รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ยกระดับการต่อสู้ทางการเมืองไปแล้ว โดยก้าวข้ามกลุ่ม กปปส.ไปสู่องค์กรอิสระและกองทัพ
มวลมหาประชาชนที่ลุกฮือขึ้นมาขับไล่นับสิบล้านคน ใช่ศัตรูหมายเลขหนึ่งของระบอบทักษิณ แต่เป้าหมายการทำลายล้าง พุ่งไปสู่องค์กรอิสระทั้งหลาย โดยเฉพาะป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะที่กองทัพตกเป็นเป้าหมายทำลายความน่าเชื่อถืออันดับสอง
ประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แม้จะมีจำนวนนับสิบล้านคน แต่ก็ไม่สามารถขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ได้
แต่องค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ กำลังจะเป็นผู้ชี้ชะตากรรมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่วนกองทัพก็ประกาศจุดยืน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดกติกาและทำตามกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมตัดสินอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับและปฏิบัติตาม
ใครจะอยู่เหนือกฎหมาย ใครจะไม่ปฏิบัติตาม ใครไม่ยอมรับคำตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม ทหารคงยอมไม่ได้
คดีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย คดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือคดีเกี่ยวกับ ส.ส.และ ส.ว.รอคิวตัดสินที่ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญนับไม่ถ้วน
หลายคดีใกล้เวลาตัดสินแล้ว ซึ่งจะส่งผลต่อฐานะรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรักษาการอีกหลายคนโดยตรง
ยุทธวิธีเถื่อนๆ อำนาจมืดจึงถูกงัดมาใช้เพื่อคุกคามข่มขู่องค์กรอิสระ พร้อมปฏิบัติการปลุกระดมคนเสื้อแดงเพื่อกดดันและทำลายความน่าเชื่อถือ ควบคู่กับการเปิดศึกกับกองทัพ ฐานที่ไม่ยอมเลือกข้างรับใช้รัฐบาลยิ่งลักษณ์
มวลมหาประชาชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อหลากสี ประชาชนกลุ่มอื่นที่ต่อต้านระบอบทักษิณ หรือแม้แต่ กปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ใช่คู่กรณีสำคัญของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว
และถ้าเทียบกับองค์กรอิสระที่กำลังจะชี้ชาตะกรรมของรัฐบาล ถ้าเทียบกับกองทัพที่แสดงตัวแล้วว่า ไม่ปกป้องนางสาวยิ่งลักษณ์ มวลมหาประชาชนกลายเป็น “กระจอก” ไปเลย
คนเสื้อแดงที่ตามรังควานประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาตลอด ปัจจุบันยกระดับขึ้นไปท้ารบกับกองทัพ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็พุ่งเป้าเปิดศึกกับองค์กรอิสระ
การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ไม่ว่าจะเวทีไหน ปัจจุบันไม่ถูกก่อกวนมากนัก ไม่มีหมาลอบกัดเท่าไหร่ เพราะรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความเคลื่อนไหวในภาคประชาชนเท่าไหร่
การยกระดับการต่อสู้ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยพุ่งเป้าบดขยี้องค์กรอิสระ หรือประกาศชนกับทหาร ทำให้ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาสบายๆ ของ กปปส. และเป็นช่วงเวลาที่มวลมหาประชาชนจะได้พัก เพื่อปล่อยให้ภาคส่วนอื่นของสังคมได้ทำหน้าที่บ้าง
ปล่อยให้ภาคส่วนอื่นของสังคมแสดงความรักชาติ แสดงความเสียสละเพื่อส่วนรวมบ้าง โดยมวลมหาประชาชนไม่ผูกขาดความรักชาติไว้กลุ่มเดียว
และองค์กรอิสระ กองทัพก็อยู่ในฐานะพร้อมที่จะแสดงความรักชาติ
ภาคประชาชนเหนื่อยกันมากพอแล้ว เสียสละโดยทำหน้าที่พลเมืองที่มีสำนึกต่อแผ่นดินจนเกินตัวแล้ว เสียเลือดเสียเนื้อไปไม่น้อย มีคดีติดตัวกันนับไม่ถ้วน พลีชีพไปแล้วนับสิบๆ ศพบนเส้นทางการต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ
ตั้งแต่ยุคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อหลากสี กลุ่มเสธ.อ้าย จนล่าสุดก้าวสู่ยุคมวลมหาประชาชน กปปส.
เกือบสิบปีที่ผ่านมา ประชาชนวิ่งรับส่งไม้กันมาตลอด จนวันนี้ ประชาชนได้ส่งไม้ผลัดสุดท้ายให้องค์กรอิสระและกองทัพวิ่งต่อสู่เส้นชัยแล้ว
ชะตากรรมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังรอคำตัดสินขององค์กรอิสระ ระบอบทักษิณที่บ่อนทำลายความมั่นคงของสังคมไทยมากว่า 10 ปี กำลังรอกองทัพขุดรากถอนโคน
บทบาทของภาคประชาชนควรเปลี่ยนชั่วคราว หากหัวหอกการต่อสู้ปรับสู่ฐานะเพียงแค่คนดู ทำหน้าที่เป็นเพียงกองเชียร์ และผู้ที่คอยส่งกำลังใจเท่านั้น
ปล่อยให้องค์กรอิสระ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ที่ต้องทำต่อไปให้จบ ปล่อยให้กองทัพจัดการกับกลุ่มคนนอกกฎหมาย เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติตามหน้าที่
คงอดใจรอกันไม่นาน เพราะทุกอย่างใกล้อวสานเต็มที
ภารกิจโค่นล้มระบอบทักษิณ บทบาทของประชาชนได้สิ้นสุดลงแล้ว
ช่วงเวลาจากนี้ เป็นช่วงเวลาพักร่างกาย ฟื้นฟูจิตใจ เพื่อเตรียมตัวฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่เท่านั้น
เวลาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เหลือน้อยเต็มที อาวุธชิ้นสุดท้าย กลุ่มคนเสื้อแดงก็ปลุกไม่ขึ้นแล้ว และจะยกพวกไปเห่าที่ไหนก็ไม่มีใครกลัว
การประกาศระดมผลครั้งใหญ่ นัดชุมนุมคนเสื้อแดงทั่วประเทศที่สนามกีฬาจังหวัดอยุธยา เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมประมาณ 1,000 คนเศษเท่านั้น เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่า มวลชนคนเสื้อแดงไม่เหลือหรอแล้ว
คนเสื้อแดงทั้งประเทศเพียงหยิบมือเดียว บังอาจจะไปรบกับกองทัพหรือคนเสื้อแดงที่มีเพียงหลอมแหลม จะค้ำยันอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้นานต่อไปสักเท่าไหร่
ระบอบทักษิณกำลังย่อยยับ โดยองค์กรอิสระและกองทัพจะเป็นผู้ปิดฉากสุดท้าย
สถานการณ์ที่เป็นไป ไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์อย่างไร ตระกูลชินวัตรก็ไม่มีโอกาสหลบหนีชะตากรรมที่คืบคลานเข้ามา
ไม่ว่าจะดื้อด้าน ดันทุรัง ต้านทานด้วยรูปแบบใด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่มีวันรอด
ทุกฝ่ายมองข้ามสถาการณ์ไปแล้ว มองว่า จะปฏิรูปการเมืองกันอย่างไร เริ่มตรงจุดไหน ไม่มีใครกังวลปัญหาการโค่นล้มระบอบทักษิณเท่าไหร่
เพราะประเมินกันแล้ว ระบอบทักษิณพินาศไม่เหลือซากแน่ โดยที่ประชาชนไม่ต้องออกแรงกันอีกแล้ว
มวลมหาประชาชนที่ลุกฮือขึ้นมาขับไล่นับสิบล้านคน ใช่ศัตรูหมายเลขหนึ่งของระบอบทักษิณ แต่เป้าหมายการทำลายล้าง พุ่งไปสู่องค์กรอิสระทั้งหลาย โดยเฉพาะป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะที่กองทัพตกเป็นเป้าหมายทำลายความน่าเชื่อถืออันดับสอง
ประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แม้จะมีจำนวนนับสิบล้านคน แต่ก็ไม่สามารถขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ได้
แต่องค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ กำลังจะเป็นผู้ชี้ชะตากรรมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่วนกองทัพก็ประกาศจุดยืน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดกติกาและทำตามกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมตัดสินอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับและปฏิบัติตาม
ใครจะอยู่เหนือกฎหมาย ใครจะไม่ปฏิบัติตาม ใครไม่ยอมรับคำตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม ทหารคงยอมไม่ได้
คดีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย คดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือคดีเกี่ยวกับ ส.ส.และ ส.ว.รอคิวตัดสินที่ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญนับไม่ถ้วน
หลายคดีใกล้เวลาตัดสินแล้ว ซึ่งจะส่งผลต่อฐานะรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรักษาการอีกหลายคนโดยตรง
ยุทธวิธีเถื่อนๆ อำนาจมืดจึงถูกงัดมาใช้เพื่อคุกคามข่มขู่องค์กรอิสระ พร้อมปฏิบัติการปลุกระดมคนเสื้อแดงเพื่อกดดันและทำลายความน่าเชื่อถือ ควบคู่กับการเปิดศึกกับกองทัพ ฐานที่ไม่ยอมเลือกข้างรับใช้รัฐบาลยิ่งลักษณ์
มวลมหาประชาชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อหลากสี ประชาชนกลุ่มอื่นที่ต่อต้านระบอบทักษิณ หรือแม้แต่ กปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ใช่คู่กรณีสำคัญของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว
และถ้าเทียบกับองค์กรอิสระที่กำลังจะชี้ชาตะกรรมของรัฐบาล ถ้าเทียบกับกองทัพที่แสดงตัวแล้วว่า ไม่ปกป้องนางสาวยิ่งลักษณ์ มวลมหาประชาชนกลายเป็น “กระจอก” ไปเลย
คนเสื้อแดงที่ตามรังควานประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาตลอด ปัจจุบันยกระดับขึ้นไปท้ารบกับกองทัพ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็พุ่งเป้าเปิดศึกกับองค์กรอิสระ
การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ไม่ว่าจะเวทีไหน ปัจจุบันไม่ถูกก่อกวนมากนัก ไม่มีหมาลอบกัดเท่าไหร่ เพราะรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความเคลื่อนไหวในภาคประชาชนเท่าไหร่
การยกระดับการต่อสู้ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยพุ่งเป้าบดขยี้องค์กรอิสระ หรือประกาศชนกับทหาร ทำให้ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาสบายๆ ของ กปปส. และเป็นช่วงเวลาที่มวลมหาประชาชนจะได้พัก เพื่อปล่อยให้ภาคส่วนอื่นของสังคมได้ทำหน้าที่บ้าง
ปล่อยให้ภาคส่วนอื่นของสังคมแสดงความรักชาติ แสดงความเสียสละเพื่อส่วนรวมบ้าง โดยมวลมหาประชาชนไม่ผูกขาดความรักชาติไว้กลุ่มเดียว
และองค์กรอิสระ กองทัพก็อยู่ในฐานะพร้อมที่จะแสดงความรักชาติ
ภาคประชาชนเหนื่อยกันมากพอแล้ว เสียสละโดยทำหน้าที่พลเมืองที่มีสำนึกต่อแผ่นดินจนเกินตัวแล้ว เสียเลือดเสียเนื้อไปไม่น้อย มีคดีติดตัวกันนับไม่ถ้วน พลีชีพไปแล้วนับสิบๆ ศพบนเส้นทางการต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ
ตั้งแต่ยุคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อหลากสี กลุ่มเสธ.อ้าย จนล่าสุดก้าวสู่ยุคมวลมหาประชาชน กปปส.
เกือบสิบปีที่ผ่านมา ประชาชนวิ่งรับส่งไม้กันมาตลอด จนวันนี้ ประชาชนได้ส่งไม้ผลัดสุดท้ายให้องค์กรอิสระและกองทัพวิ่งต่อสู่เส้นชัยแล้ว
ชะตากรรมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังรอคำตัดสินขององค์กรอิสระ ระบอบทักษิณที่บ่อนทำลายความมั่นคงของสังคมไทยมากว่า 10 ปี กำลังรอกองทัพขุดรากถอนโคน
บทบาทของภาคประชาชนควรเปลี่ยนชั่วคราว หากหัวหอกการต่อสู้ปรับสู่ฐานะเพียงแค่คนดู ทำหน้าที่เป็นเพียงกองเชียร์ และผู้ที่คอยส่งกำลังใจเท่านั้น
ปล่อยให้องค์กรอิสระ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ที่ต้องทำต่อไปให้จบ ปล่อยให้กองทัพจัดการกับกลุ่มคนนอกกฎหมาย เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติตามหน้าที่
คงอดใจรอกันไม่นาน เพราะทุกอย่างใกล้อวสานเต็มที
ภารกิจโค่นล้มระบอบทักษิณ บทบาทของประชาชนได้สิ้นสุดลงแล้ว
ช่วงเวลาจากนี้ เป็นช่วงเวลาพักร่างกาย ฟื้นฟูจิตใจ เพื่อเตรียมตัวฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่เท่านั้น
เวลาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เหลือน้อยเต็มที อาวุธชิ้นสุดท้าย กลุ่มคนเสื้อแดงก็ปลุกไม่ขึ้นแล้ว และจะยกพวกไปเห่าที่ไหนก็ไม่มีใครกลัว
การประกาศระดมผลครั้งใหญ่ นัดชุมนุมคนเสื้อแดงทั่วประเทศที่สนามกีฬาจังหวัดอยุธยา เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมประมาณ 1,000 คนเศษเท่านั้น เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่า มวลชนคนเสื้อแดงไม่เหลือหรอแล้ว
คนเสื้อแดงทั้งประเทศเพียงหยิบมือเดียว บังอาจจะไปรบกับกองทัพหรือคนเสื้อแดงที่มีเพียงหลอมแหลม จะค้ำยันอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้นานต่อไปสักเท่าไหร่
ระบอบทักษิณกำลังย่อยยับ โดยองค์กรอิสระและกองทัพจะเป็นผู้ปิดฉากสุดท้าย
สถานการณ์ที่เป็นไป ไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์อย่างไร ตระกูลชินวัตรก็ไม่มีโอกาสหลบหนีชะตากรรมที่คืบคลานเข้ามา
ไม่ว่าจะดื้อด้าน ดันทุรัง ต้านทานด้วยรูปแบบใด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่มีวันรอด
ทุกฝ่ายมองข้ามสถาการณ์ไปแล้ว มองว่า จะปฏิรูปการเมืองกันอย่างไร เริ่มตรงจุดไหน ไม่มีใครกังวลปัญหาการโค่นล้มระบอบทักษิณเท่าไหร่
เพราะประเมินกันแล้ว ระบอบทักษิณพินาศไม่เหลือซากแน่ โดยที่ประชาชนไม่ต้องออกแรงกันอีกแล้ว
