วานนี้ (15ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.45 น. จากนั้นเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.พร้อมด้วย พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพบ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
จากนั้นเดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ครั้งที่ 1/2556 เพื่อบูรณาการงานแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรอง ผอ.กปต. นายนิวัฒธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ ในฐานะ รอง ผอ.กปต. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ รอง ผอ.กปต. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.นิพัทธิ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขา สมช. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขา ศอ.บต. และได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวภายหลังประชุม คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต. ) ว่า ได้มีการหารือถึง ข้อเสนอ 5 ข้อ ของกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำข้อเสนอดังกล่าวไปประเมิน และพูดคุย เพื่อนำผลสรุปมาเข้าที่ประชุม กปต. ในสัปดาห์หน้า โดยมี นายประชา พรหมนอก เป็น ผอ.ศปก.กปต และนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การพูดคุย กับกลุ่มบีอาร์เอ็น ยังจะต้องดำเนินการต่อไป โดยผู้ประสานจากมาเลเซียแจ้งมาว่า ทางกลุ่มบีอาร์เอ็น ยืนยันว่า การพูดคุยก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้ล้มเลิก และนายฮัดซัน ตอยิป ยังเป็นแกนนนำการพูดคุยเหมือนเดิม ส่วนจะพูดคุย เมื่อไรนั้น ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้หารือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุม กปต.ที่ประชุมได้รับทราบรายงานการปรับปรุงองค์ประกอบของ กปต.เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเพื่อให้เป็นกลไกระดับสูง ทำหน้าที่ในการสั่งการ อำนวยการกำกับติดตาม และ ประสานการขับเคลื่อนให้เกิดเอกภาพ และบูรณาการในการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ยกเลิกคณะกรรมการชุดเดิม และให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ โดยมี นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.ต.อ.ประชา พรมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เป็นรองประธานคณะกรรมการ
ทั้งนี้ นายกฯ ได้กำชับในที่ประชุมให้ พล.ต.อ.ประชา ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. จัดทำแผนปรับโครงสร้างการทำงาน ศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ซึ่งมี 17 กระทรวง โดยคำนึง ถึงการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบการทำงานให้มีความชัดเจน ตรงกับหน้าที่รับผิดชอบ สอดคล้องกับ 3 กลุ่มงาน คือ งานยุติธรรม งานพัฒนา และการศึกษา โดยพล.ต.อ.ประชา จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้มีรายงานว่า ได้มีการหารือ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการตัดสินคดีประสาทพระวิหารของศาลโลก ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนต.ค. นี้ รวมทั้งการปรับย้ายนายทหารระดับนายพล เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี หลังจากที่เลื่อนมาจากวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา
**“บิ๊กอ๊อด”ไขก๊อก“พ่อตาโอ๊ค”เสียบ
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจรจากับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม เพื่อขอให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล และตัวพ.ต.ท.ทักษิณด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็ยังไม่สามารถชี้แจงให้สังคมกระจ่างได้ โดยล่าสุด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้ตัดสินใจที่จะลาออกจากตำแหน่งในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ โดยให้เหตุผลเรื่องปัญหาสุขภาพ ขณะเดียวกันได้มีการทาบทาม อดีตนายทหารระดับสูงหลายนาย เข้ารับตำแหน่ง รมช.กลาโหม แทน อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีต รอง ผบ.ทบ. และ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีชื่อของพล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม ที่มีโอกาสถูกโยกมาเป็น รมช.กลาโหม แทนมากที่สุด เนื่องจากมีฐานะเป็นบิดาแฟนสาวของนายพานทองแท้ ชินวัตร
จากนั้นเดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ครั้งที่ 1/2556 เพื่อบูรณาการงานแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรอง ผอ.กปต. นายนิวัฒธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ ในฐานะ รอง ผอ.กปต. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ รอง ผอ.กปต. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.นิพัทธิ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขา สมช. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขา ศอ.บต. และได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวภายหลังประชุม คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต. ) ว่า ได้มีการหารือถึง ข้อเสนอ 5 ข้อ ของกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำข้อเสนอดังกล่าวไปประเมิน และพูดคุย เพื่อนำผลสรุปมาเข้าที่ประชุม กปต. ในสัปดาห์หน้า โดยมี นายประชา พรหมนอก เป็น ผอ.ศปก.กปต และนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การพูดคุย กับกลุ่มบีอาร์เอ็น ยังจะต้องดำเนินการต่อไป โดยผู้ประสานจากมาเลเซียแจ้งมาว่า ทางกลุ่มบีอาร์เอ็น ยืนยันว่า การพูดคุยก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้ล้มเลิก และนายฮัดซัน ตอยิป ยังเป็นแกนนนำการพูดคุยเหมือนเดิม ส่วนจะพูดคุย เมื่อไรนั้น ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้หารือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุม กปต.ที่ประชุมได้รับทราบรายงานการปรับปรุงองค์ประกอบของ กปต.เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเพื่อให้เป็นกลไกระดับสูง ทำหน้าที่ในการสั่งการ อำนวยการกำกับติดตาม และ ประสานการขับเคลื่อนให้เกิดเอกภาพ และบูรณาการในการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ยกเลิกคณะกรรมการชุดเดิม และให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ โดยมี นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.ต.อ.ประชา พรมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เป็นรองประธานคณะกรรมการ
ทั้งนี้ นายกฯ ได้กำชับในที่ประชุมให้ พล.ต.อ.ประชา ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. จัดทำแผนปรับโครงสร้างการทำงาน ศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ซึ่งมี 17 กระทรวง โดยคำนึง ถึงการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบการทำงานให้มีความชัดเจน ตรงกับหน้าที่รับผิดชอบ สอดคล้องกับ 3 กลุ่มงาน คือ งานยุติธรรม งานพัฒนา และการศึกษา โดยพล.ต.อ.ประชา จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้มีรายงานว่า ได้มีการหารือ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการตัดสินคดีประสาทพระวิหารของศาลโลก ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนต.ค. นี้ รวมทั้งการปรับย้ายนายทหารระดับนายพล เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี หลังจากที่เลื่อนมาจากวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา
**“บิ๊กอ๊อด”ไขก๊อก“พ่อตาโอ๊ค”เสียบ
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจรจากับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม เพื่อขอให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล และตัวพ.ต.ท.ทักษิณด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็ยังไม่สามารถชี้แจงให้สังคมกระจ่างได้ โดยล่าสุด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้ตัดสินใจที่จะลาออกจากตำแหน่งในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ โดยให้เหตุผลเรื่องปัญหาสุขภาพ ขณะเดียวกันได้มีการทาบทาม อดีตนายทหารระดับสูงหลายนาย เข้ารับตำแหน่ง รมช.กลาโหม แทน อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีต รอง ผบ.ทบ. และ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีชื่อของพล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม ที่มีโอกาสถูกโยกมาเป็น รมช.กลาโหม แทนมากที่สุด เนื่องจากมีฐานะเป็นบิดาแฟนสาวของนายพานทองแท้ ชินวัตร
