ASTVผู้จัดการรายวัน- จับตาประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาล 5.17 แสนตัน ผู้ประกอบการ 34 รายรู้ทัน!แห่ยื่นซอง ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จับตากดราคาซื้อหรือไม่ หลังราคาตลาดดิ่งต่อเนื่อง ด้านชาวนานัดเคลื่อนพลใหญ่ 12 มี.ค. ส่วนการยืมงบกลาง 2 หมื่นล้านจ่ายชาวนา ยังนิ่งสนิท โฆษกปชป. ชี้ ขรก.ผวาคุก ไม่กล้าเซ็น ทำชาวนาถูกหลอกซ้ำซาก จวก"ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์" สุดใจดำ ไม่บริจาคเงินเข้ากองทุนชาวนาแม้แต่สลึงเดียว เคราะห์ซ้ำกรรมซัดชาวนาเมืองช้าง ถูกธ.ก.ส.ทวงดอกเบี้ย-หนี้บัตรเครดิต วิ่งกู้นอกระบบร้อยละ 5 มาจ่าย ด้านผู้ว่าฯบุรีรัมย์ สั่งสอบข้าวในโกดังอ.ประโคนชัย หายไปกว่า 1,400 กระสอบหลังเอกชนประมูลได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มี.ค.) กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดให้มีการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 5.17 แสนตัน โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ ทั้งผู้ส่งออก โรงสี ทยอยเข้ายื่นประมูลเป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลาปิดการประมูลในเวลา 16.30 น. โดยมีผู้เข้าร่วมประมูลรวมทั้งสิ้น 34 ราย
ซึ่งนับเป็นการเข้ายื่นประมูลข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการเปิดให้มีการประมูลข้าวของกระทรวงพาณิชย์
โดยข้าวที่นำมาเปิดประมูลครั้งนี้ แบ่งเป็นข้านข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น2 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวหอมปทุม ข้าวขาว 5% และปลายข้าวเอวันเลิศ ซึ่งอยู่ในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) แบบยกคลัง ฤดูกาลผลิต ข้าวนาปี 2554/55 /ข้าวนาปรังปี 2555 และข้าวปีการผลิต 2555/56 ทั้ง 2 รอบ รวมถึงข้าวปีการผลิต 2556/57 ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้เข้าร่วมประมูลข้าว ส่วนใหญ่แจ้งว่า ไม่ได้เสนอราคาสูงมากนัก โดยเสนอราคาใกล้เคียงหรือต่ำกว่าราคาตลาด เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดระบายข้าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งประมูลทั่วไป และในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ที่สำคัญ ราคาข้าวในตลาดขณะนี้ ก็ไม่ได้สูงมาก โดยข้าวขาว 5% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 440เหรียญสหรัฐเท่านั้น
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การเปิดระบายข้าวในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก ซึ่งยืนยันว่าการขายจะขายในราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาด หากเสนอซื้อต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ก็จะไม่พิจารณาขายให้ โดยจะมีการเปิดซองราคาและเจรจาต่อรองกับผู้ที่ยื่นประมูลที่ผ่านเกณฑ์ในวันนี้ (11 มี.ค.)
นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า จากราคาข้าวในตลาดที่ปรับตัวลดลง ทำให้เอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาลมากขึ้น โดยขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% อยู่ที่ตันะล 7,500 -7,800 บาท ส่วนข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 12,500 บาท
***ชาวนานัดรวมพลก่อนเคลื่อนไหวใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มชาวนาที่กระทรวงพาณิชย์ ยังคงปักหลักชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชาวนาได้เดินทางมาร่วมชุมนุมค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากเตรียมเดินทางมาร่วมชุมนุมในวันนี้ (11 มี.ค.) โดยจะมีชาวนาจากภาคอีสาน ภาคตะวันตก และภาคกลาง เดินทางเข้ามา ก่อนที่จะร่วมเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค.2557
นายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย กล่าวว่า วันนี้ (11 มี.ค.) จะเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อไปให้กำลังใจคณะทำงานไต่สวนคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว หลังจากช่วงเวลาที่ผ่านมา ป.ป.ช. โดนกดดันในหลายทาง และในช่วงบ่ายจะเคลื่อนไหวไปอีกจุด แต่ยังไม่เปิดเผยสถานที่ ส่วนการเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. จะมุ่งไปที่เดียว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยสถานที่ได้ เพราะเกรงว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาสกัดการเคลื่อนไหว
***ยืม 2 หมื่นล้านจ่ายชาวนายังนิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับงบกลาง 2 หมื่นล้าน ที่กกต. อนุมัติให้รัฐบาลนำไปจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้กับชาวนานั้น ล่าสุด กกต. ได้มีหนังสือแจ้งมายังกระทรวงพาณิชย์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ และยังมีปัญหาในเรื่องของผู้ที่จะไปลงนามในสัญญายืมเงินในครั้งนี้ เพราะต้องรับความเสี่ยงถูกฟ้องร้องในภายหลัง
หากรัฐบาลไม่สามารถคืนเงินได้ทันกำหนดวันที่ 31 พ.ค.2557 ตามที่ กกต. ระบุไว้
***ปชป.ชี้ข้าราชการไม่กล้าเซ็นผวาคุก
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ยังไม่มีการเซ็นเพื่อนำเงินฉุกเฉิน 2 หมื่นล้านบาท จากงบกลาง มาจ่ายหนี้ชาวนา เพราะข้าราชการไม่กล้า เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีอาญาและวินัยในอนาคต เพราะรัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวเพื่อนำเงินมาคืนภายในวันที่ 31 พ.ค. ตามเงื่อนไขของ กกต. จึงเกรงว่าชาวนาจะถูกหลอกอีกครั้ง รวมถึงการที่กระทรวงพาณิชย์ ระบุจะระบายข้าวห้าแสนตัน ที่มีความไม่โปร่งใส ก็น่าจะไม่สามารถทำได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้อง ต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ชัดว่า ชาวนาจะได้เงินเมื่อไร เพราะทางที่จะได้เงินเร็วที่สุดคือ กองทุนของธ.ก.ส. แต่เป็นความใจดำของตระกูลชินวัตร และวงศ์สวัสดิ์ ที่ไม่มีเงินแม้แต่สลึงเดียว เข้ากองทุนของชาวนา
***ชาวนาสุดช้ำถูกธ.ก.ส.ทวง'ดบ.-หนี้บัตร'
วานนี้(10 มี.ค.) ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)สาขาสุรินทร์ ชาวนาลูกค้าธ.ก.ส.จำนวนมาก นำเงินมาชำระหนี้เงินกู้ หลังธ.ก.ส.สาขาสุรินทร์มีหนังสือเร่งรัดชำระดอกเบี้ยเงินกู้ รวมทั้งบัตรเครดิตเกษตรกร ซึ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวเป็นอย่างมาก ต้องงกู้เงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูงร้อยละ 5 ต่อเดือน และหลายรายต้องนำใบประทวนไปจำนำไว้กับนายทุนชื่อ "เจ๊ ม." ดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน โดยมีเจ้าหน้าที่ธ.ก.ส.บางคนรู้เห็นเป็นใจ รวมมูลค่าจำนำหลายร้อยล้านบาท
นางถวิล ศรีละออ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 2 ต.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า มาชำระดอกเบี้ยกว่า 2,000 บาท จากที่กู้ไป 50,000 บาท โดยไปกู้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือนมาให้ เพราะตนและเพื่อนบ้านยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ซึ่งต่างเฝ้ารอให้รัฐบาลจ่ายเงินเร็วๆ จะได้ใช้หนี้ธ.ก.ส.ให้หมด แต่ก็ยังไม่ได้ ซ้ำร้ายธ.ก.ส.มีหนังสือทวงหนี้มาอีก ทำให้เดือนร้อนกันถ้วนหน้า
นางจันทร์ ผิวงาม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 2 ต.เมืองที อ.เมือง กล่าวว่า มาจ่ายดอกเบี้ยและหนี้บัตรเครดิตเกษตรกร ที่รูดใช้ไป 9,000 บาท รวมทั้งหนีซื้อรถจักรยานยนต์ หนี้เงินทุนหมุนเวียน รวมแล้วปีนี้ต้องชำระดอกเบี้ย 12,000 บาท ขณะที่เงินจำนำข้าวก็ยังไม่ได้ จึงต้องไปกู้นอกระบบมาใช้
ทั้งนี้ รายงานผลการรับจำนำข้าเปลือกและจ่ายเงินปีการผลิต 2556/57 ของจ.สุรินทร์ มีใบประทวน 5,636 ฉบับ วงเงิน 8,781,263,945 บาท จ่ายเงินแล้ว 32,550 ฉบับ วงเงิน 2,647,796,575 บาท ค้างจ่าย 6,133,467,370 บาท
วันเดียวกัน ชาวบ้านห้วยน้ำเย็น หมู่ 13 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 30 คน ร้องทุกข์ต่อนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้ช่วยเหลือกรณียังไม่ได้รับเงินชดเชยจากโครงการแทรกแซงราคาข้าวโพดฤดู 2556/57 โดยนายนิพนธ์ พานพิชัย ผู้ใหญ่บ้านห้วยน้ำเย็น กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านนำข้าวโพดไปขายให้เอกชนตามจุดที่หน่วยงานภาครัฐแจ้ง และได้เอกสารรับใบค่าชดเชยมาประมาณ 4 เดือนแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับเงินค่าชดเชยกันเลย ขณะเดียวกันต้องการให้ตรวจสอบว่ามีการลักลอบสวมสิทธิขายข้าวโพดที่ลานรับซื้อแห่งหนึ่งในอ.เชียงแสน หรือไม่ด้วย
นายแสนชัย แซ่ฟุ้ง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า บ้านห้วยน้ำเย็นมีผู้ปลูกข้าวโพดกว่า 100 ราย ผลผลิตกว่า 5,000 ตัน ยังไม่ได้รับเงินชดเชยกิโลกรัมละ 1.50 บาท สอบถามไปยังลานรับซื้อ กลับมีชื่อบุคคลที่ไม่ใช่คนในหมู่บ้าน และไม่ใช่ผู้ปลูกข้าวโพดจริงไปขอเบิกเงินชดเชย จึงอยากให้จ่ายเงินให้เกษตรกรโดยตรง มากกว่าจ่ายผ่านเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
ต่อมา นายเฉลิมพล พงษ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย ชี้แจงกับชาวบ้านว่า จ.เชียงราย มีเกษตรกรนำข้าวโพดเข้าร่วมโครงการ 157,067.35 ตัน มูลค่า 235,601,029.40 บาท จัดสรรเงินชดเชย 153 ล้านบาท หรือร้อยละ 54 ยังเหลือต้องจ่ายอีก 81 ล้านบาท ซึ่งวันที่ 11 มีนาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด ครั้งที่ 3/2557 จะนำปัญหาเข้าหารือ ซึ่งเกษตรกรจะได้คำตอบ ชาวบ้านจึงยอมสลายตัวไป
จ.บุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกคณะสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและตรวจนับข้าวสารประชุมติดตามข้อกรณีขนย้ายข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวปี 2555/56 ออกจากคลังกลาง หลังเจ้าหน้าที่ตรวจนับข้าวสารในโกดังกลาง"“ประทีป ซีเมนต์ บล็อก"อ.ประโคนชัย ก่อนส่งให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) เพื่อส่งมอบให้ผู้ส่งออกที่ได้ชนะการประมูลไปจำหน่ายยังต่างประเทศ แต่กลับพบว่าข้าวสารหายไป 1,458 กระสอบ จากที่มีอยู่ทั้งสิ้น 35,784 กระสอบ
ขณะที่เจ้าของโกดังอ้างว่ากล้องวงจรปิดขัดข้อง ซึ่งผิดกับเงื่อนไขการทำสัญญาเปิดโกดังกลาง ซึ่งอคส.ได้แจ้งความไว้ที่กองปราบปรามแล้ว ส่วนในพื้นที่ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วเช่นกัน
นายธงชัย กล่าวว่า หากข้าวหายไปก็ให้หาตัวผู้กระทำผิด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มาดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงให้ตรวจสอบว่ามีส่วนราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเอื้อต่อการทุจริตหรือไม่ด้วย หากพบว่าเกี่ยวข้องก็ให้เอาผิดโดยไม่ละเว้นด้วยเช่นกัน.
