ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าฯปากน้ำลั่นไม่เกิน 5 วัน ดับไฟบ่อขยะได้แน่ “วิเชษฐ์” จ่อร่าง กม.เอาผิดลักลอบทิ้งสารเคมี ก.อุตฯเล็งลงแส้เจ้าของบ่อขยะ ด้านดีเอสไอเตรียมพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ขณะที่ สธ.แบ่งพื้นที่ 3 โซนดูแล ระบุชัดระยะ 300-500 เมตรต้องอพยพทันที หมอตาแนะใส่แว่นกันแดดป้องกัน ก่อนเยื่อบุตาขาวอักเสบ
วานนี้ (18 มี.ค.) นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีไฟใหม้บ่อขยะที่ จ.สมุทรปราการ ว่า การดับเพลิงคืบหน้าไปมาก ล่าสุดไม่มีเปลวไฟแล้ว เหลือเพียงกลุ่มควันและการคุกรุ่นของไฟใต้กองขยะ จึงขอการสนับสนุนรถขุดตักสะเทินน้ำสะเทินบกจากกรมชลประทานเพิ่มอีกรวมเป็น 4 คัน เพื่อขุดตักขยะขึ้นมา และลากสายน้ำไปฉีด ซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้ดับสนิท ส่วนช่วงบ่ายวันที่ 18 มี.ค. เฮลิคอปเตอร์ของกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ใช้น้ำโปรยปูพรมจุดที่ยังมีการคุกรุ่น เพื่อลดปริมาณออกซิเจนไม่ให้ปฏิกิริยาจนเกิดเปลวไฟอีก ตามแผนนี้คาดว่าไม่เกิน 5 วันจะสามารถดับไฟได้ทั้งหมด
ขณะที่นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบบ่อขยะดังกล่าว พร้อมสั่งให้อธิบดีร่างกฎหมายให้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องซากขยะ ทั้งซากคอมพิวเตอร์ และสารเคมีที่มีการลักลอบนำมาทิ้งจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ใช้กฎหมายอย่างรุนแรงลงโทษทันที
จ่อฟันเจ้าของบ่อ ปล่อยทิ้งขยะโรงงาน
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำมาตรการเร่งด่วนในการกำกับดูแลการกำกัดขยะของนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศว่ามีมาตรการกำจัดขยะอุตสาหกรรมมีพิษอย่างไร และให้หามาตรการป้องกันไม่ให้ลักลอบทิ้งขยะอุตสาหกรรมปะปนกับขยะทั่วไป ส่วนกรณีนี้ต้องใช้เวลาในการสืบสวนหากพบว่ามีการปะปนขยะอุตสาหกรรม จะต้องดำเนินคดีทั้งโรงงานและเจ้าของบ่อขยะ
นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ อธิบดี กรอ. กล่าวว่า เบื้องต้นพบขยะอุตสาหกรรมปลอมปนกับขยะชุมชนแต่ไม่มาก สามารถเอาผิดกับเจ้าของบ่อขยะได้ทันที มีโทษจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ส่วนการสืบสวนว่าเป็นขยะของโรงงานใดและใครนำมาทิ้งเป็นเรื่องยาก เพราะไฟไหม้ไปแล้ว นอกจากนี้ ต้องดูว่าเป็นขยะอันตรายด้วยหรือไม่ ถ้าใช่ความผิดก็จะอีกระดับ
ดีเอสไอเตรียมเสนอเป็นคดีพิเศษ
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า อธิบดีฯมอบให้ตนลงพื้นที่ตรวจสอบ เนื่องจากชาวบ้านเคยร้องเรียนว่ามีการลักลอบทิ้งขยะพิษจนส่งกลิ่นเหม็นและก่อมลภาวะ ซึ่งหลังจากนี้ดีเอสไอจะตรวจสอบว่าใครเกี่ยวข้องกับการนำขยะไปทิ้งเพื่อเรียกตัวมาสอบสวน ส่วนการตรวจสอบขยะในจุดดังกล่าวพบว่า ส่วนใหญ่เป็นขยะชุมชน แต่มีขยะจากอุตสาหกรรมส่วนหนึ่ง จะให้ผู้เชี่ยวชาญเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบว่าเป็นกากขยะอุตสาหกรรมหรือไม่ หากมีการลักลอบทิ้งกากขยะอุตสาหกรรมจำนวนมาก จะพิจารณาเสนอเป็นคดีพิเศษต่อไป
สธ.จัด 3 โซนนิ่ง อพยพ ปชช.
นพ.พิบูล อิสสระพันธุ์ รอง ผอ.สำนักโรคจากการประกอบอาชีพ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการตรวจวัดค่ามลพิษในอากาศภายในบ้าน 5 ชนิด ในหมู่บ้านบริเวณใต้ลม ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 กิโลเมตร ว่ายังสามารถใช้อยู่อาศัยได้หรือไม่ พบว่า สารพิษทั้ง 5 ตัว ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ โอโซน และฝุ่นอนุภาคต่ำกว่า 10 ไมครอน (PM10) ล้วนยังไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด ส่วนอากาศภายนอกบ้านยังมีกลิ่นเหม็นและควันจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีความจำเป็นยังสามารถอาศัยภายในบ้านได้ เว้นกลุ่มเสี่ยงคือ หญิงตั้งครรภ์ต่ำกว่า 3 เดือน เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เพราะอาการอาจรุนแรง เป็นอันตรายมากกว่า นอกจากนี้ ควรปิดบ้านให้สนิทด้วย
นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ รองนายแพทย์ สสจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า การดำเนินงานของ สธ.มี 3 ประเด็น คือ 1.การจัดบริการทางการแพทย์ โดยมีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 2 หน่วยคือ ที่ อบต.แพรกษา และ วัดแพรกษา สำหรับผู้ป่วยที่รับการตรวจและรักษามีทั้งสิ้น 15 ราย มีอาการแสบตา จมูก และทางเดินหายใจ อาการไม่รุนแรงนัก 2.เฝ้าระวัง กลุ่มที่มีอาการรุนแรง ได้แก่ นักผจญเพลิง ชาวบ้านรอบรัศมีบ่อขยะ 200 เมตร จะมีการตรวจร่างกายหาสารก่อมะเร็ง ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย กลุ่มปานกลาง และน้อย และ 3.การให้ความรู้และป้องกัน ขณะนี้มีการแจกหน้ากากอนามัยแล้ว
นอกจากนี้ จะมีการจัดโซนเพื่อวางมาตรการป้องกัน 3 ระดับคือ พื้นที่สีแดงมีค่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์มากกว่า 5 ppm ในระยะ 300-500 เมตรรอบบ่อขยะ ต้องอพยพออกจากพื้นที่ทันที พื้นที่สีเหลืองมีค่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์อยู่ที่ 2-5 ppm ระยะ 1 กม.รอบบ่อขยะ แนะนำให้กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวออกจากพื้นที่ และพื้นที่สีเขียวระยะมากกว่า 1 กม. ยังต้องเฝ้าระวัง เพราะหลังจากดับเพลิงแล้ว ควันจะเพิ่มมากขึ้น พื้นที่สีเหลืองจะกินระยะออกไปอีก ซึ่งจะวางแผนกับกรมควบคุมมลพิษในการกำหนดพื้นที่ต่อไป
เตือนสารพิษทำเยื่อบุตาอักเสบ
นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์รพ.พระนั่งเกล้า กล่าวว่า สารพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บ่อขยะนอกจากทำให้ระคายเคืองผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจจนอันตรายถึงขั้นหมดสติ เสียชีวิตแล้ว ยังอันตรายต่อดวงตาด้วย เพราะสารเหล่านี้มีทั้งกรดและด่าง ทำให้เกิดอาการเยื่อบุตาขาวอักเสบ ซึ่งขณะนี้อากาศกำลังแห้ง ทำให้น้ำตาแห้ง ความเข้มข้นของกรดด่างจึงสูงขึ้น ดวงตาจึงระคายเคืองและอักเสบได้ง่ายกว่า มากกว่า และนานกว่า วิธีป้องกันคือสวมแว่นกันแดดเวลาจากบ้าน โดยเลือกแว่นให้พอมีช่องระบายลม อย่าปิดดวงตาทั้งหมด รวมถึงพกผ้าขนหนูและน้ำสะอาดติดตัวด้วย หากมีอาการระคายเคืองก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดดวงตา นอกจากนี้ ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตา และขอย้ำว่าห้ามใส่คอนแทกต์เลนส์เด็ดขาด เพราะจะทำให้ดวงตาระคายเคืองยิ่งขึ้น และคอนแทกต์เลนส์เสื่อมไว
วานนี้ (18 มี.ค.) นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีไฟใหม้บ่อขยะที่ จ.สมุทรปราการ ว่า การดับเพลิงคืบหน้าไปมาก ล่าสุดไม่มีเปลวไฟแล้ว เหลือเพียงกลุ่มควันและการคุกรุ่นของไฟใต้กองขยะ จึงขอการสนับสนุนรถขุดตักสะเทินน้ำสะเทินบกจากกรมชลประทานเพิ่มอีกรวมเป็น 4 คัน เพื่อขุดตักขยะขึ้นมา และลากสายน้ำไปฉีด ซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้ดับสนิท ส่วนช่วงบ่ายวันที่ 18 มี.ค. เฮลิคอปเตอร์ของกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ใช้น้ำโปรยปูพรมจุดที่ยังมีการคุกรุ่น เพื่อลดปริมาณออกซิเจนไม่ให้ปฏิกิริยาจนเกิดเปลวไฟอีก ตามแผนนี้คาดว่าไม่เกิน 5 วันจะสามารถดับไฟได้ทั้งหมด
ขณะที่นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบบ่อขยะดังกล่าว พร้อมสั่งให้อธิบดีร่างกฎหมายให้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องซากขยะ ทั้งซากคอมพิวเตอร์ และสารเคมีที่มีการลักลอบนำมาทิ้งจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ใช้กฎหมายอย่างรุนแรงลงโทษทันที
จ่อฟันเจ้าของบ่อ ปล่อยทิ้งขยะโรงงาน
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำมาตรการเร่งด่วนในการกำกับดูแลการกำกัดขยะของนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศว่ามีมาตรการกำจัดขยะอุตสาหกรรมมีพิษอย่างไร และให้หามาตรการป้องกันไม่ให้ลักลอบทิ้งขยะอุตสาหกรรมปะปนกับขยะทั่วไป ส่วนกรณีนี้ต้องใช้เวลาในการสืบสวนหากพบว่ามีการปะปนขยะอุตสาหกรรม จะต้องดำเนินคดีทั้งโรงงานและเจ้าของบ่อขยะ
นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ อธิบดี กรอ. กล่าวว่า เบื้องต้นพบขยะอุตสาหกรรมปลอมปนกับขยะชุมชนแต่ไม่มาก สามารถเอาผิดกับเจ้าของบ่อขยะได้ทันที มีโทษจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ส่วนการสืบสวนว่าเป็นขยะของโรงงานใดและใครนำมาทิ้งเป็นเรื่องยาก เพราะไฟไหม้ไปแล้ว นอกจากนี้ ต้องดูว่าเป็นขยะอันตรายด้วยหรือไม่ ถ้าใช่ความผิดก็จะอีกระดับ
ดีเอสไอเตรียมเสนอเป็นคดีพิเศษ
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า อธิบดีฯมอบให้ตนลงพื้นที่ตรวจสอบ เนื่องจากชาวบ้านเคยร้องเรียนว่ามีการลักลอบทิ้งขยะพิษจนส่งกลิ่นเหม็นและก่อมลภาวะ ซึ่งหลังจากนี้ดีเอสไอจะตรวจสอบว่าใครเกี่ยวข้องกับการนำขยะไปทิ้งเพื่อเรียกตัวมาสอบสวน ส่วนการตรวจสอบขยะในจุดดังกล่าวพบว่า ส่วนใหญ่เป็นขยะชุมชน แต่มีขยะจากอุตสาหกรรมส่วนหนึ่ง จะให้ผู้เชี่ยวชาญเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบว่าเป็นกากขยะอุตสาหกรรมหรือไม่ หากมีการลักลอบทิ้งกากขยะอุตสาหกรรมจำนวนมาก จะพิจารณาเสนอเป็นคดีพิเศษต่อไป
สธ.จัด 3 โซนนิ่ง อพยพ ปชช.
นพ.พิบูล อิสสระพันธุ์ รอง ผอ.สำนักโรคจากการประกอบอาชีพ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการตรวจวัดค่ามลพิษในอากาศภายในบ้าน 5 ชนิด ในหมู่บ้านบริเวณใต้ลม ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 กิโลเมตร ว่ายังสามารถใช้อยู่อาศัยได้หรือไม่ พบว่า สารพิษทั้ง 5 ตัว ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ โอโซน และฝุ่นอนุภาคต่ำกว่า 10 ไมครอน (PM10) ล้วนยังไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด ส่วนอากาศภายนอกบ้านยังมีกลิ่นเหม็นและควันจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีความจำเป็นยังสามารถอาศัยภายในบ้านได้ เว้นกลุ่มเสี่ยงคือ หญิงตั้งครรภ์ต่ำกว่า 3 เดือน เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เพราะอาการอาจรุนแรง เป็นอันตรายมากกว่า นอกจากนี้ ควรปิดบ้านให้สนิทด้วย
นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ รองนายแพทย์ สสจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า การดำเนินงานของ สธ.มี 3 ประเด็น คือ 1.การจัดบริการทางการแพทย์ โดยมีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 2 หน่วยคือ ที่ อบต.แพรกษา และ วัดแพรกษา สำหรับผู้ป่วยที่รับการตรวจและรักษามีทั้งสิ้น 15 ราย มีอาการแสบตา จมูก และทางเดินหายใจ อาการไม่รุนแรงนัก 2.เฝ้าระวัง กลุ่มที่มีอาการรุนแรง ได้แก่ นักผจญเพลิง ชาวบ้านรอบรัศมีบ่อขยะ 200 เมตร จะมีการตรวจร่างกายหาสารก่อมะเร็ง ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย กลุ่มปานกลาง และน้อย และ 3.การให้ความรู้และป้องกัน ขณะนี้มีการแจกหน้ากากอนามัยแล้ว
นอกจากนี้ จะมีการจัดโซนเพื่อวางมาตรการป้องกัน 3 ระดับคือ พื้นที่สีแดงมีค่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์มากกว่า 5 ppm ในระยะ 300-500 เมตรรอบบ่อขยะ ต้องอพยพออกจากพื้นที่ทันที พื้นที่สีเหลืองมีค่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์อยู่ที่ 2-5 ppm ระยะ 1 กม.รอบบ่อขยะ แนะนำให้กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวออกจากพื้นที่ และพื้นที่สีเขียวระยะมากกว่า 1 กม. ยังต้องเฝ้าระวัง เพราะหลังจากดับเพลิงแล้ว ควันจะเพิ่มมากขึ้น พื้นที่สีเหลืองจะกินระยะออกไปอีก ซึ่งจะวางแผนกับกรมควบคุมมลพิษในการกำหนดพื้นที่ต่อไป
เตือนสารพิษทำเยื่อบุตาอักเสบ
นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์รพ.พระนั่งเกล้า กล่าวว่า สารพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บ่อขยะนอกจากทำให้ระคายเคืองผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจจนอันตรายถึงขั้นหมดสติ เสียชีวิตแล้ว ยังอันตรายต่อดวงตาด้วย เพราะสารเหล่านี้มีทั้งกรดและด่าง ทำให้เกิดอาการเยื่อบุตาขาวอักเสบ ซึ่งขณะนี้อากาศกำลังแห้ง ทำให้น้ำตาแห้ง ความเข้มข้นของกรดด่างจึงสูงขึ้น ดวงตาจึงระคายเคืองและอักเสบได้ง่ายกว่า มากกว่า และนานกว่า วิธีป้องกันคือสวมแว่นกันแดดเวลาจากบ้าน โดยเลือกแว่นให้พอมีช่องระบายลม อย่าปิดดวงตาทั้งหมด รวมถึงพกผ้าขนหนูและน้ำสะอาดติดตัวด้วย หากมีอาการระคายเคืองก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดดวงตา นอกจากนี้ ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตา และขอย้ำว่าห้ามใส่คอนแทกต์เลนส์เด็ดขาด เพราะจะทำให้ดวงตาระคายเคืองยิ่งขึ้น และคอนแทกต์เลนส์เสื่อมไว