ASTVผู้จัดการรายวัน - "UV"หนึ่งในอาณาจักรของตระกูลสิริวัฒนภักดี เดินหน้าลงทุนตามแผนเปิด 6 โครงการ มูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 9,035 ล้านบาท โต 48.5% หวังการเมืองจบเร็ว กำลังซื้อฟื้น ด้าน"สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ" พร้อมเดินหน้าตามแผนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 3,800 ล้านบาท แต่หากปัญหาในประเทศยืดเยื้อถึงกลางปี อาจชะลอเลื่อนเปิดโครงการออกไป มั่นใจปี 57 ยอดขายได้ตามเป้าได้ 1,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 90%
นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV (ธุรกิจอสังหาฯในกลุ่มของตระกูลสิริวัฒนภักดี ) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าแผนลงทุนในปี 2557 อย่างต่อเนื่องแม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองยังคงยืดเยื้อ โดยหวังว่าการเมืองจะจบเร็วภายใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ตั้งเป้าเปิดขายคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ 6 โครงการมูลค่า เกือบหมื่นล้านบาท ภายใต้การบริหารของบริษัทแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100%
ปัจจุบันมีที่ดินแล้ว 3 แปลง ส่วนอีก 3 แปลงที่เหลืออยู่ระหว่างสรรหา ยังคงเหลืองบซื้อที่ดินอีก 600 ล้านบาท จากทั้งหมด 1,030 ล้านบาท โดยเน้นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้ารัศมี 1-2 กิโลเมตรและในเขตชุมชนใหญ่ ส่วนมูลค่าและขนาดโครงการขึ้นอยู่กับที่ดินที่ซื้อได้ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 6,080 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 4,342 ล้านบาท โตจากปีที่แล้ว 38% โดยปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้จำนวน 3,190 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74% ของเป้าหมายรายได้ และหากรวมรายได้จากบริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทถือหุ้นจำนวน 55% อีกประมาณ 2,900 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะมียอดขายทั้งสิ้น 9,035 ล้านบาท เติบโต 48.5% จากปีที่แล้วที่มียอดขาย 6,083 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มากจากยอดขายของบริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นท์แลนด์ จำนวน 2,900 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ 9,035 ล้านบาท จะมาจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 6,242 ล้านบาท หรือ 69% อสังหาฯเพื่อให้เช่าประเภทอาคารสำนักงาน 1,376 ล้านบาท สัดส่วน 15% จากธุรกิจผลิตสังกะสีอ๊อกไซด์ 1,230 ล้านบาท สัดส่วน 14% และจากธุรกิจอื่นๆ 186 ล้านบาท สัดส่วน 2%
สำหรับโครงการใหม่ที่มีที่ดินแล้ว ได้แก่ 1.โครงการยูดีไลท์ เรสซิเดนท์ ริเวอร์ฟร้อนท์ พระราม 3 บนเหน้อที่ 6 ไร่เศษ พัฒนาเป็นอาคารสูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,126 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการรวม 3,400 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดพรีเชลล์ไปในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มียอดขายไปแล้ว 30%
2.โครงการยูดีไลท์ @ บางซ่อน สเตชั่น เป็นคอนโดฯสูง 26 ชั้น บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ จำนวน 1 อาคาร จำนวน 529 ยูนิต ราคา 2.8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และ 3.โครงการยูดีไลท์ @ ตลาดพลู เป็นคอนโดฯสูง 27 และ 34 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 973 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,700 ล้านบาท โดย 2 โครงการหลังนี้จะเปิดขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคม 57 นี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“สำหรับ 2 โครงการคอนโด ยู และโครงการยูดีไลท์ ซอยพหลโยธิน 23 ที่ชะลอแผนลงทุนเนื่องจากไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม หรือ EIA โดยบริษัทได้คืนเงินให้แก่ลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในโครงการไปหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง เพื่อให้สอดคล้องกับผังเมืองและความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งทั้งสองโครงการมีเนื้อที่รวม กว่า 5 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท” นายวรวรรต กล่าว
สำหรับตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า การแข่งขันในปัจจุบันถือว่าไม่สูงมากนัก โดยคาดว่าความต้องการพื้นที่สำนักงานเช่าและอัตราค่าเช่ายังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะส่วนอาคารสำนักงานเกรดเอ ในย่าน Central Business District (CBD) ที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ทั้งนี้พิจารณาจากอัตราการจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ที่ยังคงมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทต่างชาติยังมีแนวโน้มจะเข้ามาจัดตั้งสำนักงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอาเซียนจากการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในอนาคตอีกด้วย
แต่ในขณะเดียวกันปัจจัยทางการเมือง ซึ่งหากยืดเยื้ออาจส่งผลต่อการชะลอซื้อของผู้บริโภค แต่บริษัทคาดการณ์ว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นในไตรมาส 2
ส่วนในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 6,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,675 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 38% มาจาก1.อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,745 ลบ. คิดเป็น 62% ของรายได้ มาจากคอนโด 4 โครงการ 1.โครงการ ยูดีไลท์ 3 ประชาชื่น-บางซื่อ จำนวน 1,500 ล้านบาท 2.โครงการ ยูดีไลท์ เรสซิเดนซ์ พัฒนาการ-ทองหล่อ จำนวน 940 ล้านบาท3.โครงการ คอนโด ยู @ หัวหมาก สเตชั่น จำนวน 551 ล้านบาท4.โครงการ ยูดีไลท์2@บางซื่อ สเตชั่น จำนวน 137 ล้านบาท
2.อสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า 1,201 ลบ. คิดเป็น 20 %ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 961 ล้านบาท หรือเติบโตกว่าปีก่อน 4 เท่าตัว เนื่องจากปีที่แล้วได้รวมผลประกอบการของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทองทั้งปี รายละเอียดคือ อาคารสำนักงานเกรดเอ ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ จำนวน 253.9 ล้านบาท อาคารของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทอง 947.6 ล้านบาท
3.จากธุรกิจผลิตสังกะสีอ๊อกไซด์ 1,057 ลบ. คิดเป็น 17% ของรายได้ภาพรวมใน 3 ปี ( 55-57) รายได้หลักยังคงมุ่งเน้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งมีน้ำหนักที่ 60%-70% ของรายได้ ในขณะที่รายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นตามมาเป็นอันดับสองที่ 15%-20%
***'จึงรุ่งเรืองกิจ'เปิด3โครงการใหม่ลุ้นการเมืองสงบเร็ว
นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ในปี56 ที่ผ่านมา เป็นปีที่บริษัทต้องฟันฝ่าสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ฯลฯ ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯในปี56 มีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงกว่าปีที่ผ่านมาในแง่มูลค่า 4%
ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลทำให้ยอดขายของบริษัทฯชะลอตัวลงในไตรมาส 4 ของปี56 แต่บริษัทฯยังสามารถสร้างรายได้ทั้งปีที่ 800 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 55 ซึ่งมียอดรายไดั้บรู้ 700ล้านบาท ประมาณ 13% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้า นอกจากนี้บริษัทฯยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีก 550 ล้านบาท และมีปัญหาการทิ้งดาวน์ของลูกค้าอยู่เพียง 6 % ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เรามั่นใจว่าลูกค้าของเรามีศักยภาพและยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่
สำหรับในปี57นี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 1,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 1,300 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯมีการเติบโตจากปี56 คิดเป็น 90% โดยปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน หรือปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น บริษัทฯมั่นใจว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเป้ายอดขายและเป้ายอดรับรู้รายได้ของปีนี้อย่างแน่นอน โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำยอดจองโครงการได้ถึง 120 ล้านบาท คิดเป็น 8 %ของเป้าในปี 57
นายสกุลธร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,800 ล้านบาทแบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการ และแนวสูง 1 โครงการ โดยจะเดินหน้าเปิดโครงการตามแผนที่วางไว้ ยกเว้นหากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อจนถึงช่วงกลางปี บริษัทฯจะพิจารณาชะลอตัวการเปิดโครงการออกไป ซึ่งโครงการแรกสำหรับปีนี้คือโครงการเพล็กซ์ ( เรสซิเดนซ์ นวมินทร์ ) จับกลุ่มทาวน์โฮม 3 ชั้นระดับ high -end จำนวนเพียง 93 ยูนิต มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 5.7 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวประมาณกลางปีนี้ ส่วนโครงการแนวสูงอีก 1 โครงการจะอยู่ในทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้า และ โครงการแนวราบอีก 1 โครงการ ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวยังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยในปีนี้ทางบริษัทฯให้ความสำคัญและทุ่มงบประมาณสำหรับงานวิจัยทั้งตัวโครงการ และผู้บริโภค ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
สำหรับทิศทางในการบริหาร และตอกย้ำวิสัยทัศน์ขององค์กรอย่างชัดเจน โดยเน้นสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรมืออาชีพในการสร้างสรรค์และพัฒนาที่อยู่อาศัยด้วยผลงานที่เป็นเลิศ เพื่อให้ผู้บริโภคไว้วางไว้จากรุ่นสู่รุ่น เน้นให้ทุกคนในองค์กรยึดมั่นในเป้าหมายเดียวกัน คือให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบ การพัฒนาโครงการ ตลอดจนกระบวนการส่งมอบ การบริการหลังการขายให้กับลูกค้า และมีการฝึกอบรมให้ความรู้แก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง สร้างองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งความรู้ เพื่อให้เรียลแอสเสทฯสามารถเติบโตในธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดยมุ่งหวังให้เรียลแอสเสทฯ เป็นโครงการที่ผู้บริโภคจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆเมื่อต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบัน บริษัทเรียลแอสเสทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายจำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์โฮม 3 โครงการ (เพล็กซ์ บางนา , เพล็กซ์ วัชรพล , สตอรี่ส์ อ่อนนุช-วงแหวน) โฮม ออฟฟิศระดับ high-end 1 โครงการ เดอะพรีเที่ยม บางนา และคอนโด 1 โครงการ แอสเซนท์ เอกมัย 19 มูลค่าโครงการ (รวม 5 โครงการ) 3,500 ล้านบาท ซึ่งในปี 2557 นี้บริษัทฯมีการวางแผนรุกด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคมนี้ ตำแหน่งบูธ C125-127 , C136-138 โซน C2 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ในด้านการลงทุนปีที่ผ่านมาบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ใช้งบการลงทุนในที่ดิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่าแลนด์แบงค์ที่บริษัทฯมีอยู่จะสามารถทำให้บริษัทฯเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 25 % ภายใน 3 ปีข้างหน้า และจะสามารถสร้างสรรค์ พัฒนาสินค้าได้ครอบคลุมทุก Segment ภายในปีหน้า.
นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV (ธุรกิจอสังหาฯในกลุ่มของตระกูลสิริวัฒนภักดี ) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าแผนลงทุนในปี 2557 อย่างต่อเนื่องแม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองยังคงยืดเยื้อ โดยหวังว่าการเมืองจะจบเร็วภายใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ตั้งเป้าเปิดขายคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ 6 โครงการมูลค่า เกือบหมื่นล้านบาท ภายใต้การบริหารของบริษัทแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100%
ปัจจุบันมีที่ดินแล้ว 3 แปลง ส่วนอีก 3 แปลงที่เหลืออยู่ระหว่างสรรหา ยังคงเหลืองบซื้อที่ดินอีก 600 ล้านบาท จากทั้งหมด 1,030 ล้านบาท โดยเน้นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้ารัศมี 1-2 กิโลเมตรและในเขตชุมชนใหญ่ ส่วนมูลค่าและขนาดโครงการขึ้นอยู่กับที่ดินที่ซื้อได้ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 6,080 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 4,342 ล้านบาท โตจากปีที่แล้ว 38% โดยปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้จำนวน 3,190 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74% ของเป้าหมายรายได้ และหากรวมรายได้จากบริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทถือหุ้นจำนวน 55% อีกประมาณ 2,900 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะมียอดขายทั้งสิ้น 9,035 ล้านบาท เติบโต 48.5% จากปีที่แล้วที่มียอดขาย 6,083 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มากจากยอดขายของบริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นท์แลนด์ จำนวน 2,900 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ 9,035 ล้านบาท จะมาจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 6,242 ล้านบาท หรือ 69% อสังหาฯเพื่อให้เช่าประเภทอาคารสำนักงาน 1,376 ล้านบาท สัดส่วน 15% จากธุรกิจผลิตสังกะสีอ๊อกไซด์ 1,230 ล้านบาท สัดส่วน 14% และจากธุรกิจอื่นๆ 186 ล้านบาท สัดส่วน 2%
สำหรับโครงการใหม่ที่มีที่ดินแล้ว ได้แก่ 1.โครงการยูดีไลท์ เรสซิเดนท์ ริเวอร์ฟร้อนท์ พระราม 3 บนเหน้อที่ 6 ไร่เศษ พัฒนาเป็นอาคารสูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,126 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการรวม 3,400 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดพรีเชลล์ไปในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มียอดขายไปแล้ว 30%
2.โครงการยูดีไลท์ @ บางซ่อน สเตชั่น เป็นคอนโดฯสูง 26 ชั้น บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ จำนวน 1 อาคาร จำนวน 529 ยูนิต ราคา 2.8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และ 3.โครงการยูดีไลท์ @ ตลาดพลู เป็นคอนโดฯสูง 27 และ 34 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 973 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,700 ล้านบาท โดย 2 โครงการหลังนี้จะเปิดขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคม 57 นี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“สำหรับ 2 โครงการคอนโด ยู และโครงการยูดีไลท์ ซอยพหลโยธิน 23 ที่ชะลอแผนลงทุนเนื่องจากไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม หรือ EIA โดยบริษัทได้คืนเงินให้แก่ลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในโครงการไปหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง เพื่อให้สอดคล้องกับผังเมืองและความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งทั้งสองโครงการมีเนื้อที่รวม กว่า 5 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท” นายวรวรรต กล่าว
สำหรับตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า การแข่งขันในปัจจุบันถือว่าไม่สูงมากนัก โดยคาดว่าความต้องการพื้นที่สำนักงานเช่าและอัตราค่าเช่ายังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะส่วนอาคารสำนักงานเกรดเอ ในย่าน Central Business District (CBD) ที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ทั้งนี้พิจารณาจากอัตราการจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ที่ยังคงมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทต่างชาติยังมีแนวโน้มจะเข้ามาจัดตั้งสำนักงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอาเซียนจากการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในอนาคตอีกด้วย
แต่ในขณะเดียวกันปัจจัยทางการเมือง ซึ่งหากยืดเยื้ออาจส่งผลต่อการชะลอซื้อของผู้บริโภค แต่บริษัทคาดการณ์ว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นในไตรมาส 2
ส่วนในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 6,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,675 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 38% มาจาก1.อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,745 ลบ. คิดเป็น 62% ของรายได้ มาจากคอนโด 4 โครงการ 1.โครงการ ยูดีไลท์ 3 ประชาชื่น-บางซื่อ จำนวน 1,500 ล้านบาท 2.โครงการ ยูดีไลท์ เรสซิเดนซ์ พัฒนาการ-ทองหล่อ จำนวน 940 ล้านบาท3.โครงการ คอนโด ยู @ หัวหมาก สเตชั่น จำนวน 551 ล้านบาท4.โครงการ ยูดีไลท์2@บางซื่อ สเตชั่น จำนวน 137 ล้านบาท
2.อสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า 1,201 ลบ. คิดเป็น 20 %ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 961 ล้านบาท หรือเติบโตกว่าปีก่อน 4 เท่าตัว เนื่องจากปีที่แล้วได้รวมผลประกอบการของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทองทั้งปี รายละเอียดคือ อาคารสำนักงานเกรดเอ ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ จำนวน 253.9 ล้านบาท อาคารของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทอง 947.6 ล้านบาท
3.จากธุรกิจผลิตสังกะสีอ๊อกไซด์ 1,057 ลบ. คิดเป็น 17% ของรายได้ภาพรวมใน 3 ปี ( 55-57) รายได้หลักยังคงมุ่งเน้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งมีน้ำหนักที่ 60%-70% ของรายได้ ในขณะที่รายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นตามมาเป็นอันดับสองที่ 15%-20%
***'จึงรุ่งเรืองกิจ'เปิด3โครงการใหม่ลุ้นการเมืองสงบเร็ว
นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ในปี56 ที่ผ่านมา เป็นปีที่บริษัทต้องฟันฝ่าสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ฯลฯ ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯในปี56 มีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงกว่าปีที่ผ่านมาในแง่มูลค่า 4%
ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลทำให้ยอดขายของบริษัทฯชะลอตัวลงในไตรมาส 4 ของปี56 แต่บริษัทฯยังสามารถสร้างรายได้ทั้งปีที่ 800 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 55 ซึ่งมียอดรายไดั้บรู้ 700ล้านบาท ประมาณ 13% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้า นอกจากนี้บริษัทฯยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีก 550 ล้านบาท และมีปัญหาการทิ้งดาวน์ของลูกค้าอยู่เพียง 6 % ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เรามั่นใจว่าลูกค้าของเรามีศักยภาพและยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่
สำหรับในปี57นี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 1,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 1,300 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯมีการเติบโตจากปี56 คิดเป็น 90% โดยปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน หรือปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น บริษัทฯมั่นใจว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเป้ายอดขายและเป้ายอดรับรู้รายได้ของปีนี้อย่างแน่นอน โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำยอดจองโครงการได้ถึง 120 ล้านบาท คิดเป็น 8 %ของเป้าในปี 57
นายสกุลธร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,800 ล้านบาทแบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการ และแนวสูง 1 โครงการ โดยจะเดินหน้าเปิดโครงการตามแผนที่วางไว้ ยกเว้นหากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อจนถึงช่วงกลางปี บริษัทฯจะพิจารณาชะลอตัวการเปิดโครงการออกไป ซึ่งโครงการแรกสำหรับปีนี้คือโครงการเพล็กซ์ ( เรสซิเดนซ์ นวมินทร์ ) จับกลุ่มทาวน์โฮม 3 ชั้นระดับ high -end จำนวนเพียง 93 ยูนิต มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 5.7 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวประมาณกลางปีนี้ ส่วนโครงการแนวสูงอีก 1 โครงการจะอยู่ในทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้า และ โครงการแนวราบอีก 1 โครงการ ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวยังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยในปีนี้ทางบริษัทฯให้ความสำคัญและทุ่มงบประมาณสำหรับงานวิจัยทั้งตัวโครงการ และผู้บริโภค ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
สำหรับทิศทางในการบริหาร และตอกย้ำวิสัยทัศน์ขององค์กรอย่างชัดเจน โดยเน้นสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรมืออาชีพในการสร้างสรรค์และพัฒนาที่อยู่อาศัยด้วยผลงานที่เป็นเลิศ เพื่อให้ผู้บริโภคไว้วางไว้จากรุ่นสู่รุ่น เน้นให้ทุกคนในองค์กรยึดมั่นในเป้าหมายเดียวกัน คือให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบ การพัฒนาโครงการ ตลอดจนกระบวนการส่งมอบ การบริการหลังการขายให้กับลูกค้า และมีการฝึกอบรมให้ความรู้แก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง สร้างองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งความรู้ เพื่อให้เรียลแอสเสทฯสามารถเติบโตในธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดยมุ่งหวังให้เรียลแอสเสทฯ เป็นโครงการที่ผู้บริโภคจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆเมื่อต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบัน บริษัทเรียลแอสเสทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายจำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์โฮม 3 โครงการ (เพล็กซ์ บางนา , เพล็กซ์ วัชรพล , สตอรี่ส์ อ่อนนุช-วงแหวน) โฮม ออฟฟิศระดับ high-end 1 โครงการ เดอะพรีเที่ยม บางนา และคอนโด 1 โครงการ แอสเซนท์ เอกมัย 19 มูลค่าโครงการ (รวม 5 โครงการ) 3,500 ล้านบาท ซึ่งในปี 2557 นี้บริษัทฯมีการวางแผนรุกด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคมนี้ ตำแหน่งบูธ C125-127 , C136-138 โซน C2 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ในด้านการลงทุนปีที่ผ่านมาบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ใช้งบการลงทุนในที่ดิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่าแลนด์แบงค์ที่บริษัทฯมีอยู่จะสามารถทำให้บริษัทฯเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 25 % ภายใน 3 ปีข้างหน้า และจะสามารถสร้างสรรค์ พัฒนาสินค้าได้ครอบคลุมทุก Segment ภายในปีหน้า.