“นิคม” อ้าง รธน.ให้นั่งเก้าอี้ต่อเหมือน “ปู” โวย ส.ว.บางคนจ้องขับ จวกพวกตีความเข้าข้างตัวเอง

ประธานวุฒิสภา อ้างรัฐธรรมนูญให้อยู่ต่อจนกว่าจะมี ส.ว.ชุดใหม่ บอกทำเหมือน “ยิ่งลักษณ์” จวกพวกตีความเข้าข้างตัวเอง เชื่อไม่โดนยื่นศาล รธน.ตีความ โวยวุฒิฯ บางคนจ้องขับพ้นเก้าอี้ ซัดทำไม ส.ว.สุรินทร์ไม่โดนด้วย นัด 22 ปธ.กมธ.คุยการปฏิบัติงานพฤหัสนี้ เชื่อเลือกตั้งเรียบร้อย เตรียมเรียกประชุมสรรหา ป.ป.ช.แทน “ใจเด็ด” เร็วๆ นี้

วันนี้ (4 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่มีอดีต ส.ส.เรียกร้องให้ออกจากตำแหน่งประธานวุฒิสภา หลังจากที่ครบวาระดำรงตำแหน่ง ส.ว.ครบ 6 ปี เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 124 บัญญัติให้ ส.ว.ที่ครบวาระดำรงตำแหน่งสามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ จนกว่าจะมีส.ว.ชุดใหม่ ดังนั้น ในเมื่อรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนเช่นนี้จะตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากตนเองจะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภาต่อไปจนกว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ว.ชุดใหม่ จำนวน 95% และจนกว่าจะมีการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไม่ต้องการให้เกิดสูญญากาศของประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ

“กรณีนี้ก็เหมือนกับการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่แม้จะไม่ได้เป็น ส.ส.แล้ว ด้วยผลจากการยุบสภา แต่รัฐธรรมนูญก็ยังให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งเช่นเดียวกันกับการอยู่ในตำแหน่งประธานวุฒิสภา ของนายประสพสุข บุญเดช ในระหว่างที่มีการสรรหา ส.ว.ชุดใหม่ เมื่อปี 2554 ที่นายประสพสุข แม้จะพ้นจากตำแหน่ง ส.ว.สรรหาแล้ว แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภาต่อไปจนถึงวันเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่” นายนิคมกล่าว

นายนิคมกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการตีความรัฐธรรมนูญเข้าข้างตนเองของแต่ละฝ่าย การทำหน้าที่รัฐธรรมนูญก็ได้บัญญัติไว้ชัดเจนแล้วว่า ส.ว.เลือกตั้งจะต้องปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ส.ว.ชุดใหม่ จะตีความเป็นอย่างอื่นมิได้ และคิดว่าประเด็นนี้ไม่น่าจะเป็นเหตุให้มีการยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความได้ เพราะไม่ใช่เป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่จะมีการยื่น ป.ป.ช. ให้พิจารณาถอดถอน ตนมองว่าไม่มีเหตุแห่งการให้ถอดถอน อีกทั้งขณะนี้ตนถูกยื่นถอดถอนต่อ ป.ป.ช. กรณีทำหน้าที่รองประธานรัฐสภา เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากมี ส.ว.บางกลุ่มพยายามให้ตนออกจากตำแหน่งประธานวุฒิสภา ตนเชื่อว่ามีนัยยะทางการเมือง เพราะหากไม่มีทำไมไม่มีการพูดถึงการดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ของ นพ.อนันต์ วิริยะชัยพาณิชย์ ส.ว.สุรินทร์ด้วย ทั้งที่ดำรงตำแหน่งสว.ครบวาระแล้วเช่นเดียวกัน

นายนิคมกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 6 มี.ค. เวลา 14.00 น. นางนรรัตน์ พิมพ์เสน เลขาธิการวุฒิสภา ได้นัดประธานกรรมาธิการ จำนวน 22 คณะประชุมเพื่อชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ ส.ว. ภายหลังครบวาระดำรงตำแหน่งและระหว่างการเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่ฝ่ายข้าราชการประจำเป็นผู้ดำเนินการ เบื้องต้นคาดว่าจะมี ส.ว.ที่ติดใจในประเด็นการยังคงอยู่ตำแหน่งประธานวุฒิสภาของตนซักถาม ก็ต้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการชี้แจง ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ ส่วนตนจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว

นายนิคมกล่าวถึงการเลือกตั้ว ส.ว.ชุดใหม่ว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย ส่วนปัญหาเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว.ชุดใหม่ ในระหว่างที่ไม่มีสมัยประชุมสภานั้น ตนจะใช้จังหวะของการเปิดประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 132 (2) ที่ต้องดำเนินการสรรหาและตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรม จริยธรรมผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แทนนายใจเด็ด พรไชยา ป.ป.ช.ที่จะหมดวาระตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. เนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ซึ่งคาดว่า ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่จะสามารถปฏิญาณตนในที่ประชุมวุฒิสภาช่วงเดือนเมษายน