วานนี้ ( 18 มี.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉิน และยกเลิกประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ในเขตท้องที่ กทม. จ.นนทบุรี อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และ อ.บางพลี จ. สมุทปราการ ซึ่งส่งผลให้การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สิ้นสุดลงในวันที่ 19 มี.ค.
แต่เนื่องจากขณะนี้ยังปรากฏสถานการณ์อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอยู่ จากการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. จึงให้ประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.มั่นคงฯ) ในพื้นที่ตามที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.–30 เม.ย.57
สำหรับโครงสร้างองค์กร และบุคลากรภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เบื้องต้น จะใช้ชื่อศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เป็น ผอ.ศรส. และพ ล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นรอง ผอ.ศรส. ใช้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เป็นที่ตั้ง ศรส.
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวด้วยว่า ในระหว่างการพิจารณาเรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณีเหตุระเบิดบริเวณบ้านพักบุคคลสำคัญ บุคลากรขององค์กรอิสระ และ แกนนำกปปส. จึงกำชับให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ประสานกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผอ.ศรส.ให้เร่งรัดคดี เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังกำชับให้นายสุรพงษ์ เร่งประสานกับผู้แทนต่างประเทศ ให้รับทราบการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ ส่วนอัตรากำลังพลภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง นายกฯ ได้ให้ทุกส่วนราชการกำหนดกำลังพลให้มีความคุ้มค่า ประหยัดงบประมาณของประเทศ การจัดวางกำลังพลตามจุดต่างๆ ให้เน้นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
**"ปึ้ง"พร้อมรักษาการนายกฯแทน"ปู"
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า อาจได้รับการผลักดันให้ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีโครงการรับจำนำข้าว ว่า โดยลำดับแล้วตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ก็ต้องทำหน้าที่แทนอยู่แล้ว หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง รวมไปถึงรองนายกรัฐมนตรี คนอื่นๆ ที่มีด้วยกัน 7 คน และยืนยันว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะทำงานจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้ง เข้ามารับหน้าที่
นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงโครงสร้างตัวบุคคล ที่จะทำหน้าที่ในการบังคับใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า ตำแหน่งเลขาธิการสภาความความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของ ศรส. ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ส่งผลให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่จะกลับมารับตำแหน่งเลขาฯ สมช. จะไม่ได้ร่วมใน ศรส.อย่างแน่นอน แต่พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาฯ สมช.คนปัจจุบัน จะได้นั่งอยู่ใน ศรส.ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน จะทำหน้าที่ ผอ.ศรส.ต่อไป เพื่อความต่อเนื่อง และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะทำหน้าที่เลขาฯ ศรส.
ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า การเคลื่อนไหวของ กปปส. ต่อจากนี้ จะไม่วุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา ที่มีการประกาศชัตดาวน์กรุงเทพฯ และการประท้วงจะลดน้อยลง โดยจะใช้กลยุทธ์อื่นในการเคลื่อนไหว โดยใช้ขบวนการอื่นๆ มาร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อล้มล้างรัฐบาล ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
อย่างไรก็ตาม หลังใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ แล้วเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือทาง กปปส. เคลื่อนไหวชัตดาวน์กรุงเทพฯ อีกครั้ง ก็จะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉิน และนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯมาใช้อีก ซึ่งสามารถประกาศใช้ได้ทันที เช่นเดียวกับกรณีการใช้อาวุธสงครามก่อเหตุ ก็จะนำมาพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นรัฐบาลจะคงประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯไว้ จนกว่าการจัดการเลือกตั้งต่างๆ จะแล้วเสร็จ
**"อดุลย์"สั่ง"ประยุทธ์" รื้อบังเกอร์
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ต้องการให้ทหารรือบังเกอร์ตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงว่า การพิจารณานำบังเกอร์ตามจุดต่างๆ ออก หลังจาก ครม. ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นกำลังพิจารณากันอยู่ โดยเห็นว่าจะคงไว้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งหลังจากนำบังเกอร์ออกแล้ว จะมีการเพิ่มจุดตรวจจองตำรวจเข้ามาแทน และจะถอนกำลังทหารบางส่วนออก ตามความเหมาะสม
**หมายจับสิ้นสภาพตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายถาวร เสนเนียม แกนนำกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น ทำให้หมายจับแกนนำกปปส.ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สิ้นสภาพโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาการตีความด้านกฎหมายในภายหลัง ทางฝ่ายกปปส.จะให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อเพิกถอนหมายจับแกนนำ ที่ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนเรื่องคำสั่งเนรเทศ นายสาธิต เซกัล แนวร่วมกปปส.นั้น ถือเป็นอีกกรณี
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ ก็จะไม่ส่งผลกับการชุมนุมของกปปส. และ กปปส. จะไม่ปรับแผนยุทศาสตร์ในการชุมนุมแต่อย่างใด และมองว่าควรจะมีด่านความมั่นคงจากทหารไว้เช่นเดิม
**เลิกพ.ร.ก.เปิดช่องเสื้อแดงป่วนกรุง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ครม. ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแทน ว่า หากมองเผินๆ เหมือนเจตนาดีกับประเทศ แต่เมื่อพิจารณาในข้อเท็จจริง พบว่าเป็นหนึ่งในยุทธวิธีในการเดินหน้ารุกไล่ผู้ชุมนุม เพราะการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมาใช้เฉพาะกับกลุ่มมวลชนกปปส.
"การอ้างว่าสถานการณ์ดีขึ้น เอาอะไรมาวิเคราะห์ เพราะเมื่อวานนี้ ยังมีการลอบวางระเบิดที่ศาลอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด มีการยิงเอ็ม 79 ใส่บ้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และพยายามยิงใส่สำนักงานป.ป.ช. รวมทั้งล่าสุด มีการลอบวางระเบิดย่านเพลินจิต จึงต้องถามว่าสถานการณ์แบบนี้หรือที่เรียกว่าดีขึ้น ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เพื่อเปิดทางให้คนที่ไม่หวังดีกับประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ดำเนินการอย่างสะดวกหรือไม่ เพราะผมไม่อยากให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดการสังหารหมู่ประชาชน" นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ ยังตำหนิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่ออกมาระบุว่า สถานการณ์ลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อป้ายความผิดให้รัฐบาลว่า เป็นการพูดทางการเมือง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานการรักษาความสงบของบ้านเมือง และเห็นว่าการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ เพื่อกดดันให้กองทัพยกเลิกการตั้งบังเกอร์ กว่า 170 จุด เพื่อไม่ให้ปกป้องประชาชนในขณะที่ความรุนแรงยังเกิดกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงเกรงว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ล้อมประชาชน ให้ชายชุดดำสังหารประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับกระบวนการจัดตั้งมวลชนคนเสื้อแดง มีการตั้ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นประธาน นปช. และมีการรับสมัครการ์ดของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
** คปท.เปิดโปงความเลวร้ายรัฐบาล ปู
เมื่อเวลา 09.30 น.วานนี้ (18 มี.ค.) มวลชนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. ได้เคลื่อนขบวนไปที่ หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถ.ราชดำเนินนอก เพื่อยื่นหนังสือถึง นายบัน คี มูน เลขาธิการ ยูเอ็น โดยจะชี้แจงถึงความเสียหาย ที่รัฐบาลนี้ได้ทำกับประชาชน พร้อมนำผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา มาร่วมขบวนด้วย โดยมีนายยู คาโนสุเอะ เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผู้รับมอบหนังสือ
ทั้งนี้ นายอุทัย ได้อ่านเนื้อหาหนังสือที่ยื่นต่อเลขาฯยูเอ็น ระบุว่า คปท.ขอชี้แจงเหตุผลที่ประชาชนต้องออกมาเรียกร้อง และขับไล่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะต้องการความรับผิดชอบต่อการกระทำของรัฐบาล และการปฏิรูปประเทศไทยที่ครอบคลุมทั้ง ด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งสาเหตุมาจากรัฐบาลนี้เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และมุ่งหาทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิด โดยการออก กฎหมายนิรโทษกรรม และใช้นโยบายประชานิยมหลอกกลวงประชาชน ซึ่งเต็มไปด้วยการทุจริต คอร์รัปชัน
นอกจากนี้ รัฐบาลได้ปฏิเสธคำตัดสินของศาลยุติธรรม ปล่อยปะละเลยให้มีการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ รู้เห็นเป็นใจกับกองกำลังติดอาวุธ คุกคามเอาชีวิตคนที่มีความเห็นต่าง เป็นรัฐที่มาจากพรรคพวกใช้ความรุนแรงในการล้มรัฐบาลเมื่อปี 2552-2553 รวมถึงรู้เห็นเป็นใจในการแบ่งแยกประเทศ ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย อ้างเสียงข้างมาก ถือเป็นเผด็จการเสียงข้างมาก
“จากเหตุผลข้างต้น ทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว ประชาชนจึงมีเป้าหมายสำคัญ คือ การปฏิรูปในเรื่องการลดบทบาทของนักการเมือง โดยให้ประชาชนทุกวิชาชีพ ทุกหมู่เหล่า ได้มีส่วนร่วมในการจัดการอำนาจบริหารประเทศ โดยผู้ชุมนุมได้ออกมาเคลื่อนไหวทำการประท้วง โดยสันติวิธี ไม่มีความรุนแรง ทั้งนี้ ประชาชนเพียงต้องการให้สหประชาชาติและประชาคมโลกทำตามหน้าที่ในการร่วมส่งเสริมประชาธิปไตยที่แท้จริงและยืนเคียงข้างประชาชนเท่านั้น” นายอุทัย ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นขบวนของ คปท.ได้เคลื่อนไปปักหลักที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนินนอก โดยได้นำป้ายที่มีข้อความของ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ที่ระบุว่า “ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา”มาติดไว้ที่ด้านล่างของป้ายกองทัพบก ซึ่ง
เป็นข้อความที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้แนะนำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. อ่านข้อความ โดยนายอุทัย ยังได้ปราศรัยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดรับใช้รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย
**ทอ.ไม่เรียกคืนปีกเหินเวหาการ์ดคปท.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท. ที่ได้รับประกาศนียบัตร และเข็มนักเหินเวหากิตติมศักดิ์ ของหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (อย.) กองทัพอากาศ พร้อมเครื่องหมายปีกร่มนักเหินเวหากิตติมศักดิ์ ว่า เรื่องปีกมีหลายแบบ แต่ละแบบมีความสำคัญลดหลั่นกันไป ทั้งแบบที่ลงนามโดย ผบ.ทอ. และปีกที่ลดหลั่นไปตามสถานการณ์ ก็จะให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้อนุมัติ โดยมีเกณฑ์ว่าต้องเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม ทำคุณประโยชน์ให้กับส่วนราชการ ส่วนบางคนก็ต้องเข้าหลักสูตร หรือบางคนก็เป็นกิตติมศักดิ์ โดยไม่ได้เข้าหลักสูตร เมื่อได้ไปแล้วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าจะนำไปประดับเป็นเครื่องหมายบนเครื่องแบบ หรือจะนำไปเพื่อเป็นเครือข่ายของกองทัพอากาศช่วยเหลือประเทศชาติ หรือประชาชน สิ่งนี้เราต้องการสร้างเพื่อให้เกิดเครือข่าย ให้มีความสร้างสรรค์ แต่กรณีที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้น กองทัพอากาศยังไม่มีกติกาในการเรียกคืน ขณะนี้มองว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะเข้าใจ เมื่อได้รับไปแล้วควรที่จะรักษาไปในแนวทางความภาคภูมิใจของตนเอง
บรรยายภาพ
เปิดโปงยิ่งลักษณ์- กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. ได้เคลื่อนขบวนไปที่ หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อยื่นหนังสือถึง นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ชี้แจงถึงความเสียหาย ที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทำร้ายประชาชน จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ (18มี.ค.)
แต่เนื่องจากขณะนี้ยังปรากฏสถานการณ์อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอยู่ จากการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. จึงให้ประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.มั่นคงฯ) ในพื้นที่ตามที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.–30 เม.ย.57
สำหรับโครงสร้างองค์กร และบุคลากรภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เบื้องต้น จะใช้ชื่อศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เป็น ผอ.ศรส. และพ ล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นรอง ผอ.ศรส. ใช้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เป็นที่ตั้ง ศรส.
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวด้วยว่า ในระหว่างการพิจารณาเรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณีเหตุระเบิดบริเวณบ้านพักบุคคลสำคัญ บุคลากรขององค์กรอิสระ และ แกนนำกปปส. จึงกำชับให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ประสานกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผอ.ศรส.ให้เร่งรัดคดี เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังกำชับให้นายสุรพงษ์ เร่งประสานกับผู้แทนต่างประเทศ ให้รับทราบการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ ส่วนอัตรากำลังพลภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง นายกฯ ได้ให้ทุกส่วนราชการกำหนดกำลังพลให้มีความคุ้มค่า ประหยัดงบประมาณของประเทศ การจัดวางกำลังพลตามจุดต่างๆ ให้เน้นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
**"ปึ้ง"พร้อมรักษาการนายกฯแทน"ปู"
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า อาจได้รับการผลักดันให้ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีโครงการรับจำนำข้าว ว่า โดยลำดับแล้วตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ก็ต้องทำหน้าที่แทนอยู่แล้ว หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง รวมไปถึงรองนายกรัฐมนตรี คนอื่นๆ ที่มีด้วยกัน 7 คน และยืนยันว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะทำงานจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้ง เข้ามารับหน้าที่
นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงโครงสร้างตัวบุคคล ที่จะทำหน้าที่ในการบังคับใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า ตำแหน่งเลขาธิการสภาความความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของ ศรส. ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ส่งผลให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่จะกลับมารับตำแหน่งเลขาฯ สมช. จะไม่ได้ร่วมใน ศรส.อย่างแน่นอน แต่พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาฯ สมช.คนปัจจุบัน จะได้นั่งอยู่ใน ศรส.ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน จะทำหน้าที่ ผอ.ศรส.ต่อไป เพื่อความต่อเนื่อง และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะทำหน้าที่เลขาฯ ศรส.
ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า การเคลื่อนไหวของ กปปส. ต่อจากนี้ จะไม่วุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา ที่มีการประกาศชัตดาวน์กรุงเทพฯ และการประท้วงจะลดน้อยลง โดยจะใช้กลยุทธ์อื่นในการเคลื่อนไหว โดยใช้ขบวนการอื่นๆ มาร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อล้มล้างรัฐบาล ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
อย่างไรก็ตาม หลังใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ แล้วเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือทาง กปปส. เคลื่อนไหวชัตดาวน์กรุงเทพฯ อีกครั้ง ก็จะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉิน และนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯมาใช้อีก ซึ่งสามารถประกาศใช้ได้ทันที เช่นเดียวกับกรณีการใช้อาวุธสงครามก่อเหตุ ก็จะนำมาพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นรัฐบาลจะคงประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯไว้ จนกว่าการจัดการเลือกตั้งต่างๆ จะแล้วเสร็จ
**"อดุลย์"สั่ง"ประยุทธ์" รื้อบังเกอร์
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ต้องการให้ทหารรือบังเกอร์ตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงว่า การพิจารณานำบังเกอร์ตามจุดต่างๆ ออก หลังจาก ครม. ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นกำลังพิจารณากันอยู่ โดยเห็นว่าจะคงไว้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งหลังจากนำบังเกอร์ออกแล้ว จะมีการเพิ่มจุดตรวจจองตำรวจเข้ามาแทน และจะถอนกำลังทหารบางส่วนออก ตามความเหมาะสม
**หมายจับสิ้นสภาพตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายถาวร เสนเนียม แกนนำกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น ทำให้หมายจับแกนนำกปปส.ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สิ้นสภาพโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาการตีความด้านกฎหมายในภายหลัง ทางฝ่ายกปปส.จะให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อเพิกถอนหมายจับแกนนำ ที่ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนเรื่องคำสั่งเนรเทศ นายสาธิต เซกัล แนวร่วมกปปส.นั้น ถือเป็นอีกกรณี
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ ก็จะไม่ส่งผลกับการชุมนุมของกปปส. และ กปปส. จะไม่ปรับแผนยุทศาสตร์ในการชุมนุมแต่อย่างใด และมองว่าควรจะมีด่านความมั่นคงจากทหารไว้เช่นเดิม
**เลิกพ.ร.ก.เปิดช่องเสื้อแดงป่วนกรุง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ครม. ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแทน ว่า หากมองเผินๆ เหมือนเจตนาดีกับประเทศ แต่เมื่อพิจารณาในข้อเท็จจริง พบว่าเป็นหนึ่งในยุทธวิธีในการเดินหน้ารุกไล่ผู้ชุมนุม เพราะการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมาใช้เฉพาะกับกลุ่มมวลชนกปปส.
"การอ้างว่าสถานการณ์ดีขึ้น เอาอะไรมาวิเคราะห์ เพราะเมื่อวานนี้ ยังมีการลอบวางระเบิดที่ศาลอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด มีการยิงเอ็ม 79 ใส่บ้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และพยายามยิงใส่สำนักงานป.ป.ช. รวมทั้งล่าสุด มีการลอบวางระเบิดย่านเพลินจิต จึงต้องถามว่าสถานการณ์แบบนี้หรือที่เรียกว่าดีขึ้น ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เพื่อเปิดทางให้คนที่ไม่หวังดีกับประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ดำเนินการอย่างสะดวกหรือไม่ เพราะผมไม่อยากให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดการสังหารหมู่ประชาชน" นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ ยังตำหนิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่ออกมาระบุว่า สถานการณ์ลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อป้ายความผิดให้รัฐบาลว่า เป็นการพูดทางการเมือง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานการรักษาความสงบของบ้านเมือง และเห็นว่าการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ เพื่อกดดันให้กองทัพยกเลิกการตั้งบังเกอร์ กว่า 170 จุด เพื่อไม่ให้ปกป้องประชาชนในขณะที่ความรุนแรงยังเกิดกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงเกรงว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ล้อมประชาชน ให้ชายชุดดำสังหารประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับกระบวนการจัดตั้งมวลชนคนเสื้อแดง มีการตั้ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นประธาน นปช. และมีการรับสมัครการ์ดของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
** คปท.เปิดโปงความเลวร้ายรัฐบาล ปู
เมื่อเวลา 09.30 น.วานนี้ (18 มี.ค.) มวลชนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. ได้เคลื่อนขบวนไปที่ หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถ.ราชดำเนินนอก เพื่อยื่นหนังสือถึง นายบัน คี มูน เลขาธิการ ยูเอ็น โดยจะชี้แจงถึงความเสียหาย ที่รัฐบาลนี้ได้ทำกับประชาชน พร้อมนำผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา มาร่วมขบวนด้วย โดยมีนายยู คาโนสุเอะ เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผู้รับมอบหนังสือ
ทั้งนี้ นายอุทัย ได้อ่านเนื้อหาหนังสือที่ยื่นต่อเลขาฯยูเอ็น ระบุว่า คปท.ขอชี้แจงเหตุผลที่ประชาชนต้องออกมาเรียกร้อง และขับไล่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะต้องการความรับผิดชอบต่อการกระทำของรัฐบาล และการปฏิรูปประเทศไทยที่ครอบคลุมทั้ง ด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งสาเหตุมาจากรัฐบาลนี้เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และมุ่งหาทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิด โดยการออก กฎหมายนิรโทษกรรม และใช้นโยบายประชานิยมหลอกกลวงประชาชน ซึ่งเต็มไปด้วยการทุจริต คอร์รัปชัน
นอกจากนี้ รัฐบาลได้ปฏิเสธคำตัดสินของศาลยุติธรรม ปล่อยปะละเลยให้มีการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ รู้เห็นเป็นใจกับกองกำลังติดอาวุธ คุกคามเอาชีวิตคนที่มีความเห็นต่าง เป็นรัฐที่มาจากพรรคพวกใช้ความรุนแรงในการล้มรัฐบาลเมื่อปี 2552-2553 รวมถึงรู้เห็นเป็นใจในการแบ่งแยกประเทศ ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย อ้างเสียงข้างมาก ถือเป็นเผด็จการเสียงข้างมาก
“จากเหตุผลข้างต้น ทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว ประชาชนจึงมีเป้าหมายสำคัญ คือ การปฏิรูปในเรื่องการลดบทบาทของนักการเมือง โดยให้ประชาชนทุกวิชาชีพ ทุกหมู่เหล่า ได้มีส่วนร่วมในการจัดการอำนาจบริหารประเทศ โดยผู้ชุมนุมได้ออกมาเคลื่อนไหวทำการประท้วง โดยสันติวิธี ไม่มีความรุนแรง ทั้งนี้ ประชาชนเพียงต้องการให้สหประชาชาติและประชาคมโลกทำตามหน้าที่ในการร่วมส่งเสริมประชาธิปไตยที่แท้จริงและยืนเคียงข้างประชาชนเท่านั้น” นายอุทัย ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นขบวนของ คปท.ได้เคลื่อนไปปักหลักที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนินนอก โดยได้นำป้ายที่มีข้อความของ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ที่ระบุว่า “ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา”มาติดไว้ที่ด้านล่างของป้ายกองทัพบก ซึ่ง
เป็นข้อความที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้แนะนำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. อ่านข้อความ โดยนายอุทัย ยังได้ปราศรัยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดรับใช้รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย
**ทอ.ไม่เรียกคืนปีกเหินเวหาการ์ดคปท.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท. ที่ได้รับประกาศนียบัตร และเข็มนักเหินเวหากิตติมศักดิ์ ของหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (อย.) กองทัพอากาศ พร้อมเครื่องหมายปีกร่มนักเหินเวหากิตติมศักดิ์ ว่า เรื่องปีกมีหลายแบบ แต่ละแบบมีความสำคัญลดหลั่นกันไป ทั้งแบบที่ลงนามโดย ผบ.ทอ. และปีกที่ลดหลั่นไปตามสถานการณ์ ก็จะให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้อนุมัติ โดยมีเกณฑ์ว่าต้องเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม ทำคุณประโยชน์ให้กับส่วนราชการ ส่วนบางคนก็ต้องเข้าหลักสูตร หรือบางคนก็เป็นกิตติมศักดิ์ โดยไม่ได้เข้าหลักสูตร เมื่อได้ไปแล้วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าจะนำไปประดับเป็นเครื่องหมายบนเครื่องแบบ หรือจะนำไปเพื่อเป็นเครือข่ายของกองทัพอากาศช่วยเหลือประเทศชาติ หรือประชาชน สิ่งนี้เราต้องการสร้างเพื่อให้เกิดเครือข่าย ให้มีความสร้างสรรค์ แต่กรณีที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้น กองทัพอากาศยังไม่มีกติกาในการเรียกคืน ขณะนี้มองว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะเข้าใจ เมื่อได้รับไปแล้วควรที่จะรักษาไปในแนวทางความภาคภูมิใจของตนเอง
บรรยายภาพ
เปิดโปงยิ่งลักษณ์- กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. ได้เคลื่อนขบวนไปที่ หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อยื่นหนังสือถึง นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ชี้แจงถึงความเสียหาย ที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทำร้ายประชาชน จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ (18มี.ค.)