“สุรพงษ์” พร้อมนั่งนายกฯ สำรอง หาก “ยิ่งลักษณ์” ตกเก้าอี้ ยันจะเป็นรัฐบาลรักษาการจนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ อ้าง “สุเทพ” ไม่เอาด้วยกับข้อเสนอ 6 องค์กรอิสระ แม้รัฐบาลรับลูกก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี กางปีกกัน “ถวิล” ร่วม ศอ.รส. หลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เหตุไม่ได้อยู่ในโครงสร้าง ให้ “เฉลิม” นั่ง ผอ.ศอ.รส. “ธาริต” เป็นเลขาฯ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวอาจได้รับการผลักดันทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีโครงการรับจำนำข้าวว่า โดยลำดับแล้วตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ก็ต้องทำหน้าที่แทนหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง รวมไปถึงรองนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่มีด้วยกัน 7 คน และยืนยันว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้จะทำงานจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามารับหน้าที่
ส่วนที่ 6 องค์กรอิสระเสนอให้ฝ่ายรัฐบาลและ กปปส.เสนอชื่อคนกลางฝ่ายละ 10 คนเพื่อเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างกันนั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวกลุ่ม กปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ไม่ได้ให้การยอมรับ ดังนั้นอยากให้ 6 องค์กรดังกล่าวกลับไปทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับงานของคนอื่นเลย ซึ่งจากการติดตามงานของ 6 องค์กรอิสระที่ผ่านมาก็ไม่ได้เป็นกลาง โดยเฉพาะนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่แสดงอากัปกิริยาเหมือนกับรู้ว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 จะถูกตัดสินให้เป็นโมฆะ
“รู้สึกว่านายสมชัยกระดี๊กระด๊าออกอาการจนเกินไป เหมือนกับชอบทำนายฝัน ไม่รู้ว่าทราบล่วงหน้าหรืออย่างไร อยากจะฝากไว้ หากการเลือกตั้งเป็นโมฆะ คน 20 ล้านคนที่ออกมาใช้สิทธิจะยอมรับหรือไม่ ความวุ่นวายอาจจะเกิดขึ้น เพราะเขาหวงแหนสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่อยากให้องค์กรอิสระตัดสินอะไรผิดพลาด บ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวายแตกแยกอีก จึงอยากให้นายสมชัยเก็บอาการบ้าง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ารัฐบาลจะไม่เสนอชื่อตัวบุคคลเข้าไปเป็นคนกลางใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า หากเสนอไปแล้ว กปปส.ไม่รับก็ไม่เป็นผลอยู่ดี เหมือนกับ 6 องค์กรอิสระที่เสนอแนวคิดมา ดูเหมือนจะเป็นแนวทางที่ดี แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจาก กปปส. อาจเป็นเพียงการแสดงละครว่าไม่ใช่ฝ่ายเดียวกันเท่านั้น ทั้งนี้เชื่อว่าไม่สามารถตบตาประชาชนได้ เพราะพฤติกรรมต่างๆปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้กัน
“คุณสุเทพไม่ยอมรับคนกลางอยู่แล้ว คุณสุเทพจะเอาตัวเองเป็นคนตัดสิน การจะเสนอคนกลางไป หากเขาไม่รับก็จะขายขี้หน้า”
นายสุรพงษ์ยังกล่าวถึงโครงสร้างตัวบุคคลที่จะทำหน้าที่ในการบังคับใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ) ที่จะถูกนำมาใช้แทน พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ว่า เบื้องต้นจะมีการปรับเปลี่ยนจาก ศรส.มาเป็นศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ที่ทำหน้าที่แทน ทั้งนี้ตำแหน่งเลขาธิการสภาความความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของ ศอ.รส.ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ส่งผลให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่จะกลับมารับตำแหน่งเลขาฯ สมช.จะไม่ได้ร่วมใน ศอ.รส.อย่างแน่นอน แต่ พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาฯ สมช.คนปัจจุบัน จะได้นั่งอยู่ใน ศอ.รส.ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน จะทำหน้าที่ ผอ.ศอ.รส.ต่อไปเพื่อความต่อเนื่อง และ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะทำหน้าที่เลขาฯ ศอ.รส.
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าการเคลื่อนไหวของ กปปส.ต่อจากนี้จะไม่วุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา ที่มีการประกาศชัตดาวน์กรุงเทพฯ และการประท้วงจะลดน้อยลง โดยจะใช้กลยุทธ์อื่นในการเคลื่อนไหว โดยใช้ขบวนการอื่นๆ มาร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อล้มล้างรัฐบาล ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต อย่างไรก็ตาม หลังใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ แล้วเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายหรือทาง กปปส.เคลื่อนไหวชัตดาวน์กรุงเทพฯ อีกครั้งก็จะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินและนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาใช้อีก ซึ่งสามารถประกาศใช้ได้ทันที เช่นเดียวกับกรณีการใช้อาวุธสงครามก่อเหตุก็จะนำมาพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตามเบื้องต้นรัฐบาลจะคงประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ไว้จนกว่าการจัดการเลือกตั้งต่างๆ จะแล้วเสร็จ
