00 ในที่สุดเวลาผ่านมาอีกนานนับสัปดาห์แล้วที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับปากกับชาวนาว่าจะจ่ายเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาทมาให้ แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้จ่ายสักบาท ทั้งที่จะว่าไปแล้วเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเพียงเงินแค่ "จิ๊บจ๊อย"เท่านั้น เมื่อเทียบกับหนี้จำนวนกว่าแสนล้านบาทที่เป็นค้างจ่ายชาวนามานานครึ่งปีแล้ว ย้ำว่า "ครึ่งปี" ที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ภายใต้อุปถัมภ์ของ "เทวดา" ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ ตอนแรกมามุกเดิมก็คือ ทั้ง รมว.พาณิชย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมช.พาณิชย์ ยรรยง พวงราช ต่างไปคุยโม้ให้ความหวังว่าตั้งแต่สัปดาห์ก่อนก็สามารถจ่ายเงินได้ อาจล่าช้าในเรื่องของขั้นตอนการเบิกจ่าย
00 แต่มาจนถึงวันนี้เงินก็ยังไม่ลงมาสักบาท ชาวนาที่จนกรอบอยู่แล้ว ก็ยิ่งกรอบ"เอวกิ่ว" จนเหมือนเส้นเชือกอยู่แล้ว กำลังหน้ามืดเพราะหนี้สินรุมเร้าเข้ามาทุกวัน สาเหตุที่ยังไม่ได้เงินก้อนดังกล่าวลงมา ทั้งที่ กกต.ก็อนุมัติใหัทดรองนำเงินจากงบกลางมาใช้ก่อนแล้วค่อยหาเงินมาคืนภายในวันที่ 31 พ.ค. นั่นคือให้เวลา 3 เดือน แต่ปัญหาคือปลัดฯคลัง ไม่กล้าเซ็นต์เบิกจ่าย เพราะเกรงจะติดคุก ถ้าจะเซ็นต์ชื่อ ก็ต้องให้ รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ลงนามรับรองก่อน ทีนี้เมื่อ "เสี่ยโต้ง"ไม่กล้าเสี่ยง ทุกอย่างมันเลยค้างเติ่ง
00 ขณะที่การหาเงินมาจ่ายหนี้ชาวนาอีกทางหนึ่งด้วยการ "ขายข้าว" ก็ทำไม่ได้ตามเป้าอีก เพราะแม้แต่ขายขาดทุน ก็ขายไม่ได้ โดนพ่อค้าฉวยโอกาสกดราคาให้ต่ำติดดิน "ถ่วงเวลา" ในการเข้าประมูลซื้อให้นานที่สุด เพราะรู้ว่าราคาต้องตกลงไปอีก เวลานี้ข้าวในสต็อกรัฐบาลกองเป็นพะเนินเป็น"อาหารมอด" แล้ว ต่อไปคงต้องประมูลในราคา"อาหารสัตว์" กันแล้ว เนื่องจากเสื่อมคุณภาพ ทั้งที่สมควรจะทยอยขายมาตั้งนานก็ไม่ยอมทำ มัวแต่กั๊กกันไว้ให้พวก "เจ๊ด." เอาไปขายเข้ากระเป๋า ผลจึงเละอย่างที่เห็น และคนที่ซวยก็คือ ชาวนาทั้งหมด รวมทั้งชาวนาคนเสื้อแดงด้วย แต่ไม่รู้ว่า จนถึงเวลานี้จะเข้าใจ และตาสว่างหรือยัง
00 ล่าสุดยิ่งศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ คว่ำพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เนื่องจากขัดรธน. แถมขบวนการขั้นตอนก็ผิดอีก เรียกว่า "ผิดทุกเรื่อง" ทุกอย่างถึงได้จบเห่ นั่นคือความหวังที่จะใช้วิธี "ซิ๊กแซ็ก" เอาเงินก้อนนี้มา"หมุน "จ่ายหนี้" จำนำข้าวไปก่อน อย่างน้อยคงหวังว่าก่อนที่จะโดนจับได้ไล่ทันก็คงหมุนหลอกต้มคนไทยได้อีกสักสองสามฤดูกาล ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่มาวันนี้เมื่อความหวังพังทลาย มันก็มั่นใจได้เลยว่า ชาวนาก็ไม่มีทางได้เงิน ตราบใดที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังนั่งกอดประชาธิปไตยตายคาเก้าอี้แบบนี้ เนื่องจากเธอไม่มีปัญญาหาเงินมาได้เลย ถึงได้มาก็กระปริบ กระปรอย ไม่ทันการณ์แล้ว ดังนั้นอย่าไป "รีดหนี้กับปู" เลย ไม่มีหวังแล้ว !!
00 จะเรียกว่าทุกข์ซ้ำกรรมซัดหรือเวรกรรมมีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะหลังจากที่ศาลรธน.ชี้ว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ผิดกม. ผิดขั้นตอน มันจะโดนเป็นลูกระนาด นั่นคือ ต้องโดนร้อง ป.ป.ช.ให้เอาผิดกับสมาชิกรัฐสภาที่ "สุมหัว" กันลงมติทำผิดดังกล่าว เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับกรณีแก้ไขรธน. เกี่ยวกับที่มา ส.ว.ที่ถูกร้องไปก่อนหน้านี้ จำนวน 308 คน แต่ในกรณีหลังอาจพิเศษตรงที่มี รายชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมอยู่ด้วย ที่ลงนามในฐานะนายกฯ เพราะเป็นกม.การเงิน นี่แหละถึงว่า เสี่ยงคุกเพิ่มขึ้นมาอีก
00 ส่วน 308 คนแรก ที่เป็นอดีตสมาชิกรัฐสภา ที่ตอนแรกทำหัวหมอ ไม่ยอมไปชี้แจง ป.ป.ช. อ้างว่า"กูใหญ่" ไม่ได้อยู่ในอาณัติขององค์กรอิสระ หรือศาลรธน. เช่น สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิฯ เอาเข้าจริงก็ต้องไปชี้แจง เพียงแต่ยังยื้อซื้อเวลาไปเรื่อย อย่างไรก็ดี ทางป.ป.ช.โดย วิชา มหาคุณ บอกมาให้ตาสว่างว่า ใครจะยื้อก็ยื้อไป แต่ก็ไม่นาน และที่สำคัญใครที่มีหลักฐานชัดเจน ก็ชี้มูลความผิดได้ก่อน แต่ทั้งหมดก็คงไม่เกินเดือนนี้
00 แต่ปัญหาก็คือ ในจำนวนนั้นมี นิคม ไวรัชพานิช ที่ยังด้านรักษาการประธานวุฒิฯ นี่สิ ถ้าเกิดโดนชี้มูลความผิดจากกรณีนี้ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ รักษาการประธานทันที ความหมายก็คือ คนที่มาทำหน้านี้รักษาการประธานแทนคือ รองประธานวุฒิที่ชื่อ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ทันที คราวนี้ชักจะยุ่งแล้วซีพี่น้อง บางทีคนคำนวนมิสู้ฟ้าลิขิต จริงๆ !!
00 แต่มาจนถึงวันนี้เงินก็ยังไม่ลงมาสักบาท ชาวนาที่จนกรอบอยู่แล้ว ก็ยิ่งกรอบ"เอวกิ่ว" จนเหมือนเส้นเชือกอยู่แล้ว กำลังหน้ามืดเพราะหนี้สินรุมเร้าเข้ามาทุกวัน สาเหตุที่ยังไม่ได้เงินก้อนดังกล่าวลงมา ทั้งที่ กกต.ก็อนุมัติใหัทดรองนำเงินจากงบกลางมาใช้ก่อนแล้วค่อยหาเงินมาคืนภายในวันที่ 31 พ.ค. นั่นคือให้เวลา 3 เดือน แต่ปัญหาคือปลัดฯคลัง ไม่กล้าเซ็นต์เบิกจ่าย เพราะเกรงจะติดคุก ถ้าจะเซ็นต์ชื่อ ก็ต้องให้ รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ลงนามรับรองก่อน ทีนี้เมื่อ "เสี่ยโต้ง"ไม่กล้าเสี่ยง ทุกอย่างมันเลยค้างเติ่ง
00 ขณะที่การหาเงินมาจ่ายหนี้ชาวนาอีกทางหนึ่งด้วยการ "ขายข้าว" ก็ทำไม่ได้ตามเป้าอีก เพราะแม้แต่ขายขาดทุน ก็ขายไม่ได้ โดนพ่อค้าฉวยโอกาสกดราคาให้ต่ำติดดิน "ถ่วงเวลา" ในการเข้าประมูลซื้อให้นานที่สุด เพราะรู้ว่าราคาต้องตกลงไปอีก เวลานี้ข้าวในสต็อกรัฐบาลกองเป็นพะเนินเป็น"อาหารมอด" แล้ว ต่อไปคงต้องประมูลในราคา"อาหารสัตว์" กันแล้ว เนื่องจากเสื่อมคุณภาพ ทั้งที่สมควรจะทยอยขายมาตั้งนานก็ไม่ยอมทำ มัวแต่กั๊กกันไว้ให้พวก "เจ๊ด." เอาไปขายเข้ากระเป๋า ผลจึงเละอย่างที่เห็น และคนที่ซวยก็คือ ชาวนาทั้งหมด รวมทั้งชาวนาคนเสื้อแดงด้วย แต่ไม่รู้ว่า จนถึงเวลานี้จะเข้าใจ และตาสว่างหรือยัง
00 ล่าสุดยิ่งศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ คว่ำพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เนื่องจากขัดรธน. แถมขบวนการขั้นตอนก็ผิดอีก เรียกว่า "ผิดทุกเรื่อง" ทุกอย่างถึงได้จบเห่ นั่นคือความหวังที่จะใช้วิธี "ซิ๊กแซ็ก" เอาเงินก้อนนี้มา"หมุน "จ่ายหนี้" จำนำข้าวไปก่อน อย่างน้อยคงหวังว่าก่อนที่จะโดนจับได้ไล่ทันก็คงหมุนหลอกต้มคนไทยได้อีกสักสองสามฤดูกาล ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่มาวันนี้เมื่อความหวังพังทลาย มันก็มั่นใจได้เลยว่า ชาวนาก็ไม่มีทางได้เงิน ตราบใดที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังนั่งกอดประชาธิปไตยตายคาเก้าอี้แบบนี้ เนื่องจากเธอไม่มีปัญญาหาเงินมาได้เลย ถึงได้มาก็กระปริบ กระปรอย ไม่ทันการณ์แล้ว ดังนั้นอย่าไป "รีดหนี้กับปู" เลย ไม่มีหวังแล้ว !!
00 จะเรียกว่าทุกข์ซ้ำกรรมซัดหรือเวรกรรมมีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะหลังจากที่ศาลรธน.ชี้ว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ผิดกม. ผิดขั้นตอน มันจะโดนเป็นลูกระนาด นั่นคือ ต้องโดนร้อง ป.ป.ช.ให้เอาผิดกับสมาชิกรัฐสภาที่ "สุมหัว" กันลงมติทำผิดดังกล่าว เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับกรณีแก้ไขรธน. เกี่ยวกับที่มา ส.ว.ที่ถูกร้องไปก่อนหน้านี้ จำนวน 308 คน แต่ในกรณีหลังอาจพิเศษตรงที่มี รายชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมอยู่ด้วย ที่ลงนามในฐานะนายกฯ เพราะเป็นกม.การเงิน นี่แหละถึงว่า เสี่ยงคุกเพิ่มขึ้นมาอีก
00 ส่วน 308 คนแรก ที่เป็นอดีตสมาชิกรัฐสภา ที่ตอนแรกทำหัวหมอ ไม่ยอมไปชี้แจง ป.ป.ช. อ้างว่า"กูใหญ่" ไม่ได้อยู่ในอาณัติขององค์กรอิสระ หรือศาลรธน. เช่น สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิฯ เอาเข้าจริงก็ต้องไปชี้แจง เพียงแต่ยังยื้อซื้อเวลาไปเรื่อย อย่างไรก็ดี ทางป.ป.ช.โดย วิชา มหาคุณ บอกมาให้ตาสว่างว่า ใครจะยื้อก็ยื้อไป แต่ก็ไม่นาน และที่สำคัญใครที่มีหลักฐานชัดเจน ก็ชี้มูลความผิดได้ก่อน แต่ทั้งหมดก็คงไม่เกินเดือนนี้
00 แต่ปัญหาก็คือ ในจำนวนนั้นมี นิคม ไวรัชพานิช ที่ยังด้านรักษาการประธานวุฒิฯ นี่สิ ถ้าเกิดโดนชี้มูลความผิดจากกรณีนี้ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ รักษาการประธานทันที ความหมายก็คือ คนที่มาทำหน้านี้รักษาการประธานแทนคือ รองประธานวุฒิที่ชื่อ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ทันที คราวนี้ชักจะยุ่งแล้วซีพี่น้อง บางทีคนคำนวนมิสู้ฟ้าลิขิต จริงๆ !!