"สุเทพ" นับถอยหลังรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"ชี้กำลังถูกสารพัดปัญหารุมเร้า จึงพยายามปลุกปั่นเสื้อแดงให้เกิดความเกลียดชังฝ่ายตรงข้าม กล่าวหา องค์กรอิสระ จ้องล้มรัฐบาล ขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็กำลังเสื่อม หลังจากสมุนบริวารประกาศแบ่งแยกประเทศ ข้าราชการกว่าครึ่งประเทศไม่เอาด้วย หลังศาลปกครอง สั่งคืนตำแหน่งเลขาฯ สมช.ให้ "ถวิล" ผบ.ตร.สั่งตำรวจไม่ต้องฟังคำสั่ง ศรส.แล้ว ขณะที่ กปปส.เริ่มทำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย ภายใต้ชื่อ"มวลมหาประชาเดิน หน้าเปลี่ยนประเทศ" วันนี้
เมื่อเวลา 19.45 น. วานนี้ (9 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีลุมพินี โดยกล่าวถึง กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กับพวก พยายามปลุกปั่นมวลชนให้มีความเกลียดชัง กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. มีการปลุกระดมทั้งที่ ภาคอีสาน และ ที่ จ.เชียงใหม่ ด้วยถ้อยคำ หยาบคาย รุนแรง และมิบังควร โดยกล่าวหาว่า กปปส.พยายามทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วสถาปนาระบอบเผด็จ การฟาสซิสม์ ขึ้นมา
นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้ทำร้ายประเทศไทยด้วยการเผาบ้านเผาเมืองมาแล้ว แต่กำลังพยายามบิดเบือน เอาประชาธิปไตยมาบังหน้า ทั้งที่แก่น แท้เป็นระบอบทุนสามานย์ ใช้เงินฟาดหัวข้าราชการมาเป็นพวก แล้วเอาอำนาจของประชาชนมาอ้าง เพื่อหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ครอบครัว และพวกพ้อง แล้วทิ้ง เอาความเสียหายไว้ให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าขืนปล่อยไว้บ้านเมืองจะล่มจม เกินกำลังที่จะกอบกู้ได้ แค่โครงการจำนำข้าวอย่างเดียวก็เจ๊งไปแล้ว 4-5 แสนล้านบาท แล้วยังมีโครงการอื่นๆอีก รวมทั้งการเตรียมกู้ 2 ล้านล้าน มาถลุงกันอีก โดยอ้างถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่ใช้เงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท
ทั้งๆ ที่เอกชนจีน เสนอโครงการโดยสร้างจากจีน มาเวียงจันทน์ ประเทศลาว ข้ามแม้น้ำโขงมาที่หนองคาย เข้ากรุงเทพฯ แล้วไปมาเลย์เซีย โดยไม่ต้อง เป็นภาระให้รัฐบาลไทย แต่ทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เอา เพราะโกงไม่ได้ จึงออกกฎหมายเพื่อขอกู้ 2 ล้านล้าน แต่มีคนคัดค้าน และร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาล รัฐธรรมนูญ กำลังจะตัดสินในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ถ้าพ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน ผ่านพวกเราก็เตรียมใช้หนี้ไป 5 ปี แต่ก้าเราไล่ยิ่งลักษณ์ออกไปก่อน เราก็ไม่ต้องกู็ ไม่ต้องมาเป็นหนี้ และถ้าศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าขัด รัฐธรรมนูญ พวกรัฐบาลและลิ่วล้อก็จะออกมาโจมตี อาละวาดศาลรัฐธรรมนูญอีก เช่นเดียวกับ ที่มีการร้องเรียนเรื่องเลือกตั้ง 2 ก.พ.โมฆะ หรือไม่ ถ้าออกมาว่าโมฆะ พวกนี้ก็ออกมาวุ่นวายอีก ไม่ยอมรับอีก และถ้าป.ป.ช.ชี้มูลว่า ยิ่งลักษณ์ มีความผิด ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่
ตอนนี้รัฐบาลจึงพยายามปลุกระดมว่า กลุ่มกปปส. ใช้องค์กรอิสระเหล่านี้เป็นเครื่องมือ พยายามโค่นล้มรัฐบาล
นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เลือกตั้งไปแล้ว 30 วันยังเปิดสภาไม่ได้ แต่ยิ่งลักษณ์ ยังรักษาการอยู่ ไม่ยอมออก โดยอ้างแต่เพียงว่า ต้องมีรัฐบาลใหม่ก่อน พยายาม บอกว่ายังมีเวลาเลือกตั้งอีก 180 วัน
ล่าสุดศาลปกครองสูงสุด ตัดสินว่า ยิ่งลักษณ์ ทำผิด กรณีย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากเลขาธิการ สมช. โดยมิชอบ แล้วให้คืนตำแหน่งให้ นายถวิล ภาย ใน 45 วัน แต่รัฐบาลยังทำเฉย ทำให้ข้าราชการกว่าครึ่งในตอนนี้ ไม่เอาด้วยกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อีกแล้ว ตำรวจก็ถอดใจไปกว่าครึ่งแล้วเหมือนกัน จากกรณีการไป ปราบปรามประชาชนที่สะพานผ่านฟ้าฯ มีคนตาย แล้วญาติเขาไปฟ้องศาล และศาลก็รับฟ้องไปแล้วด้วย ก็เตรียมตัวขึ้นศาลกันได้เลย ตั้งแต่ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่ บำรุง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ทำให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. สั่งตำรวจ ว่าต่อไปนี้ ไม่ต้องฟัง ศรส. อีกแล้ว หากสั่งให้ไปสลายการชุมนุม
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็เสื่อมลงทุกวัน โดยเฉพาะหลังจากที่สมุนบริวาร ประกาศแบ่งแยกประเทศ จะตั้งสปป.ล้านนา ประกาศจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น โกงค่า ข้าวชาวนา จนขณะนี้ ไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้ว พยายามประกาศระดมคนเพื่อมาต่อสู้กับมวลชน กปปส. แต่ไม่มีใครมาร่วมด้วย ขนาดจ่ายเงินยังไม่มีใครมาร่วมด้วย เพราะประชาชนรู้แล้วว่า ใครคือตัวการทำลายประชาธิปไตย
นายสุเทพ ยืนยันว่า การรวมตัวของ กปปส. ไม่ใช่พรรคการเมือง และจะไม่ตั้งพรรคการเมืองโดยเด็ดขาด และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครส.ว.ใน จังหวัดใดทั้งสิ้น ถ้าใครอ้างว่า กปปส. ส่งมาลงสมัคร ส.ว. ก็ขอบอกว่าอย่าไปเลือกคนนั้น
นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่ วันนี้ (10 มี.ค.) เป็นต้นไป เราจะสัมมนาเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย ภายใต้ชื่อ "มวลมหาประชาเดินหน้าเปลี่ยนประเทศ" และ จะทำต่อเนื่องในวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ เริ่มเสวนาทางวิชาการ เพื่อปฏิรูปประเทศไทย โดยช่วงแรกจะเอานักวิชาการ ที่ทำการศึกษาเรื่องการปฏิรูปประเทศไทย มา เสนอผลงาน ประชาชนนั่งฟัง สงสัยก็ถาม แสดงความคิดเห็น จนได้ข้อสรุป เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมกันอย่างจริงจัง เราจะได้แผนปฏิรูปประเทศไทย ฉบับสมบูรณ์ เมื่อเรามีนายกฯใหม่ เราก็ยื่นแผนปฏิรูปนี้ให้เลย เพื่อจะได้ปฏิรูปประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว
ผกก.สน.ดุสิตขอโทษ คปท.
วานนี้ (9 มี.ค.) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้นำมวลชนเคลื่อนขบวนออกจากเวทีที่ตั้ง บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. เดินทางไปยัง สน.ดุสิต เพื่อประท้วงการทำหน้าที่หลังจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา การ์ดของ คปท. ถูกตำรวจ สน.ดุสิต จับกุมตัว ในข้อหาพกหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา 1 ชิ้น และได้ถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา เพราะแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้ ขณะเดียวกัน ก็จะทวงคืนเต็นท์รวมถึงกล้องวงจรปิด ที่ ทางตำรวจได้ยึดไป โดยนายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าทีมการ์ด ได้นำหน้ากากกันแก๊สน้ำตาดังกล่าวไปยืนยันกับตำรวจว่า ไม่ใช่ยุทธภัณฑ์
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ดุสิต ได้กล่าวขอโทษตัวแทนจากกลุ่มคปท. กรณีตำรวจจับการ์ดพกหน้ากากกันแก๊สน้ำตา ยอมรับตำรวจตัดสินใจ ผิดพลาด ก่อนที่กลุ่มคปท.จะยอมเดินทางกลับ
ยิงแท็กซี่เที่ยวหญิงบริการสวนลุมฯ
เมื่อเวลา 02.45 น. วานนี้ (9 มี.ค.) ร.ต.ท.ณัฐพล ล่อดงบัง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งมีเหตุยิงกันบริเวณใกล้ประตู 1 สวนลุมพินี ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส.ผนพ. สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้า หน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ทหารบก
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณช่องทางซ้ายสุด ของถนนวิทยุ ฝั่งขาเข้า พบรถแท็กซี่รับจ้าง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นลีโม่ สีส้ม ของสหกรณ์บวรแท็กซี่ จำกัด ทะเบียนป้าย เหลือง ทร 6715 กรุงเทพมหานคร มีนายนราศักดิ์ พูลมา อายุ 30 ปี คนขับ ยืนรอหน้าตื่น โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกสะเก็ดกระสุนถากที่หน้าผากด้านซ้ายเลือด ไหลซิบ ส่วนบริเวณตัวถึงรถฝั่งซ้าย มีร่องรอยถูกยิงหลายแห่ง จนกระจกแตกกระจายเกลื่อนพื้น นอกจากนี้บริเวณใกล้ล้อ รถพบปลอกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ตก อยู่จำนวนหนึ่ง จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายนราศักดิ์ ให้การอย่างหวาดผวาว่า ก่อนเกิดเหตุรับผู้โดยสารเป็นชาย ไม่ทราบชื่อ ซึ่งมีอาการมึนเมา จากถนนพระราม 2 โดยแจ้ง ความประสงค์ว่า ต้องการจะเที่ยวหาความสุขกับหญิงบริการ รอบสวนลุมพินี จึงขับพาวนต่อรองราคาเรื่อยมา กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ กลับถูกการ์ด กปปส. ตะโกนออก มาจากภายสวนว่า ให้รีบออกไปจากจุดดังกล่าว แต่ทว่าผู้โดยสารที่นั่งมา ตะโกนต่อว่ากลับไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์ 1 ครั้ง จึงรีบเปิดประตูรถ หนีตายกัน ก่อนจะมีเสียงปืนคล้ายอาวุธสงครามรัวยิงออกมาเป็นชุด 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ต้องทำการ สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมเป็นสำนวน และรอผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานหาขนาดของอาวุธปืนที่แน่ชัด รวมทั้งวิถีกระสุนปืน เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัวมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
"โกตี๋"โดนมือมืดยิงเวที คาดมือที่สาม
เมื่อเวลา 21.00.น. วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งเหตุจาก นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ว่า มีคนร้ายกราดยิงด้วยอาวุธปืน เข้ามาภายในเวทีปราศัยของคนเสื้อแดงใน จ.ปทุมธานี ทำให้ผุ้ชุมนุมกว่า 200 คน ต่างวิ่งหลบลูกปืนกันอย่างอลม่าน จึงได้ไปตรวจ สอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเป็นเวทีปราศรัยของกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามสนามกีฬาธูปเตมีย์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดย นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 18.30.น. ของวันที่ 8 มี.ค. ตนเองพร้อมด้วยกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ได้ประกอบกิจธรรมบนเวทีแห่งนี้ ตามปกติทุกๆวัน ปรากฏว่าได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืน ยิงเข้ามา ในเวทีแห่งนี้จำนวน 3 นัด ทางกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมาก ที่เข้ามารับฟัง ต่างแตกตื่น วิ่งหาที่หลบกันอย่างอลม่าน
จากนั้นตนเองพร้อมด้วยการ์ดคนเสื้อแดงได้วิ่งเข้าไปดู เห็นรถเก๋งสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นาน รถคันดังกล่าว ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง แล้วเปิดกระจกด้านซ้ายของคนขับ แล้วยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้ามาในเวที อีกจำนวน 3 นัด แล้วรถคันดังกล่าวได้ขับรถหนีไปอย่าง รวดเร็ว โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ตนไม่ได้ไปแจ้งความแต่อย่างใด เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้ มีให้เห็นแทบทุกวัน บางวันก็มีระเบิดปิงปอง ขว้างเข้ามาจำนวนมาก จึงคิดว่าอาจจะเป็นมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ก็เป็นได้
นอกจากนี้ ตนยังได้รับจดหมายข่มขู่ โดยหน้าซองจดหมาย มีสัญญลักษณ์ของทางราชการ ส่งถึง โกตี๋ สถานีวิทยุ คลื่น 105.65 โดยในเนื้อหาระบุ ว่า ปล .หากไม่อย่าตาย รีบหนีไปซะก่อนที่คนของผมจะลงมือ ซึ่งตอนนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คูคต เข้ามาดูแล และคอยเข้ามาตรวจสอบที่เวทีเรียบร้อยแล้ว
รับสมัครอพปช.โคราชวันแรก 600 คน
หลังจากที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ อพปช. ได้ทำการเปิดรับสมัคร ชาย-หญิง ในพื้นที่จ.นครราชสีมา เพื่อเป็น อพปช. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเสนอ นันทน์ธนกุล ผู้อำนวยการรับสมัคร อพปช. จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในการับสมัครวันแรก มีชาย-หญิง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา นำบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่าย มาเพื่อขอสมัครเป็น อพปช.จำนวนกว่า 600 คน และ หลังจากนี้ ก็จะให้แกนนำคนเสื้อแดงแต่ละอำเภอ ไปเปิดจุดรับสมัครในพื้นที่ของตน ให้ครอบคลุมทั้ง 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา ต่อไป
"คาดว่า จ.นครราชสีมา จะได้ อพปช.ไม่น้อยกว่า 2,000 คน ตามที่ตั้งเป้าไว้ และในช่วงเดือนเม.ย.นี้ อพปช.ประมาณ 2 แสนคน ทั่วประเทศ จะมารวมตัว กันที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา เพื่อสวนสนาม และรับนโยบายการปฏิบัติหน้าที่จากมติที่ประชุมของแกนนำ อพปช. หลังจาก นั้นก็จะแยกย้ายไปทำการฝึกยุทธวิธีต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดของตนเองต่อไป" นายเสนอฯ กล่าว.
เมื่อเวลา 19.45 น. วานนี้ (9 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีลุมพินี โดยกล่าวถึง กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กับพวก พยายามปลุกปั่นมวลชนให้มีความเกลียดชัง กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. มีการปลุกระดมทั้งที่ ภาคอีสาน และ ที่ จ.เชียงใหม่ ด้วยถ้อยคำ หยาบคาย รุนแรง และมิบังควร โดยกล่าวหาว่า กปปส.พยายามทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วสถาปนาระบอบเผด็จ การฟาสซิสม์ ขึ้นมา
นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้ทำร้ายประเทศไทยด้วยการเผาบ้านเผาเมืองมาแล้ว แต่กำลังพยายามบิดเบือน เอาประชาธิปไตยมาบังหน้า ทั้งที่แก่น แท้เป็นระบอบทุนสามานย์ ใช้เงินฟาดหัวข้าราชการมาเป็นพวก แล้วเอาอำนาจของประชาชนมาอ้าง เพื่อหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ครอบครัว และพวกพ้อง แล้วทิ้ง เอาความเสียหายไว้ให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าขืนปล่อยไว้บ้านเมืองจะล่มจม เกินกำลังที่จะกอบกู้ได้ แค่โครงการจำนำข้าวอย่างเดียวก็เจ๊งไปแล้ว 4-5 แสนล้านบาท แล้วยังมีโครงการอื่นๆอีก รวมทั้งการเตรียมกู้ 2 ล้านล้าน มาถลุงกันอีก โดยอ้างถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่ใช้เงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท
ทั้งๆ ที่เอกชนจีน เสนอโครงการโดยสร้างจากจีน มาเวียงจันทน์ ประเทศลาว ข้ามแม้น้ำโขงมาที่หนองคาย เข้ากรุงเทพฯ แล้วไปมาเลย์เซีย โดยไม่ต้อง เป็นภาระให้รัฐบาลไทย แต่ทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เอา เพราะโกงไม่ได้ จึงออกกฎหมายเพื่อขอกู้ 2 ล้านล้าน แต่มีคนคัดค้าน และร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาล รัฐธรรมนูญ กำลังจะตัดสินในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ถ้าพ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน ผ่านพวกเราก็เตรียมใช้หนี้ไป 5 ปี แต่ก้าเราไล่ยิ่งลักษณ์ออกไปก่อน เราก็ไม่ต้องกู็ ไม่ต้องมาเป็นหนี้ และถ้าศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าขัด รัฐธรรมนูญ พวกรัฐบาลและลิ่วล้อก็จะออกมาโจมตี อาละวาดศาลรัฐธรรมนูญอีก เช่นเดียวกับ ที่มีการร้องเรียนเรื่องเลือกตั้ง 2 ก.พ.โมฆะ หรือไม่ ถ้าออกมาว่าโมฆะ พวกนี้ก็ออกมาวุ่นวายอีก ไม่ยอมรับอีก และถ้าป.ป.ช.ชี้มูลว่า ยิ่งลักษณ์ มีความผิด ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่
ตอนนี้รัฐบาลจึงพยายามปลุกระดมว่า กลุ่มกปปส. ใช้องค์กรอิสระเหล่านี้เป็นเครื่องมือ พยายามโค่นล้มรัฐบาล
นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เลือกตั้งไปแล้ว 30 วันยังเปิดสภาไม่ได้ แต่ยิ่งลักษณ์ ยังรักษาการอยู่ ไม่ยอมออก โดยอ้างแต่เพียงว่า ต้องมีรัฐบาลใหม่ก่อน พยายาม บอกว่ายังมีเวลาเลือกตั้งอีก 180 วัน
ล่าสุดศาลปกครองสูงสุด ตัดสินว่า ยิ่งลักษณ์ ทำผิด กรณีย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากเลขาธิการ สมช. โดยมิชอบ แล้วให้คืนตำแหน่งให้ นายถวิล ภาย ใน 45 วัน แต่รัฐบาลยังทำเฉย ทำให้ข้าราชการกว่าครึ่งในตอนนี้ ไม่เอาด้วยกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อีกแล้ว ตำรวจก็ถอดใจไปกว่าครึ่งแล้วเหมือนกัน จากกรณีการไป ปราบปรามประชาชนที่สะพานผ่านฟ้าฯ มีคนตาย แล้วญาติเขาไปฟ้องศาล และศาลก็รับฟ้องไปแล้วด้วย ก็เตรียมตัวขึ้นศาลกันได้เลย ตั้งแต่ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่ บำรุง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ทำให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. สั่งตำรวจ ว่าต่อไปนี้ ไม่ต้องฟัง ศรส. อีกแล้ว หากสั่งให้ไปสลายการชุมนุม
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็เสื่อมลงทุกวัน โดยเฉพาะหลังจากที่สมุนบริวาร ประกาศแบ่งแยกประเทศ จะตั้งสปป.ล้านนา ประกาศจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น โกงค่า ข้าวชาวนา จนขณะนี้ ไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้ว พยายามประกาศระดมคนเพื่อมาต่อสู้กับมวลชน กปปส. แต่ไม่มีใครมาร่วมด้วย ขนาดจ่ายเงินยังไม่มีใครมาร่วมด้วย เพราะประชาชนรู้แล้วว่า ใครคือตัวการทำลายประชาธิปไตย
นายสุเทพ ยืนยันว่า การรวมตัวของ กปปส. ไม่ใช่พรรคการเมือง และจะไม่ตั้งพรรคการเมืองโดยเด็ดขาด และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครส.ว.ใน จังหวัดใดทั้งสิ้น ถ้าใครอ้างว่า กปปส. ส่งมาลงสมัคร ส.ว. ก็ขอบอกว่าอย่าไปเลือกคนนั้น
นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่ วันนี้ (10 มี.ค.) เป็นต้นไป เราจะสัมมนาเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย ภายใต้ชื่อ "มวลมหาประชาเดินหน้าเปลี่ยนประเทศ" และ จะทำต่อเนื่องในวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ เริ่มเสวนาทางวิชาการ เพื่อปฏิรูปประเทศไทย โดยช่วงแรกจะเอานักวิชาการ ที่ทำการศึกษาเรื่องการปฏิรูปประเทศไทย มา เสนอผลงาน ประชาชนนั่งฟัง สงสัยก็ถาม แสดงความคิดเห็น จนได้ข้อสรุป เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมกันอย่างจริงจัง เราจะได้แผนปฏิรูปประเทศไทย ฉบับสมบูรณ์ เมื่อเรามีนายกฯใหม่ เราก็ยื่นแผนปฏิรูปนี้ให้เลย เพื่อจะได้ปฏิรูปประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว
ผกก.สน.ดุสิตขอโทษ คปท.
วานนี้ (9 มี.ค.) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้นำมวลชนเคลื่อนขบวนออกจากเวทีที่ตั้ง บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. เดินทางไปยัง สน.ดุสิต เพื่อประท้วงการทำหน้าที่หลังจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา การ์ดของ คปท. ถูกตำรวจ สน.ดุสิต จับกุมตัว ในข้อหาพกหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา 1 ชิ้น และได้ถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา เพราะแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้ ขณะเดียวกัน ก็จะทวงคืนเต็นท์รวมถึงกล้องวงจรปิด ที่ ทางตำรวจได้ยึดไป โดยนายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าทีมการ์ด ได้นำหน้ากากกันแก๊สน้ำตาดังกล่าวไปยืนยันกับตำรวจว่า ไม่ใช่ยุทธภัณฑ์
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ดุสิต ได้กล่าวขอโทษตัวแทนจากกลุ่มคปท. กรณีตำรวจจับการ์ดพกหน้ากากกันแก๊สน้ำตา ยอมรับตำรวจตัดสินใจ ผิดพลาด ก่อนที่กลุ่มคปท.จะยอมเดินทางกลับ
ยิงแท็กซี่เที่ยวหญิงบริการสวนลุมฯ
เมื่อเวลา 02.45 น. วานนี้ (9 มี.ค.) ร.ต.ท.ณัฐพล ล่อดงบัง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งมีเหตุยิงกันบริเวณใกล้ประตู 1 สวนลุมพินี ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส.ผนพ. สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้า หน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ทหารบก
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณช่องทางซ้ายสุด ของถนนวิทยุ ฝั่งขาเข้า พบรถแท็กซี่รับจ้าง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นลีโม่ สีส้ม ของสหกรณ์บวรแท็กซี่ จำกัด ทะเบียนป้าย เหลือง ทร 6715 กรุงเทพมหานคร มีนายนราศักดิ์ พูลมา อายุ 30 ปี คนขับ ยืนรอหน้าตื่น โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกสะเก็ดกระสุนถากที่หน้าผากด้านซ้ายเลือด ไหลซิบ ส่วนบริเวณตัวถึงรถฝั่งซ้าย มีร่องรอยถูกยิงหลายแห่ง จนกระจกแตกกระจายเกลื่อนพื้น นอกจากนี้บริเวณใกล้ล้อ รถพบปลอกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ตก อยู่จำนวนหนึ่ง จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายนราศักดิ์ ให้การอย่างหวาดผวาว่า ก่อนเกิดเหตุรับผู้โดยสารเป็นชาย ไม่ทราบชื่อ ซึ่งมีอาการมึนเมา จากถนนพระราม 2 โดยแจ้ง ความประสงค์ว่า ต้องการจะเที่ยวหาความสุขกับหญิงบริการ รอบสวนลุมพินี จึงขับพาวนต่อรองราคาเรื่อยมา กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ กลับถูกการ์ด กปปส. ตะโกนออก มาจากภายสวนว่า ให้รีบออกไปจากจุดดังกล่าว แต่ทว่าผู้โดยสารที่นั่งมา ตะโกนต่อว่ากลับไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์ 1 ครั้ง จึงรีบเปิดประตูรถ หนีตายกัน ก่อนจะมีเสียงปืนคล้ายอาวุธสงครามรัวยิงออกมาเป็นชุด 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ต้องทำการ สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมเป็นสำนวน และรอผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานหาขนาดของอาวุธปืนที่แน่ชัด รวมทั้งวิถีกระสุนปืน เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัวมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
"โกตี๋"โดนมือมืดยิงเวที คาดมือที่สาม
เมื่อเวลา 21.00.น. วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งเหตุจาก นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ว่า มีคนร้ายกราดยิงด้วยอาวุธปืน เข้ามาภายในเวทีปราศัยของคนเสื้อแดงใน จ.ปทุมธานี ทำให้ผุ้ชุมนุมกว่า 200 คน ต่างวิ่งหลบลูกปืนกันอย่างอลม่าน จึงได้ไปตรวจ สอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเป็นเวทีปราศรัยของกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามสนามกีฬาธูปเตมีย์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดย นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 18.30.น. ของวันที่ 8 มี.ค. ตนเองพร้อมด้วยกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ได้ประกอบกิจธรรมบนเวทีแห่งนี้ ตามปกติทุกๆวัน ปรากฏว่าได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืน ยิงเข้ามา ในเวทีแห่งนี้จำนวน 3 นัด ทางกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมาก ที่เข้ามารับฟัง ต่างแตกตื่น วิ่งหาที่หลบกันอย่างอลม่าน
จากนั้นตนเองพร้อมด้วยการ์ดคนเสื้อแดงได้วิ่งเข้าไปดู เห็นรถเก๋งสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นาน รถคันดังกล่าว ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง แล้วเปิดกระจกด้านซ้ายของคนขับ แล้วยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้ามาในเวที อีกจำนวน 3 นัด แล้วรถคันดังกล่าวได้ขับรถหนีไปอย่าง รวดเร็ว โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ตนไม่ได้ไปแจ้งความแต่อย่างใด เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้ มีให้เห็นแทบทุกวัน บางวันก็มีระเบิดปิงปอง ขว้างเข้ามาจำนวนมาก จึงคิดว่าอาจจะเป็นมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ก็เป็นได้
นอกจากนี้ ตนยังได้รับจดหมายข่มขู่ โดยหน้าซองจดหมาย มีสัญญลักษณ์ของทางราชการ ส่งถึง โกตี๋ สถานีวิทยุ คลื่น 105.65 โดยในเนื้อหาระบุ ว่า ปล .หากไม่อย่าตาย รีบหนีไปซะก่อนที่คนของผมจะลงมือ ซึ่งตอนนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คูคต เข้ามาดูแล และคอยเข้ามาตรวจสอบที่เวทีเรียบร้อยแล้ว
รับสมัครอพปช.โคราชวันแรก 600 คน
หลังจากที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ อพปช. ได้ทำการเปิดรับสมัคร ชาย-หญิง ในพื้นที่จ.นครราชสีมา เพื่อเป็น อพปช. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเสนอ นันทน์ธนกุล ผู้อำนวยการรับสมัคร อพปช. จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในการับสมัครวันแรก มีชาย-หญิง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา นำบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่าย มาเพื่อขอสมัครเป็น อพปช.จำนวนกว่า 600 คน และ หลังจากนี้ ก็จะให้แกนนำคนเสื้อแดงแต่ละอำเภอ ไปเปิดจุดรับสมัครในพื้นที่ของตน ให้ครอบคลุมทั้ง 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา ต่อไป
"คาดว่า จ.นครราชสีมา จะได้ อพปช.ไม่น้อยกว่า 2,000 คน ตามที่ตั้งเป้าไว้ และในช่วงเดือนเม.ย.นี้ อพปช.ประมาณ 2 แสนคน ทั่วประเทศ จะมารวมตัว กันที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา เพื่อสวนสนาม และรับนโยบายการปฏิบัติหน้าที่จากมติที่ประชุมของแกนนำ อพปช. หลังจาก นั้นก็จะแยกย้ายไปทำการฝึกยุทธวิธีต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดของตนเองต่อไป" นายเสนอฯ กล่าว.