xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นบวกรับคืนพื้นที่ เตือนการเมืองไม่นิ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หุ้นไทยบวก 13 จุดขานรับกปปส.คืนพื้นที่รวบเวทีชุมนุม ดัชนีพุ่งสวนทางต่างประเทศที่กังวลสถานการณ์ยูเครน โบรกฯเตือนอย่างประมาทการเมืองในประเทศยังไม่จบ คาดอาจเห็นการปรับฐานหลังดัชนีปรับตัวขึ้นมามากแล้ว จนเหลือ upside ไม่มาก

ตลาดหุ้นไทย วานนี้ (3มี.ค.)ปิดที่ 1,339.21 เพิ่มขึ้น 13.88 จุด เปลี่ยนแปลง 1.05% มูลค่าการซื้อขาย 40,349.46 ล้านบาท ซึ่งระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,346.71จุด และปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1,330.53 จุด เนื่องจากสถานการณ์การเมืองผ่อนคลาย ผลักดันให้ดัชนีตลาดหลักทรพัย์ปรับตัวปิดทำนิวไฮช์ แม้ตลาดในต่างประเทศจะผันผวนจากความกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน ยกเว้นตลาดจีนที่บวกได้รับแรงหนุนจากตัวเลข PMI ภาคบริการออกมาดี

ภาพรวมนักลงทุนสถาบันซื้อ 3,401.25 ล้านบาท เช่นเดียวกับ นักลงทุนต่างประเทศ ที่ซื้อสุทธิ 1,147.34 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 3,924.53 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 624.06 ล้านบาท

หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 484 หลักทรัพย์ ลดลง 261 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 192 หลักทรัพย์ โดย 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ AOTมูลค่าซื้อขาย 2,521.23 ล้านบาท ราคาปิดที่ 193.50 บาท ปรับบวก 6.00 บาท เปลี่ยนแปลง 3.20% BBLมูลค่าซื้อขาย 1,832.40 ล้านบาท ราคาปิดที่ 174.50 บาท ปรับบวก 2.50 บาท เปลี่ยนแปลง 1.45% PTT มูลค่าซื้อขาย 1,795.15 ล้านบาท ราคาปิดที่ 300.00 บาท ปรับบวก7.00 บาท เปลี่ยนแปลง 2.39% TRUE มูลค่าซื้อขาย 1,742.88 ล้านบาท ราคาปิดที่ 7.25 บาท ปรับลง 0.05 บาท เปลี่ยนแปลง -0.68% และ KBANK มูลค่าซื้อขาย 1,646.09 ล้านบาท ราคาปิดที่ 172.00 บาท ปรับบวก 1.50 บาท เปลี่ยนแปลง 0.88%

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ธนชาต กล่าวว่า วานนี้ดัชนีสามารถปิดตลาดที่ระดับสูงสุดของรอบนี้ แม้ภาพรวมตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเคลื่อนไหวไม่ค่อยดี เนื่องจากมีการคืนพื้นที่ชุมนุมในหลายจุดของกรุงเทพมหานคร หรือยุติการชัตดาวน์กรุงเทพของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ทำให้ภาพรวมการเมืองไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ส่วนแนวโน้มดัชนีในวันนี้ (4 มี.ค.) ดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่จะมีโอกาสปรับฐานทางเทคนิคเพราะโดยภาพรวมดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้นสามารถเข้าซื้อ ขายตามกรอบแนวรับ แนวต้าน โดยดัชนีฯ มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,348 จุด แนวต้านที่ 1,333 จุด ส่วนนักลงทุนระยะกลาง – ยาว แนะถือเงินสด รอดัชนีฯ ย่อยตัวลงบริเวณ 1,300 จุดจึงทะยอยเก็บรายหลักทรัพย์ โดยดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,370 จุด

ด้านนักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก จำกัด มองแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นว่า สัญญาทางเทคนิคในระยะสั้น ดัชนีมีความพยายามดีดกลับต่อเนื่อง โดยผ่านขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันได้ ประกอบกับ MACD ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือเส้น SIGNAL ด้วย หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันแถวๆ 1,323 จุดอีก จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,332-1,333 จุดอีกครั้ง ปิดได้ลุ้นต่อ 1,342-1,351 จุดต่อไป

ขณะที่ สำหรับกรอบสัญญาณทางเทคนิค ในระยะกลาง ดัชนีกรอบสามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 สัปดาห์ได้ต่อเนื่อง ทำให้ MACD มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ต่ำกว่าศูนย์ หากสัปดาห์นี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 สัปดาห์แถวๆ 1,311 จุดอีก จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,333 จุด ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ที่ 1,359 จุดต่อไป

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยการเมืองจากที่กลุ่มกปปส.ได้คืนพื้นที่ชุมนุม ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มโรงแรม, กลุ่มค้าปลีก และหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บางตัวได้ปรับตัวขึ้นกัน อย่างไรก็ดีมองว่าเป็นความดีใจที่ไม่นาน เพราะยังต้องมีการหาทางออกของประเทศด้วย ดังนั้นเรื่องจึงยังไม่จบ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างอยู่ในแดนลบกันเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดจีน ที่ได้รับแรงหนุนจากตัวเลข PMI ภาคบริการที่ออกมาดี ส่วนตลาดในยุโรปต่างอยู่ในแดนลบกันทั่วหน้า จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ภายหลังจากที่รัสเซียได้ส่งกองกำลังทหารเข้าไป

ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(4 มี.ค.) ประเมินว่า ตลาดหุ้นมี upside ไม่มากแล้ว และมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้เหมือนกันหลังจากที่ตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมาก มาจากแรงขายทำกำไร ทำให้วันนี้ตลาดจะกลับสู่ความเป็นจริงมากขึ้น ส่วนยูเครนหากส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลกจะทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น