รายงานการเมือง
การประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยนัดสำคัญก่อนการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เลื่อนมาจากวันอังคารที่ 30 ก.ค. 56 มาเป็นวันนี้ (31 ก.ค. 56) มีวาระสำคัญที่น่าติดตาม
จากที่มี ส.ส.เพื่อไทย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ กับเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด ผู้ใกล้ชิดกับเฉลิม อยู่บำรุง ออกมาบอกว่าคาใจกับเรื่อง“คลิปถั่งเช่า”
แม้ตอนนี้กระแสเริ่มซาลงไปแล้ว แต่สอง ส.ส.ก็อยากถามว่าเรื่องนี้ตกลงจะต้องมีคนรับผิดชอบอะไรไหม เลยจะใช้เวทีประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยสอบถามเรื่องนี้กันเสียหน่อย โดยพุ่งเป้าไปที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ถึงขั้นมีข่าวแกนนำพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.บางส่วนเห็นว่าแม้เรื่องนี้จะซาไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลทางการเมืองอยู่
โดยเฉพาะหากไม่เคลียร์อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกองทัพกับรัฐบาลและตัวทักษิณ ชินวัตร จึงเสนอให้ยิ่งลักษณ์และทักษิณ ชินวัตร เจรจากับ พล.อ.ยุทธศักดิ์เพื่อให้สละเก้าอี้เพื่อรัฐบาล ยอมลาออกแต่โดยดี
มีอดีตขุนทหารตามข่าวหลายต่อหลายคนจ้องเสียบแทน เช่น พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตรอง ผบ.ทบ.-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม พี่ชายสุดที่รักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.-พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นต้น ทั้งที่ตัว พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังไม่แสดงท่าทีใดๆ แต่กลับมีชื่อมีชื่อคนเสียบแทนแล้ว
ในรายของเวียง วรเชษฐ์ บอกกับสื่อไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนและ ส.ส.หลายคน คงจะลุกขึ้นสอบถามเกี่ยวกับเรื่องคลิปลับที่ยังคาใจอย่างมาก จะปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ ไม่ได้ ต้องทำทุกอย่างให้กระจ่าง เพราะมันเสียหายไปแล้ว
“ผมมองว่าคนเป็นรัฐมนตรีดูแลกองทัพปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้หลุดออกมาได้อย่างไร มันไม่ถูกต้อง ไม่สมควร ฝ่ายทหารต้องมีความรับผิดชอบที่สูง เรื่องแค่นี้ยังรักษาไม่ได้ แล้วจะไปดูการข่าว ความมั่นคงของประเทศได้อย่างไร ต่อไปประชุมอะไรกันเขาก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
พล.อ.ยุทธศักดิ์สมควรพิจารณาตัวเอง อยู่ต่อไปการทำงานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพจะลำบาก วันนี้คนอื่นเขาประเมินแล้วว่า อยู่ต่อไปก็ไม่ดี ไม่มีคนเชื่อมั่นในตัวพล.อ.ยุทธศักดิ์ พล.อ.ยุทธศักดิ์เมื่อด่างพร้อยก็อำลากันไป ลาออกไปดีกว่า คนอื่นมาเป็นแทนได้เยอะแยะ”
เป็นคำพูดของ เวียง ที่ตรงและแรงพอสมควรและหลังสื่อนำเสนอไปแล้ว ไม่มีคำแก้ตัวหรืออ้างว่าสื่อเขียนผิดออกมาจากปากเวียง วรเชษฐ์
สอดรับกับ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เด็กในสังกัดเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เช่นกันว่า
“เท่าที่คุยกับ ส.ส.เพื่อไทย หลายคนมีความเห็นตรงกัน โดยอาจกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ต้องรอถึงวันประชุมพรรค 30 ก.ค. ถ้าจำเป็นจริงๆ อาจมีขบวนการล่าชื่อถอดถอน เพราะทุกคนมองว่าหาก พล.อ.ยุทธศักดิ์อยู่ต่อไปจะมีผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน การประสานงานกับกองทัพจะเกิดปัญหา วันนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์จะนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะกำลังบ่อนเซาะทำลายพรรคเพื่อไทย และทำลายอดีตนายกฯ อย่างรุนแรง”
ทั้ง ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ และเวียง วรเชษฐ์ ไม่ใช่ละอ่อนการเมือง อาจเคยสอบได้บ้างสอบตกบ้าง แต่การที่ออกมาระบุแบบนี้ย่อมรู้ดีว่าแม้ไม่ใช่ระดับแกนนำพรรค ไม่ใช่ ส.ส.อาวุโส แต่ทั้งสองคนก็เป็นรุ่นใหญ่อยู่ในพรรคเพื่อไทย และรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้หากไปล้ำเส้นโดยที่ผู้ใหญ่ไม่ไฟเขียว หรือจับสัญญาณแกนนำพรรคไม่ออก มาเที่ยวพูดแบบนี้ แม้ พล.อ.ยุทธศักดิ์จะไม่ใช่ระดับแกนนำพรรค ไม่มี ส.ส.ในสังกัด ไม่มีอำนาจต่อรองในพรรค แต่การเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 3 รอบในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเสียงในคลิปก็เป็นการคุยกับทักษิณที่แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมไว้วางใจกันอย่างมาก มาเที่ยวแขวะ พล.อ.ยุทธศักดิ์แบบนี้ มีสิทธิ์โดนทักษิณว้ากแตกได้
แต่ทำไม ส.ส.เพื่อไทยกล้าออกมาขย่มบิ๊กอ๊อด แสดงว่ามันต้องมีรายการเลื่อยขาเก้าอี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ก่อนเวลาอันควร โดยมีระดับแกนนำพรรคไฟเขียวแน่นอน เลยต้องรอดูว่า เกมโค่นเก้าอี้ “อ๊อด ถั่งเช่า” ของพวก ส.ส.เพื่อไทย จะมีต่อหรือจบหลังจากนี้
หากที่ประชุมพรรค 31 ก.ค. ไม่มี ส.ส.เพื่อไทยคนไหนไล่บี้ให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ลาออก แสดงว่า มีสัญญาณจากทักษิณมาแล้วว่า ให้หยุดเคลื่อนไหว ยุติการไล่บี้บิ๊กอ๊อด แต่หากยังมีต่อก็เท่ากับได้รับไฟเขียว ดังนั้น บิ๊กอ๊อดต้องเตรียมเก็บของได้ ไม่ช้าก็เร็วต้องไปแน่!
อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.รอบหน้าที่อาจมาเมื่อไรไม่มีใครรู้ อ๊อด ถั่งเช่า มีโอกาสสูงจะโดนปรับออก แต่ที่เร็วกว่านั้นก็คือทักษิณ-แกนนำพรรคเพื่อไทย อาจเห็นว่าจะรอถึงปรับ ครม.ไม่ได้ แม้เรื่องจะเงียบไปแล้ว ก็ต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น อาจใช้การกดดันบีบให้บิ๊กอ๊อดต้องลาออกไปเองโดนมี ส.ส.ในพรรคเป็นตัวเคลื่อน ออกมาขย่มกันต่อเนื่อง
แต่เมื่อดูจากข่าวที่พวกรัฐมนตรี-ส.ส.เพื่อไทยที่บินไปหาทักษิณที่ฮ่องกง พบว่าเรื่องปรับครม.คงมีแน่ ก็อยู่ที่ทักษิณแล้วว่าจะเอาอย่างไรกับบิ๊กอ๊อด และหนึ่งใน รมต.ที่หลายคนเชื่อว่ารอบหน้าปิ๋วแน่นอน ก็คือ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย
ชื่อติดโผมาตลอด แต่รอบที่แล้วรอดมาหวุดหวิด เพราะทักษิณคงไม่ต้องการให้หัวหน้าเพื่อไทยขาลอย เลยยังปรานีให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งรอพิสูจน์ฝีมืออีกสักรอบ ว่าโอเคไหม แม้จะมีคนเลื่อยขาเก้าอี้จารุพงศ์มากมายในพรรค
ถึงขั้นมีข่าว คนเอาข่าวไปบอกทักษิณถึงต่างประเทศเกี่ยวกับการบริหารงานของจารุพงศ์ในกระทรวงมหาดไทยหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องทีมงานและ “คนใกล้ตัว” ที่มีข่าวมักเข้าไปหากินกับงานในกระทรวงอย่างมูมมาม
จนมีข่าวทักษิณต้องเช็กกับเครือข่ายของตัวเองในกระทรวงมหาดไทยเพื่อดับเบิลเช็กข่าวนี้อีกรอบว่าจริงหรือไม่จริง ก่อนที่สุดท้ายจะตัดสินใจให้โอกาสจารุพงศ์อีกครั้ง แต่จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ โอกาสเป็นไปได้สูงลิบ
อาจเพราะเหตุจะโดนเล่นงาน ช่วงหลังจารุพงศ์เลยเล่นบทแข็งกร้าวออกหน้าชนกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและทักษิณเต็มที่ ถึงขั้นประกาศพร้อมสวมบทโหดกับฝ่ายตรงข้ามหากมาขวาง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯหรือคิดจะล้มรัฐบาล ทำเอาโดนด่าเละเทะ ว่าจะเป็น รมต.บริหารประเทศหรือจะมารบกับประชาชน
หากไม่เล่นบทโหดป้องรัฐบาลเพื่อให้เข้าตาทักษิณ เพื่อกลบเรื่องไร้ผลงาน-ให้ท้ายคนใกล้ตัวมายุ่งทำธุรกิจในกระทรวง มีหวังปรับ ครม.รอบหน้า ไม่ใช่แค่หลุดจาก มท.1 ไปเป็นรองนายกฯ แต่อาจถึงขั้นหลุดยาวไปเลย