ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้การตำรวจยะลาถกคดีระเบิดกลางเมือง เผยคนร้ายร่วมก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 4 คน กล้องวงจรปิดจับใบหน้าชัดเจน เชื่อเหตุป่วน 2 วันฝีมือกลุ่มเดียวกัน ขณะตร.ปัตตานีรวบ 3 ผู้ต้องหาพร้อมปืนสงคราม เค้นสอบโยงความคดีมั่นคงหรือไม่ ฝ่ายมั่นคงปัตตานีแจกภาพรถต้องสงสัย หวั่นคาร์บอมซ้ำรอยยะลา "ภราดร" ได้ที ชี้ส่งสัญญาณเปลี่ยน"แม่ทัพภาค 4-เลขาฯสมช." ด้าน ”ยิ่งลักษณ์" สั่ง "ประชา-บิ๊กอ๊อด" ลงใต้เยียวยาความเสียหาย-คนเจ็บ
จากกรณีคนร้ายลอยวางระเบิดกลางเมืองยะลา 4 จุดเย็นวันที่ 6 เมษายน มีผู้บาดเจ็บ 28 ราย เสียชีวิต 1 ราย และลอบวางระเบิด 4 จุดเช้าวันที่ 7 เมษายน และเกิดเพลิงไหม้โกดังศรีสมัยค้าส่ง เสียหายกว่า 100 ล้านบาทนั้น
เมื่อเวลา 07.50 น. วานนี้(8 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผบก.ภ.จว.ยะลา ประชุมร่วมกับพ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สส.ภ.จว. ชุดสืบสวนสอบสวนภ.จว. ชุดสืบสวนสอบสวนสภ.เมือง เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยพล.ต.ต.ทรงเกียรติ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า เบื้องต้นเชื่อว่าเหตุลอบวางระเบิดทั้ง 2 วัน เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากพบหลักฐานโทรศัพท์มือถือซัมซุง ฮีโร่ ในจุดเกิดเหตุ ซึ่คนร้ายใช้ตั้งเวลาจุดชนวนระเบิด รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด พบพฤติกรรมการนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้างซุกระเบิด นำเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ซึ่งชุดสืบสวนกำลังแกะรอย โดยมีเป้าหมายผู้ต้องสงสัยแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายที่ลงมือมีไม่ต่ำกว่า 4 คน ขับรถกระบะมาสด้า บีที 50 สีขาว บรรทุกสิ่งของไว้ด้านหลัง ติดสติกเกอร์องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ที่กระจกรถหน้าเชื่อว่าคนร้ายต้องการอำพรางรถว่าเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนี้ยังพบคนร้ายขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีตู้ไอศครีมตามมาข้างหลัง รวมทั้งชายต้องสงสัย 2 คนขับจักรยานยนต์ตามมา โดยรถกระบะและรถจักรยานยนต์พ่วงข้างวิ่งผ่านถนนสาย 15 ผ่านจุดตรวจ อาสาสมัคร(อส.)ตรงสามแยกสะเตง แล้วผ่านหน้าโรงพยาบาลยะลา
เมื่อถึง 4 แยกตลาดเมืองใหม่ คนร้ายขับจักรยานยนต์พ่วงข้างเลี้ยวเข้าไปจอดในซอยข้างร้านฟ้าใสประดับเรือน ส่วนรถกระบะขับตรงไปตามถนนสิโรรส ผ่านหน้าห้างโคลีเซี่ยมยะลา ก่อนจะกลับรถมาจอดหน้าร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งบันทึกภาพใบหน้าคนร้ายได้ชัดเจน 1 คน อยู่ระหว่างการเทียบเคียงใบหน้าผู้ต้องสงสัย เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการร่วมมือของกลุ่มคนร้ายจากอ.ธารโต จ.ยะลา กับเขตอ.เมือง จ.ยะลา
**ปัตตานีรวบ3ผู้ต้องหาพร้อมอาวุธสงคราม
ด้านพ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำราญ รองผบก.ภ.จว.ปัตตานี นำกำลังร่วม 3 ฝ่ายปิดล้อมตรวจค้น 10 จุดในอ.มายอ เนื่องจากมีรายงานว่ากลุ่มก่อเหตุรุนแรง เข้ามาเคลื่อนไหวในอ.มายอ และอ.ทุ่งยางแดง คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่อาจร่วมก่อเหตุในจ.ยะลา เนื่องจากอ.มายอ และอ.ทุ่งยางแดง เป็นเส้นทางหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 3 คน ประกอบด้วย นายอารีย์ เด็ง อายุ 53 ปี พร้อมปืนเอ็ม 16 กระสุน 96 นัด นายสะมาแอ ตาแกะ อายุ 59 ปี พร้อมปืนขนาด 9 มม. กระสุนปืน และนายอดุลย์ อาลี อายุ 25 ปี พร้อมปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก นำไปสอบสวนพร้อมตรวจสอบประวัติ รวมทั้งนำปืนไปตรวจเปรียบเทียบว่าเคยก่อเหตุที่ใดมาบ้าง
**"นราธิวาส-ปัตตานี"สั่งรปภ.เข้มหวั่นซ้ำรอย
พ.ท.รณวรรณ พจน์สถิตย์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนมีการจัดกิจกรรมในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ประกอบกับเกิดเหตุในจ.ยะลา จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงกำหนดมาตรการเข้ม 3 ช่วง คือ ก่อนวันงาน ช่วงการจัดงาน และหลังจัดงาน ส่วนพื้นที่รอบนอกจะมีชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดนอกเครื่องแบบเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ และเขตเซฟตี้โซน เส้นทางเข้า-ออกพื้นที่ ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ซึ่งจะตรวจรถทุกชนิด และอาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก แต่ขอให้เข้าใจเพราะต้องให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของของประชาชนและนักท่องเที่ยว และขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสบุคคลแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย หรือวัตถุต้องสงสัยหน้าเคหะสถาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงจ.ปัตตานี นำภาพรถยนต์ต้องสงสัยตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน 36 คัน แจกจ่ายไปยังจุดตรวจและสถานที่ต่างๆใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจค้นอย่างเข้มงวด เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุอาจจะนำมาดัดแปลงและเปลี่ยนทะเบียนเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมายได้ ขณะที่พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ย้ำให้ตำรวจคุ้มเข้มเส้นทางเข้า-ออกเมืองปัตตานี เนื่องจากสืบทราบว่าคนร้ายเตรียมก่อเหตุในย่านเศรษฐกิจเช่นเดียวกับที่จ.ยะลา
**"ตร.-ตชด.-ทพ."ตั้งจุดสกัดรถคุ้ม"เมืองเบตง"
ด้านนายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา กำชับให้ตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ทหารพราน และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเข้มข้น ออกลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้า-ออกย่านเศรษฐกิจ พื้นที่สุมเสี่ยงที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวพลุกพล่านในเขตเทศบาลเมืองเบตง พร้อมเปรียบเทียบบุคคลต้องสงสัยจากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง ทั้งระดับแกนนำและแนวร่วมอย่างละเอียด ขณะเดียวกันให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนไปยังร้านสะดวกซื้อและผู้ประกอบการ เฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่อาจลักลอบเข้ามาภายในร้าน รวมทั้งกำชับโรงแรมทุกแห่งตรวจสอบบัตรประชาชนผู้เข้าพัก เพราะคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาเพื่อลอบวางระเบิดก่อนเทศกาลสงกรานต์
อีกทั้งยังมีรายงานว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นอีกหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มพูโลใหม่ที่แตกตัวออกไปเป็น "พูโลนก" ใช้รูปนกเป็นสัญลักษณ์ และ "พูโลกริช" ใช้รูปกริชเป็นสัญลักษณ์ ไม่ได้ร่วมโต๊ะเจรจาด้วย ทั้งที่แกนนำบางคนมีบทบาทพูดคุยอย่างลับๆกับฝ่ายความมั่นคงของไทยมาหลายปี บางรายถึงขั้นเคยทำข้อตกลงหยุดยิงบางพื้นที่มาแล้ว รวมทั้งกลุ่มอื่นที่มีแนวโน้มจะตกขบวนการพูดคุยสันติภาพเกิดความไม่พอใจ จัดตั้ง "กองกำลังรุ่นใหม่" ที่ใช้ชื่อว่าพีแอลเอ( PLA:PULO Liberation Army)ระดมกวัยรุ่นที่ไม่มีหมายจับ ไปฝึกอาวุธและลอบวางระเบิด ซึ่งเหตุรุนแรงช่วงที่ผ่านมาส่วนหนึ่ง หน่วยข่าวความมั่นคงคาดว่ามาจากฝีมือของกลุ่มนี้
**"ภราดร"ชี้เหตุเปลี่ยนแม่ทัพภาค4-เลขาฯสมช.
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเราไม่ได้ประมาท และไม่ใช่การวัดกำลังจากฝ่ายรัฐ
ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า เดือนเมษายนเป็นช่วงวงรอบของเหตุการณ์การณ์ลักษณะนี้ เพราะครบรอบการสถาปนา-บวนการบีอาร์เอ็น วันสถาปนาธรรมนูญของกลุ่มเบอซาตู และเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ และสาเหตุหนึ่งมาจากการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 และเลขาธิการสมช. รวมทั้งการพูดคุยสันติภาพที่หยุดชะงักไป ซึ่งกลุ่มที่ไม่ต้องการและต้องการให้พูดคุยต่างพยายามจะสร้างสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะเป็นแค่รัฐบาลรักษาการ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (9เม.ย.)ตนและพล.อ.ยุทธศักดิ์ จะลงพื้นที่จ.ปัตตานี ตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ตนดูในเรื่องการเยียวยาความเสียหายและผู้บาดเจ็บ ซึ่งใช้งบประมาณศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ส่วนพล.อ.ยุทธศักดิ์ จะดูในส่วนของยุทธการ
จากกรณีคนร้ายลอยวางระเบิดกลางเมืองยะลา 4 จุดเย็นวันที่ 6 เมษายน มีผู้บาดเจ็บ 28 ราย เสียชีวิต 1 ราย และลอบวางระเบิด 4 จุดเช้าวันที่ 7 เมษายน และเกิดเพลิงไหม้โกดังศรีสมัยค้าส่ง เสียหายกว่า 100 ล้านบาทนั้น
เมื่อเวลา 07.50 น. วานนี้(8 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผบก.ภ.จว.ยะลา ประชุมร่วมกับพ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สส.ภ.จว. ชุดสืบสวนสอบสวนภ.จว. ชุดสืบสวนสอบสวนสภ.เมือง เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยพล.ต.ต.ทรงเกียรติ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า เบื้องต้นเชื่อว่าเหตุลอบวางระเบิดทั้ง 2 วัน เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากพบหลักฐานโทรศัพท์มือถือซัมซุง ฮีโร่ ในจุดเกิดเหตุ ซึ่คนร้ายใช้ตั้งเวลาจุดชนวนระเบิด รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด พบพฤติกรรมการนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้างซุกระเบิด นำเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ซึ่งชุดสืบสวนกำลังแกะรอย โดยมีเป้าหมายผู้ต้องสงสัยแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายที่ลงมือมีไม่ต่ำกว่า 4 คน ขับรถกระบะมาสด้า บีที 50 สีขาว บรรทุกสิ่งของไว้ด้านหลัง ติดสติกเกอร์องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ที่กระจกรถหน้าเชื่อว่าคนร้ายต้องการอำพรางรถว่าเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนี้ยังพบคนร้ายขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีตู้ไอศครีมตามมาข้างหลัง รวมทั้งชายต้องสงสัย 2 คนขับจักรยานยนต์ตามมา โดยรถกระบะและรถจักรยานยนต์พ่วงข้างวิ่งผ่านถนนสาย 15 ผ่านจุดตรวจ อาสาสมัคร(อส.)ตรงสามแยกสะเตง แล้วผ่านหน้าโรงพยาบาลยะลา
เมื่อถึง 4 แยกตลาดเมืองใหม่ คนร้ายขับจักรยานยนต์พ่วงข้างเลี้ยวเข้าไปจอดในซอยข้างร้านฟ้าใสประดับเรือน ส่วนรถกระบะขับตรงไปตามถนนสิโรรส ผ่านหน้าห้างโคลีเซี่ยมยะลา ก่อนจะกลับรถมาจอดหน้าร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งบันทึกภาพใบหน้าคนร้ายได้ชัดเจน 1 คน อยู่ระหว่างการเทียบเคียงใบหน้าผู้ต้องสงสัย เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการร่วมมือของกลุ่มคนร้ายจากอ.ธารโต จ.ยะลา กับเขตอ.เมือง จ.ยะลา
**ปัตตานีรวบ3ผู้ต้องหาพร้อมอาวุธสงคราม
ด้านพ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำราญ รองผบก.ภ.จว.ปัตตานี นำกำลังร่วม 3 ฝ่ายปิดล้อมตรวจค้น 10 จุดในอ.มายอ เนื่องจากมีรายงานว่ากลุ่มก่อเหตุรุนแรง เข้ามาเคลื่อนไหวในอ.มายอ และอ.ทุ่งยางแดง คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่อาจร่วมก่อเหตุในจ.ยะลา เนื่องจากอ.มายอ และอ.ทุ่งยางแดง เป็นเส้นทางหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 3 คน ประกอบด้วย นายอารีย์ เด็ง อายุ 53 ปี พร้อมปืนเอ็ม 16 กระสุน 96 นัด นายสะมาแอ ตาแกะ อายุ 59 ปี พร้อมปืนขนาด 9 มม. กระสุนปืน และนายอดุลย์ อาลี อายุ 25 ปี พร้อมปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก นำไปสอบสวนพร้อมตรวจสอบประวัติ รวมทั้งนำปืนไปตรวจเปรียบเทียบว่าเคยก่อเหตุที่ใดมาบ้าง
**"นราธิวาส-ปัตตานี"สั่งรปภ.เข้มหวั่นซ้ำรอย
พ.ท.รณวรรณ พจน์สถิตย์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนมีการจัดกิจกรรมในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ประกอบกับเกิดเหตุในจ.ยะลา จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงกำหนดมาตรการเข้ม 3 ช่วง คือ ก่อนวันงาน ช่วงการจัดงาน และหลังจัดงาน ส่วนพื้นที่รอบนอกจะมีชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดนอกเครื่องแบบเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ และเขตเซฟตี้โซน เส้นทางเข้า-ออกพื้นที่ ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ซึ่งจะตรวจรถทุกชนิด และอาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก แต่ขอให้เข้าใจเพราะต้องให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของของประชาชนและนักท่องเที่ยว และขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสบุคคลแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย หรือวัตถุต้องสงสัยหน้าเคหะสถาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงจ.ปัตตานี นำภาพรถยนต์ต้องสงสัยตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน 36 คัน แจกจ่ายไปยังจุดตรวจและสถานที่ต่างๆใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจค้นอย่างเข้มงวด เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุอาจจะนำมาดัดแปลงและเปลี่ยนทะเบียนเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมายได้ ขณะที่พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ย้ำให้ตำรวจคุ้มเข้มเส้นทางเข้า-ออกเมืองปัตตานี เนื่องจากสืบทราบว่าคนร้ายเตรียมก่อเหตุในย่านเศรษฐกิจเช่นเดียวกับที่จ.ยะลา
**"ตร.-ตชด.-ทพ."ตั้งจุดสกัดรถคุ้ม"เมืองเบตง"
ด้านนายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา กำชับให้ตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ทหารพราน และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเข้มข้น ออกลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้า-ออกย่านเศรษฐกิจ พื้นที่สุมเสี่ยงที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวพลุกพล่านในเขตเทศบาลเมืองเบตง พร้อมเปรียบเทียบบุคคลต้องสงสัยจากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง ทั้งระดับแกนนำและแนวร่วมอย่างละเอียด ขณะเดียวกันให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนไปยังร้านสะดวกซื้อและผู้ประกอบการ เฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่อาจลักลอบเข้ามาภายในร้าน รวมทั้งกำชับโรงแรมทุกแห่งตรวจสอบบัตรประชาชนผู้เข้าพัก เพราะคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาเพื่อลอบวางระเบิดก่อนเทศกาลสงกรานต์
อีกทั้งยังมีรายงานว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นอีกหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มพูโลใหม่ที่แตกตัวออกไปเป็น "พูโลนก" ใช้รูปนกเป็นสัญลักษณ์ และ "พูโลกริช" ใช้รูปกริชเป็นสัญลักษณ์ ไม่ได้ร่วมโต๊ะเจรจาด้วย ทั้งที่แกนนำบางคนมีบทบาทพูดคุยอย่างลับๆกับฝ่ายความมั่นคงของไทยมาหลายปี บางรายถึงขั้นเคยทำข้อตกลงหยุดยิงบางพื้นที่มาแล้ว รวมทั้งกลุ่มอื่นที่มีแนวโน้มจะตกขบวนการพูดคุยสันติภาพเกิดความไม่พอใจ จัดตั้ง "กองกำลังรุ่นใหม่" ที่ใช้ชื่อว่าพีแอลเอ( PLA:PULO Liberation Army)ระดมกวัยรุ่นที่ไม่มีหมายจับ ไปฝึกอาวุธและลอบวางระเบิด ซึ่งเหตุรุนแรงช่วงที่ผ่านมาส่วนหนึ่ง หน่วยข่าวความมั่นคงคาดว่ามาจากฝีมือของกลุ่มนี้
**"ภราดร"ชี้เหตุเปลี่ยนแม่ทัพภาค4-เลขาฯสมช.
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเราไม่ได้ประมาท และไม่ใช่การวัดกำลังจากฝ่ายรัฐ
ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า เดือนเมษายนเป็นช่วงวงรอบของเหตุการณ์การณ์ลักษณะนี้ เพราะครบรอบการสถาปนา-บวนการบีอาร์เอ็น วันสถาปนาธรรมนูญของกลุ่มเบอซาตู และเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ และสาเหตุหนึ่งมาจากการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 และเลขาธิการสมช. รวมทั้งการพูดคุยสันติภาพที่หยุดชะงักไป ซึ่งกลุ่มที่ไม่ต้องการและต้องการให้พูดคุยต่างพยายามจะสร้างสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะเป็นแค่รัฐบาลรักษาการ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (9เม.ย.)ตนและพล.อ.ยุทธศักดิ์ จะลงพื้นที่จ.ปัตตานี ตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ตนดูในเรื่องการเยียวยาความเสียหายและผู้บาดเจ็บ ซึ่งใช้งบประมาณศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ส่วนพล.อ.ยุทธศักดิ์ จะดูในส่วนของยุทธการ
