**การเปลี่ยนแม่ทัพเสื้อแดงจาก ธิดา ถาวรเศรษฐ มาเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ มาทำหน้าที่ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงที่การศึกสงครามการเมืองกำลังเข้มข้น แม้บางส่วนจะมองว่าเป็นเพราะธิดา เป็นประธานนปช. มาหลายปีแล้วนับแต่หลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมเสื้อแดง เมื่อปี 53 ที่ธิดา มารับตำแหน่งแทน วีระกานต์ มุสิกพงศ์ นับถึงวันนี้ก็ร่วม 4 ปีมาแล้ว จึงเป็นเรื่องปกติ ที่ต้องปรับเปลี่ยนกันบ้าง
ผนวกกับที่ผ่านมา จตุพร ก็คือหนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งกองกำลังเสื้อแดงมาตั้งแต่ตั้งไข่ จากแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ก่อนจะมาเป็นนปช. แบบทุกวันนี้ และที่ผ่านมา จตุพร ก็มีบทบาทในนปช.มาตลอดหลายปี แม้ไม่ได้เป็นประธานนปช. ก็เหมือนเป็นมาตลอด เพราะเป็นแกนนำที่พูดแล้วเสียงดัง คนฟังมากที่สุด และเป็นคนคอยกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงมาตลอด หาใช่ ธิดา
การมาเป็นประธาน นปช. ของจตุพร จึงเป็นแค่การเปลี่ยนหัวที่ไม่ได้มีผลให้องคาพยพของเสื้อแดงมีอะไรเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คงไม่เกิดกับนปช.
นปช.ยุค จตุพร ทุกอย่างน่าจะเหมือนเดิม แต่การขับเคลื่อนนับจากนี้ของเสื้อแดง จะดุดัน-แข็งกร้าว มากขึ้นจากยุค นกแสก-ธิดา แน่นอน !
น่าจะตรงกับการวิเคราะห์ของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ปราศรัยบนเวทีสวนลุมพินี เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม หลังรู้ข่าวจตุพรขึ้นมาเป็นประธานนปช.คนใหม่แทน ธิดา ซึ่งสุเทพบอกไว้ว่า สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ระบอบทักษิณจนตรอกทุกวัน จึงต้องใช้บริการของนปช. ที่เป็นพวกนิยมความรุนแรง เมื่อจตุพรมาเป็นแกนนำนปช.เอง บ้านเมืองจะวุ่นวายเพราะจตุพร สามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
ต้องรอดูกันว่า หลังจตุพร มีหมวกใบใหม่เป็นประธานนปช. ที่จะทำให้การพูดแสดงความเห็นอะไรทางการเมืองโดยเฉพาะทิศทางของคนเสื้อแดงจะมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก แล้วเมื่อมาเป็นประธาน นปช.แล้ว จตุพร จะวางแผนการเดินเกมของคนเสื้อแดงต่อไปอย่างไรโดยเฉพาะในสถานการณ์การเมืองที่กำลังเขม็งเกลียวระหว่างฝ่ายล้มรัฐบาลกับฝ่ายระบอบทักษิณที่ยังประเมินได้ยากว่าฝ่ายไหนจะแพ้-ชนะ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแนวคิดการเมืองของพวก นปช.-เสื้อแดง แม้ จตุพร มาเป็นประธานนปช. ก็คงไม่ได้ทำให้เสื้อแดงมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แนวคิดการเมืองของแกนนำนปช. ทุกคนก็ยังน่าจะเป็นแนวคิดแบบเดิมๆกับความเชื่อทำนองมีคนบางกลุ่มต้องการโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายใต้การจับมือกันของ กปปส.-องค์กรอิสระ-พรรคประชาธิปัตย์-กลุ่มบุคคลระดับสูง หรือพวกอำมาตยาธิปไตย
ดูได้จากคำปราศรัยของประธานนปช.คนใหม่บนเวทีเสื้อแดง ที่พระนครศรีอยุธยา เมื่อ 15 มี.ค.หลัง ธิดา ประกาศยกตำแหน่งให้จตุพร
**“ไม่ว่าใครจะมาทำหน้าที่ตรงนี้ จุดยืนของ นปช.จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือโค่นอำมาตยาธิปไตย และสร้างสรรค์ประชาธิปไตย การต่อสู้ต่อจากนี้จะเป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด คู่ต่อสู้ของเราไม่ใช่ สุเทพ เพราะเป็นแค่ร่างทรงอำมาตยาธิปไตย รัฐบาลจะอยู่หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสุเทพ แต่ขึ้นอยู่กับอำมาตยาธิปไตย ศึกครั้งนี้อาจจะยืดเยื้อ เจ็บปวด และยาวนาน วันนี้เราจะประกาศปลดแอกจากอำมาตย์ "
และเมื่อถอดชุดความคิดทางการเมืองของจตุพร ผ่านการแถลงข่าวของ นปช. ในช่วงที่ผ่านมารวมถึงคำปราศรัยของจตุพรล่าสุดที่อยุธยาฯ จะพบว่า ประธาน นปช. คนนี้ เชื่อว่า ความพยายามล้มรัฐบาลขององค์กรอิสระนับจากนี้จะเข้มข้นขึ้น ผ่านกลไกต่างๆ โดยเฉพาะการสอบสวนเพื่อชี้มูลความผิดในคดีรับจำนำข้าว ที่จะมีการเอาผิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เรื่องที่มา ส.ว.ที่ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหากับ 308 ส.ส.-สว.รวมถึงกรณีล่าสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินในคดีเรื่องการวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ ที่ผลน่าจะออกมาช่วงเดือนเมษายน จึงสั่งคนเสื้อแดงเตรียมพร้อมให้มากที่สุด
ขณะเดียวกันก็จะพบว่า ในช่วงการปราศรัยของ จตุพร ที่ 4 เวทีใหญ่เสื้อแดงในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ที่ อุดรธานี-ขอนแก่น-เชียงใหม่-อยุธยาฯ ตัว จตุพร แสดงท่าทีกังขากับการวางตัวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ค่อนข้างมาก จึงทำให้ดูแล้ว เมื่อ จตุพร ขึ้นมาเป็นประธานนปช. น่าจะทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างเสื้อแดงกับกองทัพ น่าจะตึงเครียด ยิ่งกว่ายุค ธิดา หลายเท่าแน่นอน
ขณะเดียวกันตัว จตุพร ที่ปากชอบพูดจาให้สัมภาษณ์ หรือปราศรัย พาดพิงบุคคลระดับสูง หรือพูดจาล่อแหลมหลายครั้งหลายคราก่อนหน้านี้ เช่นเคยปราศรัยพาดพิงถึง ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ อย่างรุนแรง ในช่วงเสื้อแดงชุมนุมปี 53 หรือพูดเรื่อง"กระสุนพระราชทาน" มาแล้ว ตอนนี้แม้จะเป็นประธานนปช. ก็คงไม่ได้ทำให้ ตู่คางคก ลดพฤติกรรมปากเสีย-ก้าวร้าว ลงไปได้
ก็พอเป็นประธาน นปช. ไม่กี่นาที เจ้าตัว ก็เอาเลย ปราศรัยอัด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว พลเอกเปรม เดินทางไปที่ค่าย กฤษณ์ สีวะรา จ.สกลนคร เพื่อไปเปิดอนุสาวรีย์ พลเอกกฤษณ์ สีวะรา แล้วไปบอกว่าควรให้ พลเอก ประยุทธ์ ผบ.ทบ. มาอ่านข้อความอักษรบันทึกที่ฐานรูปปั้นอนุสาวรีย์ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ที่มีข้อความว่า
**"ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา"
จนเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วบ้านทั่วเมืองว่า พลเอกเปรม ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองตัวจริงของประเทศไทย ต้องการสื่ออะไรกับ พลเอกประยุทธ์
แต่ดูเหมือนพวกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเสื้อแด งจะไม่ฮือฮาด้วย เพราะมองว่า พล.อ.เปรม ที่ฝ่ายเสื้อแดงไม่ชอบมาแต่ไหนแต่ไร กำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่างไปถึง ผบ.ทบ. ให้จัดการอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ ?
ก็เลยทำให้ จตุพร ไม่รอช้า เรียกคะแนนให้ตัวเองด้วยการซัด ป๋าเปรม แรงๆ บนเวทีเสื้อแดงที่อยุธยาฯหลังเป็นประธานนปช.
**“อยากถามพล.อ.เปรมต่อว่า อายุ 94 ปีแล้ว คิดจะอยู่ถึง 200 ปีหรืออย่างไรและอยากเห็นบ้านเมืองมีความปกติสุขตามระบอบประชาธิปไตยหรือสงครามกลางเมือง การยุให้ทหารปฏิวัติหรือปฏิวัติโดยองค์กรอิสระจะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบตามมา”
แค่นี้ก็เห็นแล้วว่า แนวร่วมของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทยอย่างพวก “เสื้อแดง-นปช.”ยามเมื่อมีแม่ทัพคนใหม่คือ จตุพร พวกพฤติกรรมระรานอย่างที่เห็นดูแล้วน่าจะหนักขึ้นเรื่อยๆ
โดยเชื่อได้ว่า การที่แกนนำนปช.ให้จตุพร ขึ้นมาเป็นประธานครั้งนี้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องสั่งมา เพราะส่วนหนึ่งก็ต้องการให้ เสื้อแดง เล่นบทดุดันก้าวร้าวเอาไว้ เพื่อไว้ต่อรองกับฝ่ายล้มรัฐบาล ทำนองหากไม่ยอมถอย ทักษิณ ก็จะกดปุ่มสั่งการให้ จตุพร ประธานนปช. ระดมคนเสื้อแดง ออกมาเผชิญหน้าด้วย ทำนองขู่ แรงมาก็แรงไป พร้อมจะทำสงครามกลางเมืองตลอดเวลา
เหมือนกับที่คู่หู-คู่ฮาจตุพร คือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. คนแรกที่ปราศรัยบนเวทีอยุธยาฯ ทำนองขู่พร้อมจะแตกหักเช่นกัน ว่า
“หลายคนอึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้ เมื่อไหร่จะน็อกได้เสียที ตอนนี้องค์กรอิสระ เครือข่ายอำมาตย์ รวมตัวกันเป็นยักษ์เกเร ใช้อำนาจนอกระบบจับทักษิณ ฟาดทำลาย หากวันไหนเสื้อแดงต้องออกมาปกป้องประชาธิปไตย ก็จะไม่มีการประกาศยุติการชุมนุม มีแต่การประกาศการต่อสู้จะเป็นการประกาศการต่อสู้ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย หากยืดเยื้อข้ามเดือนข้ามปีก็ไม่มี การยุติการต่อสู้”
**เมื่อตู่ จตุพร เป็น ประธานนปช. –เต้น รมต.ไม่เอาอ่าวเป็นเลขาธิการนปช. จึงเป็นการจับคู่ที่เหมาะสมยิ่ง เหมือนกับผีเน่ากับโลงผุ ที่คงไม่ได้ทำให้เสื้อแดงดีขึ้น แต่น่าจะยิ่งทำให้ พังเร็วขึ้นมากกว่า
เสือกระดาษ
ผนวกกับที่ผ่านมา จตุพร ก็คือหนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งกองกำลังเสื้อแดงมาตั้งแต่ตั้งไข่ จากแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ก่อนจะมาเป็นนปช. แบบทุกวันนี้ และที่ผ่านมา จตุพร ก็มีบทบาทในนปช.มาตลอดหลายปี แม้ไม่ได้เป็นประธานนปช. ก็เหมือนเป็นมาตลอด เพราะเป็นแกนนำที่พูดแล้วเสียงดัง คนฟังมากที่สุด และเป็นคนคอยกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงมาตลอด หาใช่ ธิดา
การมาเป็นประธาน นปช. ของจตุพร จึงเป็นแค่การเปลี่ยนหัวที่ไม่ได้มีผลให้องคาพยพของเสื้อแดงมีอะไรเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คงไม่เกิดกับนปช.
นปช.ยุค จตุพร ทุกอย่างน่าจะเหมือนเดิม แต่การขับเคลื่อนนับจากนี้ของเสื้อแดง จะดุดัน-แข็งกร้าว มากขึ้นจากยุค นกแสก-ธิดา แน่นอน !
น่าจะตรงกับการวิเคราะห์ของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ปราศรัยบนเวทีสวนลุมพินี เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม หลังรู้ข่าวจตุพรขึ้นมาเป็นประธานนปช.คนใหม่แทน ธิดา ซึ่งสุเทพบอกไว้ว่า สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ระบอบทักษิณจนตรอกทุกวัน จึงต้องใช้บริการของนปช. ที่เป็นพวกนิยมความรุนแรง เมื่อจตุพรมาเป็นแกนนำนปช.เอง บ้านเมืองจะวุ่นวายเพราะจตุพร สามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
ต้องรอดูกันว่า หลังจตุพร มีหมวกใบใหม่เป็นประธานนปช. ที่จะทำให้การพูดแสดงความเห็นอะไรทางการเมืองโดยเฉพาะทิศทางของคนเสื้อแดงจะมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก แล้วเมื่อมาเป็นประธาน นปช.แล้ว จตุพร จะวางแผนการเดินเกมของคนเสื้อแดงต่อไปอย่างไรโดยเฉพาะในสถานการณ์การเมืองที่กำลังเขม็งเกลียวระหว่างฝ่ายล้มรัฐบาลกับฝ่ายระบอบทักษิณที่ยังประเมินได้ยากว่าฝ่ายไหนจะแพ้-ชนะ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแนวคิดการเมืองของพวก นปช.-เสื้อแดง แม้ จตุพร มาเป็นประธานนปช. ก็คงไม่ได้ทำให้เสื้อแดงมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แนวคิดการเมืองของแกนนำนปช. ทุกคนก็ยังน่าจะเป็นแนวคิดแบบเดิมๆกับความเชื่อทำนองมีคนบางกลุ่มต้องการโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายใต้การจับมือกันของ กปปส.-องค์กรอิสระ-พรรคประชาธิปัตย์-กลุ่มบุคคลระดับสูง หรือพวกอำมาตยาธิปไตย
ดูได้จากคำปราศรัยของประธานนปช.คนใหม่บนเวทีเสื้อแดง ที่พระนครศรีอยุธยา เมื่อ 15 มี.ค.หลัง ธิดา ประกาศยกตำแหน่งให้จตุพร
**“ไม่ว่าใครจะมาทำหน้าที่ตรงนี้ จุดยืนของ นปช.จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือโค่นอำมาตยาธิปไตย และสร้างสรรค์ประชาธิปไตย การต่อสู้ต่อจากนี้จะเป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด คู่ต่อสู้ของเราไม่ใช่ สุเทพ เพราะเป็นแค่ร่างทรงอำมาตยาธิปไตย รัฐบาลจะอยู่หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสุเทพ แต่ขึ้นอยู่กับอำมาตยาธิปไตย ศึกครั้งนี้อาจจะยืดเยื้อ เจ็บปวด และยาวนาน วันนี้เราจะประกาศปลดแอกจากอำมาตย์ "
และเมื่อถอดชุดความคิดทางการเมืองของจตุพร ผ่านการแถลงข่าวของ นปช. ในช่วงที่ผ่านมารวมถึงคำปราศรัยของจตุพรล่าสุดที่อยุธยาฯ จะพบว่า ประธาน นปช. คนนี้ เชื่อว่า ความพยายามล้มรัฐบาลขององค์กรอิสระนับจากนี้จะเข้มข้นขึ้น ผ่านกลไกต่างๆ โดยเฉพาะการสอบสวนเพื่อชี้มูลความผิดในคดีรับจำนำข้าว ที่จะมีการเอาผิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เรื่องที่มา ส.ว.ที่ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหากับ 308 ส.ส.-สว.รวมถึงกรณีล่าสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินในคดีเรื่องการวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ ที่ผลน่าจะออกมาช่วงเดือนเมษายน จึงสั่งคนเสื้อแดงเตรียมพร้อมให้มากที่สุด
ขณะเดียวกันก็จะพบว่า ในช่วงการปราศรัยของ จตุพร ที่ 4 เวทีใหญ่เสื้อแดงในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ที่ อุดรธานี-ขอนแก่น-เชียงใหม่-อยุธยาฯ ตัว จตุพร แสดงท่าทีกังขากับการวางตัวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ค่อนข้างมาก จึงทำให้ดูแล้ว เมื่อ จตุพร ขึ้นมาเป็นประธานนปช. น่าจะทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างเสื้อแดงกับกองทัพ น่าจะตึงเครียด ยิ่งกว่ายุค ธิดา หลายเท่าแน่นอน
ขณะเดียวกันตัว จตุพร ที่ปากชอบพูดจาให้สัมภาษณ์ หรือปราศรัย พาดพิงบุคคลระดับสูง หรือพูดจาล่อแหลมหลายครั้งหลายคราก่อนหน้านี้ เช่นเคยปราศรัยพาดพิงถึง ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ อย่างรุนแรง ในช่วงเสื้อแดงชุมนุมปี 53 หรือพูดเรื่อง"กระสุนพระราชทาน" มาแล้ว ตอนนี้แม้จะเป็นประธานนปช. ก็คงไม่ได้ทำให้ ตู่คางคก ลดพฤติกรรมปากเสีย-ก้าวร้าว ลงไปได้
ก็พอเป็นประธาน นปช. ไม่กี่นาที เจ้าตัว ก็เอาเลย ปราศรัยอัด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว พลเอกเปรม เดินทางไปที่ค่าย กฤษณ์ สีวะรา จ.สกลนคร เพื่อไปเปิดอนุสาวรีย์ พลเอกกฤษณ์ สีวะรา แล้วไปบอกว่าควรให้ พลเอก ประยุทธ์ ผบ.ทบ. มาอ่านข้อความอักษรบันทึกที่ฐานรูปปั้นอนุสาวรีย์ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ที่มีข้อความว่า
**"ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา"
จนเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วบ้านทั่วเมืองว่า พลเอกเปรม ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองตัวจริงของประเทศไทย ต้องการสื่ออะไรกับ พลเอกประยุทธ์
แต่ดูเหมือนพวกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเสื้อแด งจะไม่ฮือฮาด้วย เพราะมองว่า พล.อ.เปรม ที่ฝ่ายเสื้อแดงไม่ชอบมาแต่ไหนแต่ไร กำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่างไปถึง ผบ.ทบ. ให้จัดการอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ ?
ก็เลยทำให้ จตุพร ไม่รอช้า เรียกคะแนนให้ตัวเองด้วยการซัด ป๋าเปรม แรงๆ บนเวทีเสื้อแดงที่อยุธยาฯหลังเป็นประธานนปช.
**“อยากถามพล.อ.เปรมต่อว่า อายุ 94 ปีแล้ว คิดจะอยู่ถึง 200 ปีหรืออย่างไรและอยากเห็นบ้านเมืองมีความปกติสุขตามระบอบประชาธิปไตยหรือสงครามกลางเมือง การยุให้ทหารปฏิวัติหรือปฏิวัติโดยองค์กรอิสระจะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบตามมา”
แค่นี้ก็เห็นแล้วว่า แนวร่วมของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทยอย่างพวก “เสื้อแดง-นปช.”ยามเมื่อมีแม่ทัพคนใหม่คือ จตุพร พวกพฤติกรรมระรานอย่างที่เห็นดูแล้วน่าจะหนักขึ้นเรื่อยๆ
โดยเชื่อได้ว่า การที่แกนนำนปช.ให้จตุพร ขึ้นมาเป็นประธานครั้งนี้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องสั่งมา เพราะส่วนหนึ่งก็ต้องการให้ เสื้อแดง เล่นบทดุดันก้าวร้าวเอาไว้ เพื่อไว้ต่อรองกับฝ่ายล้มรัฐบาล ทำนองหากไม่ยอมถอย ทักษิณ ก็จะกดปุ่มสั่งการให้ จตุพร ประธานนปช. ระดมคนเสื้อแดง ออกมาเผชิญหน้าด้วย ทำนองขู่ แรงมาก็แรงไป พร้อมจะทำสงครามกลางเมืองตลอดเวลา
เหมือนกับที่คู่หู-คู่ฮาจตุพร คือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. คนแรกที่ปราศรัยบนเวทีอยุธยาฯ ทำนองขู่พร้อมจะแตกหักเช่นกัน ว่า
“หลายคนอึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้ เมื่อไหร่จะน็อกได้เสียที ตอนนี้องค์กรอิสระ เครือข่ายอำมาตย์ รวมตัวกันเป็นยักษ์เกเร ใช้อำนาจนอกระบบจับทักษิณ ฟาดทำลาย หากวันไหนเสื้อแดงต้องออกมาปกป้องประชาธิปไตย ก็จะไม่มีการประกาศยุติการชุมนุม มีแต่การประกาศการต่อสู้จะเป็นการประกาศการต่อสู้ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย หากยืดเยื้อข้ามเดือนข้ามปีก็ไม่มี การยุติการต่อสู้”
**เมื่อตู่ จตุพร เป็น ประธานนปช. –เต้น รมต.ไม่เอาอ่าวเป็นเลขาธิการนปช. จึงเป็นการจับคู่ที่เหมาะสมยิ่ง เหมือนกับผีเน่ากับโลงผุ ที่คงไม่ได้ทำให้เสื้อแดงดีขึ้น แต่น่าจะยิ่งทำให้ พังเร็วขึ้นมากกว่า
เสือกระดาษ