xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ไอ้ตู่”นำ นปช. “คนเสื้อแดง”เหลือแต่ขี้ข้าล้วนๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจตุพร พรหมพันธุ์ รับตำแหน่งประธาน นปช. ระหว่างการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ขบวนการคนเสื้อแดง อันเป็นแขนขามือตีนของระบอบทักษิณ ที่เรียกชื่อตัวเองเลิศหรูว่า แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้มาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนตัวประธาน จากนางธิดา ถาวรเศรษฐ เป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ในการชุมนุมใหญ่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

นอกจากเปลี่ยนตัวประธานแล้ว ยังตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเลขาธิการ นปช.

ในวันนั้น นางธิดาได้กล่าวบนเวทีว่า นปช.ทั้งหมดเรามีกว่า 20 ล้านคน ตนเองรับหน้าที่ประธาน นปช.มา ร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดงต่อสู้กับอำนาจนอกระบบที่จะล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จนถึงวันนี้ มติที่ประชุมขอมอบตำแหน่งประธาน นปช.ให้แก่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และตำแหน่งเลขาธิการ นปช.ให้แก่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เพื่อต่อสู้ต่อไป เพราะอำนาจนอกระบบยังคงมีความพยายามที่จะล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ล้มล้างรัฐบาล

ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงวาทกรรมที่ท่องจำกันมาหลอกสาวกรากหญ้าให้หลงคล้อยตามเท่านั้น เพราะคำว่าระบอบประชาธิปไตยในความหมายของแกนนำ นปช.ก็คือ ระบอบที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร ชี้นิ้วบงการทุกอย่างได้เท่านั้นเอง

และนี่ก็สะท้อนว่า แนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดงหลังจากนี้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม นั่นคือการรับใช้ผลประโยชน์ของ นช.ทักษิณ ชินวัตรเป็นเป้าหมายสูงสุด โดยมีคำว่าประชาธิปไตยบังหน้า

ยิ่งเมื่อพิจารณาจากการเลือกนายจตุพรมาเป็นหัวโจกหมายเลขหนึ่งแล้ว การรับใช้นายใหญ่จะมีดีกรีที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

นั่นเพราะนายจตุพร ยังคงผูกพันแนบแน่นอยู่กับพรรคเพื่อไทย แม้ว่าจะไม่ได้มีตำแหน่งอยู่ในพรรคก็ตาม แต่ในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา นายจตุพรก็ยังคงเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 20 ซึ่งการันตีว่าจะได้เป็น ส.ส.แน่นอน เมื่อมีการประกาศผลคะแนนออกมา

นอกจากนี้ ตลอด 2 ปีกว่าที่น้องสาวของนายใหญ่ขึ้นมาเป็นนายกฯ นายจตุพรก็จ่อคิวได้เป็นรัฐมนตรีมาโดยตลอด เพียงแต่บ่วงคดีเผาบ้านเผาเมืองปี 53 ทำให้ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 3 ก.ค.54 และถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพจากการเป็น ส.ส. กลายเป็นคางคกตกสวรรค์ไปเสียก่อน

หากจะเปรียบเทียบแนวทางการเคลื่อนไหวของ นปช.ในยุคของนางธิดา ถาวรเศรษฐ กับยุคของนายจตุพรแล้ว ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน นั่นเพราะนางธิดามาจากสายนักวิชาการ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดลที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดงพร้อมกับสามีคือนายแพทย์เหวง โตจิราการ ซึ่งเคลื่อนไหวในภาคประชาชนมาตั้งแต่ช่วงเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด จนกระทั่งการเลือกตั้งปี 2554 นายแพทย์เหวงจึงได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย

ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างนางธิดากับพรรคเพื่อไทยจึงไม่ได้สนิทแนบแน่นมากนัก เมื่อเทียบกับนายจตุพรที่เข้าไปเป็นขี้ข้าม้าใช้ของ นช.ทักษิณตั้งแต่ครั้งตั้งพรรคไทยรักไทย มาจนถึงปัจจุบัน

ในช่วงที่นางธิดาเป็นประธาน นปช. มีบางครั้งที่กระบวนการคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวในแนวทางที่ผิดแผกไปจากพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่หลังการรัฐประหาร 2549 ถึงปี 2556

แนวทางของ นปช.ยุคนางธิดานั้น ได้เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นร่าง พ.ร.ก.เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และให้การนิรโทษกรรมไม่ครอบคลุมระดับแกนนำหรือผู้สั่งการ โดยหวังที่จะช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองปี 2553 ได้ออกจากคุกโดยเร็ว

แต่พรรคเพื่อไทยขณะนั้นได้เสนอเป็น พ.ร.บ.ซึ่งในเบื้องต้นก็ให้นิรโทษกรรมเฉพาะผู้ร่วมชุมนุม ก่อนที่จะมีการปรับแก้ในขั้นกรรมาธิการฯ ให้เป็นการยกเว้นความผิดให้ทุกคนทุกฝ่าย และย้อนหลังไปถึงปี 2547 ลบล้างความผิดที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร เคยก่อไว้ให้หมดสิ้นทุกประการ

ทำให้แกนนำ นปช.ออกแถลงการณ์คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งและสุดซอยดังกล่าว โดยในช่วงแรกๆ นายจตุพรและนายณัฐวุฒิก็ร่วมคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ด้วย แต่เมื่อนายใหญ่ชี้นิ้วสั่งมา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของนายใหญ่เรียกไปคุย ทั้งสองคนก็หันไปจูบปากกับพรรคเหมือนเดิม และกลายเป็นว่าต่อไปจะช่วยพรรคเพื่อไทยด้วยการเปิดเวทีชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้

บทบาทของนางธิดาที่หนักไปในทางให้ความรู้แก่คนเสื้อแดงมากกว่าเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองให้พรรคเพื่อไทย ทำให้นางธิดาไม่เป็นที่พอใจของแกนนำ นปช.สายที่ผูกพันกับพรรคหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่มีความขัดแย้งถึงขั้นปะทะคารมกับนางธิดาผ่านสื่อมวลชนหลายครั้ง

การเปลี่ยนตัวประธาน นปช.จากนางธิดาเป็นนายจตุพร และตั้งนายณัฐวุฒิ เป็นเลขาธิการขึ้นมาประกบอีกคน จึงเป็นสัญญาณว่า ต่อไปนี้ขบวนการคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวเพื่อรับใช้เป้าหมายทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยอันมี นช.ทักษิณบงการอยู่เบื้องหลังเท่านั้น

ผลงานชิ้นแรกของ นปช.ยุคนายจตุพรเป็นหัวโจกเบอร์หนึ่ง ก็คือการไปหาเสียงให้ นางบุษริณธญ์ (ติยะไพรัช) วรพัฒนานนท์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นางบุษริณธญ์เป็นพี่สาวของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ หุ่นเชิดคนแรกของ นช.ทักษิณ ซึ่งถูก กกต.ให้ใบแดงจากกรณีการซื้อเสียงเลือกตั้งและนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชน เนื่องจากนายยงยุทธเป็นรองหัวหน้าพรรค และส่งผลให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยและนายกฯ หุ่นเชิดคนที่ 2 ของ นช.ทักษิณ ต้องตกจากเก้าอี้ ทำให้มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลไปเป็นพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปลายปี 2551

อย่างไรก็ตามนายยงยุทธยังคงได้รับความไว้วางใจจากนายใหญ่ให้คุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย ด้วยเหตุนี้ นปช.ยุคนายจตุพรเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งจึงต้องมาช่วยพี่สาวนายยงยุทธหาเสียง โดยทั้งนายจตุพรและนายณัฐวุฒิได้ปราศรัยช่วยแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ

การนำขบวนการคนเสื้อแดงไปรับใช้พรรคอย่างชัดเจน ทำให้สัญญาณเสื่อมของ นปช.ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งในวันที่ไปเปิดเวทีหาเสียงที่เชียงราย มวลชนที่มาฟังการปราศรัยต่างก็พากันเดินลุกหนีในช่วงที่แกนนำอย่างนายณัฐวุฒิขึ้นพูด

และอันที่จริง สัญญาณเสื่อมของ นปช.ก็ปรากฏให้เห็นตั้งแต่วันชุมนุมใหญ่ที่อยุธยาแล้ว นั่นเพราะวันนั้นมีมวลชนเข้าร่วมงานอย่างโหรงเหรง เก้าอี้ที่นำเข้าไปวางในสนามฟุตบอลมีคนนั่งไม่เต็ม แกนนำอย่างนางธิดาต้องเอาภาพจากต่างประเทศมาโพสต์บนเฟซบุ๊กเพื่ออ้างว่าคนเสื้อแดงมากันมืดฟ้ามัวดิน

เว็บไซต์กระบอกเสียงคนเสื้อแดงบางแห่งถึงกับใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ตกแต่งภาพในสนามฟุตบอลที่ถ่ายโดยผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ให้มีสีแดงเพิ่มขึ้นแล้วเอาไปโพสต์ในเว็บตัวเอง เพื่อให้ดูว่ามีคนเสื้อแดงมากันแน่นสนาม

ขบวนการคนเสื้อแดงคลายมนต์ขลังลงไปก็เพราะในช่วง 2 ปีกว่ามานี้ ธาตุแท้ของ นช.ทักษิณที่เคยถูกปกปิดได้ปรากฏออกมา ทำให้คนเสื้อแดงตาสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกรณีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อตัวเอง หรือความล้มเหลวในนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มี นช.ทักษิณเป็นต้นคิด

ด้วยเหตุนี้ คนที่จะยังร่วมอยู่ในขบวนการคนเสื้อแดง ที่มี นปช.เป็นกลไกการเคลื่อนไหว จึงเหลือแต่เฉพาะคนที่พร้อมจะพลีกายเป็นข้ารับใช้ของ นช.ทักษิณเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น