขียนเป็นรูปยันต์ พร้อมเครื่องเส้นไหว้ หม้อดินสำหรับถ่วงวิญญาณและลงคาถากำกับ ขณะเดียวกัน ได้นำหุ่นฟางใส่สูทติดหน้านายวิชา มหาคุณ และคณะ จำนวน 5 ตัว แขวไว้กับราวแสตนเลสตั้งอยู่ด้านหน้าประตูของสำนักงาน ปปช. โดยที่คอของตัวหุ่นมีการแขวนพวงมาลัย สีขาว-ดำ ห้อยอยู่ ซึ่งมีคนแต่งตัวเป็นยมทูตถือหอกคอยทิ่มแทงหุ่นและผู้หญิงแต่งตัวเป็นแม่มด ถือมีดหมอและภาชนะสำหรับใส่เลือด ซึ่งเลือดดังกล่าวเป็นเลือดคนจริงที่ทางกลุ่มซื้อมาจาก รพ.แห่งหนึ่งเพิ่อทำพีธีสาปแช่งคณะกรรมการ ปปช.ดังกล่าวให้มีอันเป็นไป ฉิบหาย พิกลพิการ ภายใน 3วัน 7วัน และในการทำพิธีต่อจากนั้นคือการเอามีดหมอจุ่มเลือดแล้วแทงไปที่ตัวของหุ่นฟางต่อด้วยการเอาเลือดที่เหลือสาดไปที่หุ่นทั้ง 5 ตัว และหลังจากนั้นกลุ่ม กวป. ได้ร่วมกันทำการสาปแช่งส่งวิญญาณ โดยจะนำไปถ่วงน้ำที่บริเวณเชิงสะพานพระนั่งเกล้า
มีรายงานข่าวว่า กลุ่ม กวป. จะปักหลักที่หน้า ปปช.ถึงวันที่ 11 เม.ย.2557 เพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนว่าทางกลุ่มจะทำยังไงต่อไป พร้อมระบุว่า ประชาชนต้องการคณะกรรมการที่มาจากการโปรดเกล้า ไม่ใช่นายวิชาและพวกทั้ง 5 คน ที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้า ดังนั้น ทั้ง 5 คนต้องลาออกจากคณะกรรมการ
***ไม่ถ่วงเวลาแต่ยื่นเพิ่มพยานอีก1ปาก
นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนาทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีโครงการจำนำข้าว กล่าวว่า การขอเพิ่มพยานไปอีก 4 ปาก ต้องรอให้ ป.ป.ช. พิจารณาในวันที่ 10 เม.ย.นี้ว่าจะอนุญาตหรือไม่ และในสัปดาห์หน้าจะมีการยื่นขอเพิ่มพยานอีก 1 ปาก คือ นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เนื่องจากเพิ่งมีข้อมูลใหม่ และเจ้าตัวยืนยันพร้อมเข้าให้การเป็นพยานให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งการพยายามขอเพิ่มพยาน ไม่ได้เป็นการถ่วงเวลาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จะดำเนินการตรวจสอบคำสั่ง และการให้สัมภาษณ์ของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช.ท่านอื่นว่ามีการให้สัมภาษณ์ในลักษณ์ชี้นำหรือเข้าข่ายมีความผิดหรือทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ หากมีก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญาต่อไป
***"ยรรยง"เปิด3ประเด็นโต้ป.ป.ช.
นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้เข้าให้ปากคำกับ ป.ป.ช. โดยเห็นว่าข้อกล่าวหาต่อนายกรัฐมนตรีมีความไม่ถูกต้อง 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1.รัฐบาลไม่ได้บิดเบือนกลไกตลาด เพราะสินค้าข้าวไม่มีกลไกตลาดที่สมบูรณ์ การรับจำนำเป็นการสร้างสมดุลของกลไกตลาด 2.โครงการรับจำนำไม่ได้ทำเพื่อเปิดช่องให้มีการทุจริตและหาเสียง แต่มีเป้าหมายยกระดับราคา และเพิ่มรายได้ให้ชาวนา และ 3.นายกฯ ไม่สามารถระงับ ยับยั้ง หรือยกเลิกโครงการรับจำนำได้ เพราะได้หาเสียงไว้และแถลงต่อรัฐสภาไว้แล้ว
"ได้บอกกับ ป.ป.ช. ใน 3 ประเด็นสำคัญ เพราะต้องตั้งสมมติฐานในการสอบสวนให้ถูกต้อง หากสมมติฐานผิด ก็จะทำให้ผลการพิจารณาผิดไปด้วย ผมมีเอกสาร 40 หน้า เป็นประเด็นของผมชี้แจง 24 หน้า ส่วนที่เหลือเป็นการเติมประเด็นที่นายกรัฐมนตรีได้ส่งเอกสารชี้แจงไปก่อนหน้านี้" นายยรรยงกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันการสวมสิทธิ์ ป้องกันการปลอมปน พร้อมยืนยันว่า ยังไม่สามารถสรุปผลขาดทุนของโครงการจำนำข้าวได้ เพราะยังไม่ได้ปิดบัญชี
***โบ้ยไม่มีรัฐบาลถาวรทำราคาข้าวตก
นายยรรยงกล่าวว่า กรณีราคาข้าวในตลาดตกต่ำ โดยราคาข้าวเปลือกเจ้าเฉลี่ยที่ตันละ 7,000 บาท (ความชื้น5%) และตันละ 5,000-6,000 บาท (ความชื้น 25-30%) ซึ่งใกล้เคียงกับต้นทุนของชาวนาที่เฉลี่ยตันละ 5,000-5,900 บาท แสดงให้เห็นว่าชาวนากำลังมีปัญหารายได้ลดลง โดยสาเหตุสำคัญมาจากปัญหาการเมืองที่ทำให้ไม่มีรัฐบาลถาวรและไม่สามารถกำหนดมาตรการดูแลราคาข้าวได้ ส่วนการระบายข้าวของรัฐบาล ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เพราะเป็นการระบายข้าวอย่างมียุทธศาสตร์และเป็นข้าวเก่าซึ่งเป็นคนละตลาดกับผลผลิตในขณะนี้
***"นิวัฒน์ธำรง"เตรียมให้ปากคำป.ป.ช.วันนี้
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้เตรียมข้อมูล หลักฐาน และเอกสารไว้พร้อมแล้ว เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ป.ป.ช. ในวันนี้ โดยได้รวบรวมเอกสารมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นต้น ซึ่งเอกสารทั้งหมด จะเป็นข้อมูลที่จะแก้ข้อกล่าวหาให้กับนายกรัฐมนตรีได้ เพราะนายกฯ ไม่ได้ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าว แต่ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน และได้มีการสั่งดำเนินคดีโรงสีที่ทุจริตแล้ว ส่วนตัวเลขขาดทุน เห็นว่า ตัวเลขของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีสูงเกินจริงมาก และยังไม่รวมข้าวในสต๊อกที่เหลืออยู่
***ตรวจคุณภาพข้าวก่อนส่งมอบคอฟโก
วันเดียวกันนี้ นายยรรยงได้เดินทางไปตรวจคลังสินค้า เอส.เอ็ม. ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นคลังสินค้ากลางที่เข้าร่วมการจำหน่ายข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล (ระดับภูมิภาค) และยังเป็นคลังสินค้าข้าวสารสำหรับส่งมอบให้แก่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจจีน (คอฟโก)
นายยรรยงกล่าวว่า ได้นำคณะสื่อมวลชน ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า (เซอร์เวเยอร์) และผู้แทนจากคอฟโก เข้าร่วมตรวจสอบข้าวคุณภาพข้าว ก่อนที่จะส่งมอบข้าวให้กับคอฟโก ที่ได้ซื้อข้าวในรูปรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปริมาณ 1 ล้านตัน โดยเดือนเม.ย.นี้จะส่งมอบก่อน 1 แสนตัน จากนั้นจะเร่งทยอยส่งมอบให้ครบต่อไป และยังเป็นการยืนยันว่าจีนมีการสั่งซื้อข้าวจากไทยจริง ไม่ใช่เป็นข่าวลือหรือรัฐบาลสร้างข่าวเหมือนที่หลายฝ่ายกล่าวหาโจมตี
ส่วนการคืนเงินงบกลางที่ยืมมา 2 หมื่นล้านบาท ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2557 นั้น ขณะนี้ได้คืนไปแล้ว 1.07 หมื่นล้านบาท เหลืออีก 9.3 พันล้านบาท มั่นใจว่าจะคืนได้ตามกำหนดแน่นอน
***ประมูลข้าวต่างจังหวัดครั้งแรกยื่นซื้อ8ราย
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า มีผู้ประกอบการค้าข้าวและโรงสีที่สนใจยื่นซองประมูลซื้อข้าวในระดับภูมิภาคครั้งแรกที่จ.สุพรรณบุรี ปริมาณ 1.69 แสนตัน จำนวน 8 ราย ได้แก่ หจก.สุพรรณบุรี อะกริ จัลเนอร์รอล เพอร์เฟ็คท์ บริษัท มิตรนำชัยไรท์ หจก.ทรัพย์แสงทอง โรงสีไฟศรีกรุงลาดกระบัง บริษัท ไทยฟ้า (2511) จำกัด บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด บริษัท เอเชียโกลเด้นไรท์ จำกัด และหจก.ข้าวซี.พี.จำกัด โดยหากได้ราคาเหมาะสม ก็จะเสนอให้นายนิวัฒน์ธำรงอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ กรมฯ จะเปิดประมูลครั้งต่อไปที่ จ.นครสวรรค์ และเชียงราย โดยจะเปิดประมูลให้ได้เดือนละ 1-2 ครั้ง และวันนี้ (10 เม.ย.) จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวอีก 4.2 แสนตัน
ส่วนการระบายข้าววิธีอื่นๆ จะเร่งขายจีทูจีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอิรักยอมเปิดตลาดให้มีการนำเข้าข้าวจากไทยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขายจีทูจี และยังมีแผนจะไปทำตลาดที่แอฟริกา โดยล่าสุดมาเลเซียได้ติดต่อขอซื้อข้าวไทย 4 แสนตัน สหรัฐฯ ก็สนใจขอซื้อ ส่วนข้าวฟิลิปปินส์ ที่เปิดประมูล 8 แสนตัน มีภาคเอกชนไทยเข้าร่วมประมูล คาดว่าน่าจะชนะการประมูลได้
***ยื่นซื้อข้าวผ่านเอเฟต15รายได้ราคาดีขึ้น
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สำหรับการยื่นซองเสนอราคาประมูลข้าวในสต็อกของรัฐบาล ผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ครั้งที่ 9 จำนวน 2.64 แสนตัน มีเอกชนสนใจมายื่นซองจำนวนทั้งสิ้น 15 ราย โดยครั้งนี้มีการเสนอราคาส่วนต่างจากราคาส่งมอบอยู่ในระดับที่ดี ข้าวขาว 5% เสนอราคาที่ลบ 1.70 ถึงลบ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม และข้าวหอมมะลิเสนอราคาที่ลบ 2.45 ถึงลบ 2.55 บาทต่อกิโลกรัม ดีกว่าครั้งก่อนที่ข้าวหอมมะลิมีผู้เสนอราคาถึงลบ 5 บาทต่อกิโลกรัม และจะเปิดครั้งต่อไปวันที่ 23 เม.ย.2557 ปริมาณ 2 แสนตัน
***เคาะเลือก "สุภา"เป็นกรรมการป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ได้ประชุมเป็นครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยที่ประชุมลงมติเลือก น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยคะแนนเสียง 2 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ โดยจะมีการนำรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. เสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อดำเนินการต่อไป
***ปชป.ซัดพยายามถ่วงเวลาช่วย"ปู"
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการให้ความร่วมมือ และพยายามเสนอพยานเพิ่มเติม เพื่อถ่วงเวลาไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ด้วยตัวเอง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลตอบโต้ ป.ป.ช.ว่าข้าวไม่ได้หาย 2 ล้านตัน แต่เป็นเพราะไม่ได้ลงบัญชี แสดงว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง เพราะไม่มีการลงบัญชี และเห็นว่า การเลือกให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง อดีตประธานคณะอนุกรรมปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว เป็นกรรมการ ป.ป.ช. จะทำให้คดีนี้คลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นผู้ที่รับทราบข้อมูลเป็นอย่างดี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้ ป.ป.ช. ทันเกมรัฐบาล เพราะขณะนี้มีขบวนการนำข้าวที่อ้างว่าลืมลงบัญชีกลับมาคืนรัฐบาลแล้ว จึงกล้าออกมายืนยันว่า ข้าวไม่หาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เป็นวันแรกที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เรียกสอบพยาน 3 ปากของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการจำนำข้าว ที่กำหนดไว้ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย.2557 ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ โดยนายยรรยงได้เข้าให้การเป็นพยานคนแรก
ปรากฎว่าบริเวณหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีแกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) เครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดง ได้นำมวลชนประมาณ 200 คน มาทำพิธีสาปแช่งนายวิชา มหาคุณ พร้อมคณะกรรมการอีก 5 คน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรีดูแลความสงบประมาณ 20 นาย
พิธีดังกล่าว มีการนำป้ายผ้าที่เขียนเป็นรูปยันต์ พร้อมเครื่องเส้นไหว้ หม้อดินสำหรับถ่วงวิญญาณและลงคาถากำกับ ขณะเดียวกัน ได้นำหุ่นฟางใส่สูทติดหน้านายวิชา มหาคุณ และคณะ จำนวน 5 ตัว แขวไว้กับราวแสตนเลสตั้งอยู่ด้านหน้าประตูของสำนักงาน ปปช. โดยที่คอของตัวหุ่นมีการแขวนพวงมาลัย สีขาว-ดำ ห้อยอยู่ ซึ่งมีคนแต่งตัวเป็นยมทูตถือหอกคอยทิ่มแทงหุ่นและผู้หญิงแต่งตัวเป็นแม่มด ถือมีดหมอและภาชนะสำหรับใส่เลือด ซึ่งเลือดดังกล่าวเป็นเลือดคนจริงที่ทางกลุ่มซื้อมาจาก รพ.แห่งหนึ่งเพิ่อทำพีธีสาปแช่งคณะกรรมการ ปปช.ดังกล่าวให้มีอันเป็นไป ฉิบหาย พิกลพิการ ภายใน 3วัน 7วัน และในการทำพิธีต่อจากนั้นคือการเอามีดหมอจุ่มเลือดแล้วแทงไปที่ตัวของหุ่นฟางต่อด้วยการเอาเลือดที่เหลือสาดไปที่หุ่นทั้ง 5 ตัว และหลังจากนั้นกลุ่ม กวป. ได้ร่วมกันทำการสาปแช่งส่งวิญญาณ โดยจะนำไปถ่วงน้ำที่บริเวณเชิงสะพานพระนั่งเกล้า
มีรายงานข่าวว่า กลุ่ม กวป. จะปักหลักที่หน้า ปปช.ถึงวันที่ 11 เม.ย.2557 เพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนว่าทางกลุ่มจะทำยังไงต่อไป พร้อมระบุว่า ประชาชนต้องการคณะกรรมการที่มาจากการโปรดเกล้า ไม่ใช่นายวิชาและพวกทั้ง 5 คน ที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้า ดังนั้น ทั้ง 5 คนต้องลาออกจากคณะกรรมการ
***ไม่ถ่วงเวลาแต่ยื่นเพิ่มพยานอีก1ปาก
นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนาทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีโครงการจำนำข้าว กล่าวว่า การขอเพิ่มพยานไปอีก 4 ปาก ต้องรอให้ ป.ป.ช. พิจารณาในวันที่ 10 เม.ย.นี้ว่าจะอนุญาตหรือไม่ และในสัปดาห์หน้าจะมีการยื่นขอเพิ่มพยานอีก 1 ปาก คือ นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เนื่องจากเพิ่งมีข้อมูลใหม่ และเจ้าตัวยืนยันพร้อมเข้าให้การเป็นพยานให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งการพยายามขอเพิ่มพยาน ไม่ได้เป็นการถ่วงเวลาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จะดำเนินการตรวจสอบคำสั่ง และการให้สัมภาษณ์ของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช.ท่านอื่นว่ามีการให้สัมภาษณ์ในลักษณ์ชี้นำหรือเข้าข่ายมีความผิดหรือทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ หากมีก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญาต่อไป
***"ยรรยง"เปิด3ประเด็นโต้ป.ป.ช.
นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้เข้าให้ปากคำกับ ป.ป.ช. โดยเห็นว่าข้อกล่าวหาต่อนายกรัฐมนตรีมีความไม่ถูกต้อง 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1.รัฐบาลไม่ได้บิดเบือนกลไกตลาด เพราะสินค้าข้าวไม่มีกลไกตลาดที่สมบูรณ์ การรับจำนำเป็นการสร้างสมดุลของกลไกตลาด 2.โครงการรับจำนำไม่ได้ทำเพื่อเปิดช่องให้มีการทุจริตและหาเสียง แต่มีเป้าหมายยกระดับราคา และเพิ่มรายได้ให้ชาวนา และ 3.นายกฯ ไม่สามารถระงับ ยับยั้ง หรือยกเลิกโครงการรับจำนำได้ เพราะได้หาเสียงไว้และแถลงต่อรัฐสภาไว้แล้ว
"ได้บอกกับ ป.ป.ช. ใน 3 ประเด็นสำคัญ เพราะต้องตั้งสมมติฐานในการสอบสวนให้ถูกต้อง หากสมมติฐานผิด ก็จะทำให้ผลการพิจารณาผิดไปด้วย ผมมีเอกสาร 40 หน้า เป็นประเด็นของผมชี้แจง 24 หน้า ส่วนที่เหลือเป็นการเติมประเด็นที่นายกรัฐมนตรีได้ส่งเอกสารชี้แจงไปก่อนหน้านี้" นายยรรยงกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันการสวมสิทธิ์ ป้องกันการปลอมปน พร้อมยืนยันว่า ยังไม่สามารถสรุปผลขาดทุนของโครงการจำนำข้าวได้ เพราะยังไม่ได้ปิดบัญชี
***โบ้ยไม่มีรัฐบาลถาวรทำราคาข้าวตก
นายยรรยงกล่าวว่า กรณีราคาข้าวในตลาดตกต่ำ โดยราคาข้าวเปลือกเจ้าเฉลี่ยที่ตันละ 7,000 บาท (ความชื้น5%) และตันละ 5,000-6,000 บาท (ความชื้น 25-30%) ซึ่งใกล้เคียงกับต้นทุนของชาวนาที่เฉลี่ยตันละ 5,000-5,900 บาท แสดงให้เห็นว่าชาวนากำลังมีปัญหารายได้ลดลง โดยสาเหตุสำคัญมาจากปัญหาการเมืองที่ทำให้ไม่มีรัฐบาลถาวรและไม่สามารถกำหนดมาตรการดูแลราคาข้าวได้ ส่วนการระบายข้าวของรัฐบาล ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เพราะเป็นการระบายข้าวอย่างมียุทธศาสตร์และเป็นข้าวเก่าซึ่งเป็นคนละตลาดกับผลผลิตในขณะนี้
***"นิวัฒน์ธำรง"เตรียมให้ปากคำป.ป.ช.วันนี้
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้เตรียมข้อมูล หลักฐาน และเอกสารไว้พร้อมแล้ว เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ป.ป.ช. ในวันนี้ โดยได้รวบรวมเอกสารมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นต้น ซึ่งเอกสารทั้งหมด จะเป็นข้อมูลที่จะแก้ข้อกล่าวหาให้กับนายกรัฐมนตรีได้ เพราะนายกฯ ไม่ได้ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าว แต่ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน และได้มีการสั่งดำเนินคดีโรงสีที่ทุจริตแล้ว ส่วนตัวเลขขาดทุน เห็นว่า ตัวเลขของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีสูงเกินจริงมาก และยังไม่รวมข้าวในสต๊อกที่เหลืออยู่
***ตรวจคุณภาพข้าวก่อนส่งมอบคอฟโก
วันเดียวกันนี้ นายยรรยงได้เดินทางไปตรวจคลังสินค้า เอส.เอ็ม. ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นคลังสินค้ากลางที่เข้าร่วมการจำหน่ายข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล (ระดับภูมิภาค) และยังเป็นคลังสินค้าข้าวสารสำหรับส่งมอบให้แก่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจจีน (คอฟโก)
นายยรรยงกล่าวว่า ได้นำคณะสื่อมวลชน ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า (เซอร์เวเยอร์) และผู้แทนจากคอฟโก เข้าร่วมตรวจสอบข้าวคุณภาพข้าว ก่อนที่จะส่งมอบข้าวให้กับคอฟโก ที่ได้ซื้อข้าวในรูปรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปริมาณ 1 ล้านตัน โดยเดือนเม.ย.นี้จะส่งมอบก่อน 1 แสนตัน จากนั้นจะเร่งทยอยส่งมอบให้ครบต่อไป และยังเป็นการยืนยันว่าจีนมีการสั่งซื้อข้าวจากไทยจริง ไม่ใช่เป็นข่าวลือหรือรัฐบาลสร้างข่าวเหมือนที่หลายฝ่ายกล่าวหาโจมตี
ส่วนการคืนเงินงบกลางที่ยืมมา 2 หมื่นล้านบาท ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2557 นั้น ขณะนี้ได้คืนไปแล้ว 1.07 หมื่นล้านบาท เหลืออีก 9.3 พันล้านบาท มั่นใจว่าจะคืนได้ตามกำหนดแน่นอน
***ประมูลข้าวต่างจังหวัดครั้งแรกยื่นซื้อ8ราย
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า มีผู้ประกอบการค้าข้าวและโรงสีที่สนใจยื่นซองประมูลซื้อข้าวในระดับภูมิภาคครั้งแรกที่จ.สุพรรณบุรี ปริมาณ 1.69 แสนตัน จำนวน 8 ราย ได้แก่ หจก.สุพรรณบุรี อะกริ จัลเนอร์รอล เพอร์เฟ็คท์ บริษัท มิตรนำชัยไรท์ หจก.ทรัพย์แสงทอง โรงสีไฟศรีกรุงลาดกระบัง บริษัท ไทยฟ้า (2511) จำกัด บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด บริษัท เอเชียโกลเด้นไรท์ จำกัด และหจก.ข้าวซี.พี.จำกัด โดยหากได้ราคาเหมาะสม ก็จะเสนอให้นายนิวัฒน์ธำรงอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ กรมฯ จะเปิดประมูลครั้งต่อไปที่ จ.นครสวรรค์ และเชียงราย โดยจะเปิดประมูลให้ได้เดือนละ 1-2 ครั้ง และวันนี้ (10 เม.ย.) จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวอีก 4.2 แสนตัน
ส่วนการระบายข้าววิธีอื่นๆ จะเร่งขายจีทูจีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอิรักยอมเปิดตลาดให้มีการนำเข้าข้าวจากไทยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขายจีทูจี และยังมีแผนจะไปทำตลาดที่แอฟริกา โดยล่าสุดมาเลเซียได้ติดต่อขอซื้อข้าวไทย 4 แสนตัน สหรัฐฯ ก็สนใจขอซื้อ ส่วนข้าวฟิลิปปินส์ ที่เปิดประมูล 8 แสนตัน มีภาคเอกชนไทยเข้าร่วมประมูล คาดว่าน่าจะชนะการประมูลได้
***ยื่นซื้อข้าวผ่านเอเฟต15รายได้ราคาดีขึ้น
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สำหรับการยื่นซองเสนอราคาประมูลข้าวในสต็อกของรัฐบาล ผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ครั้งที่ 9 จำนวน 2.64 แสนตัน มีเอกชนสนใจมายื่นซองจำนวนทั้งสิ้น 15 ราย โดยครั้งนี้มีการเสนอราคาส่วนต่างจากราคาส่งมอบอยู่ในระดับที่ดี ข้าวขาว 5% เสนอราคาที่ลบ 1.70 ถึงลบ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม และข้าวหอมมะลิเสนอราคาที่ลบ 2.45 ถึงลบ 2.55 บาทต่อกิโลกรัม ดีกว่าครั้งก่อนที่ข้าวหอมมะลิมีผู้เสนอราคาถึงลบ 5 บาทต่อกิโลกรัม และจะเปิดครั้งต่อไปวันที่ 23 เม.ย.2557 ปริมาณ 2 แสนตัน
***เคาะเลือก "สุภา"เป็นกรรมการป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ได้ประชุมเป็นครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยที่ประชุมลงมติเลือก น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยคะแนนเสียง 2 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ โดยจะมีการนำรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. เสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อดำเนินการต่อไป
***ปชป.ซัดพยายามถ่วงเวลาช่วย"ปู"
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการให้ความร่วมมือ และพยายามเสนอพยานเพิ่มเติม เพื่อถ่วงเวลาไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ด้วยตัวเอง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลตอบโต้ ป.ป.ช.ว่าข้าวไม่ได้หาย 2 ล้านตัน แต่เป็นเพราะไม่ได้ลงบัญชี แสดงว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง เพราะไม่มีการลงบัญชี และเห็นว่า การเลือกให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง อดีตประธานคณะอนุกรรมปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว เป็นกรรมการ ป.ป.ช. จะทำให้คดีนี้คลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นผู้ที่รับทราบข้อมูลเป็นอย่างดี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้ ป.ป.ช. ทันเกมรัฐบาล เพราะขณะนี้มีขบวนการนำข้าวที่อ้างว่าลืมลงบัญชีกลับมาคืนรัฐบาลแล้ว จึงกล้าออกมายืนยันว่า ข้าวไม่หาย